นกกะเต็นลาย Banded Kingfisher มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Lacedo pulchella จัดอยู่ในวงศ์ Alcedinidae เป็นนกประจำถิ่นที่มีขนาดเล็กถึงกลาง มีการกระจายพันธุ์อยู่ในหมู่เกาะซุนดาใหญ่ มาเลเซีย เวียดนาม พม่า ไทย กัมพูชาและลาว ซึ่งประเทศไทยเราพบมี 3 ชนิดย่อย คือ ชนิดย่อย Lacedo pulchella pulchella (Horsfield) พบทางภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา ชนิดย่อย Lacedo pulchella amabilis (Hume) พบทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก
เฉียงเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงใต้ ภาคตะวันตก และภาคกลางในบางพื้นที่ และชนิดย่อย Lacedo pulchella deignani Meyer de Schauensee พบทางภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปถึงจังหวัดตรัง
ขนาดวัดความยาวจากปลายปากถึงปลายหางยาว 23 ซม. รูปร่างลักษณะหัวโต ปากสีแดงยาวและด้านข้างออกแบน ตัวผู้ที่หน้าผาก หูและแก้มมีสีน้ำตาลเข้มออกแดง ตรงกระหม่อมและท้ายทอยสีน้ำเงินอมฟ้าสดและมีจุดประสีขาวสลับสีดำแต้ม ลำตัวด้านบนและปีกสีดำมีลายแถบสีน้ำเงินอมฟ้าและยังมีจุดขาวประที่ลายแถบสีน้ำเงินอมฟ้า ส่วนใต้คอและท้องสีขาว อกและสีข้างตัวสีน้ำตาลอมเหลือง หางเป็นสีดำมีแถบสีน้ำเงินอมฟ้าพาดขวางเป็นบั้งตลอดหาง ส่วนตัวเมีย ตั้งแต่ที่หัว หลัง ลำตัวด้านบนและหางเป็นสีน้ำตาลแดงมีลายขวางสีน้ำตาลสลับกัน ตั้งแต่ใต้คาง อกไปถึงก้นมีสีขาว แต่ตรงส่วนอกช่วงบนและสีข้างลำตัวจะมีลายเป็นเกล็ดสีดำ ทั้งตัวผู้และตัวเมียมีขาสั้นสีดำ
โดยทั่วไปนกชนิดนี้ จะอาศัยหากินอยู่ตามป่าดงดิบชื้นและป่าเบญจพรรณ ตั้งแต่ระดับที่ราบไปจนถึงความสูง 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยมักเกาะอยู่เพียงลำพัง หรืออาจพบเป็นคู่ จะส่งเสียงร้องแหลมดัง “ชิ้ว..ว..ว..อิ้ว ชิ้ว..ว..ว..อิ้ว” เพื่อสร้างอาณาเขตและเพื่อการจับคู่ อาหารส่วนใหญ่แล้วนกชนิดนี้จะกินแมลงจำพวกตั๊กแตนต่างๆ จักจั่น จิ้งหรีด และกิ้งก่า มันจะบินโฉบจับเหยื่อกลางอากาศ หรือคอยจิกกินแมลงตามต้นไม้ มักจับเหยื่อฟาดกับกิ่งไม้เพื่อให้เหยื่อตายแล้วจึงจิกกลืนลงคอ
ช่วงฤดูผสมพันธุ์ สร้างรังวางไข่ อยู่ในราวเดือนกุมภาพันธุ์ถึงเดือนเมษายน มันจะขุดโพรงดินตามริมฝั่งน้ำ หรือบางครั้งพบสร้างรังไว้ตามโพรงรังเก่าของปลวกหรือโพรงไม้เก่าของนกอื่นที่ทิ้งร้างไว้เป็นที่วางไข่ มีเศษใบหญ้าและกิ่งไม้เล็กๆ รองพื้นรัง วางไข่ครั้งละ 4-5 ฟองนกทั้งสองเพศจะผลัดกันฟักไข่ ประมาณ 20-23 วันลูกนกออกจากไข่ยังไม่แข็งแรง พ่อและแม่นกจะช่วยกันเลี้ยงดูอยู่ 21-28 วันจนลูกนกแข็งแรงดีและออกบินได้แล้ว พ่อแม่นกจึงทิ้งรังให้ลูกนกหากินกันเองตามลำพังต่อไป
ปัญจพร ศรีบุญช่วย
ฝ่ายเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี