วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ภูมิบ้านภูมิเมือง : ‘พนมกุเลน’ภูมิธารสวรรค์ จากมเหนทรบรรพต

ภูมิบ้านภูมิเมือง : ‘พนมกุเลน’ภูมิธารสวรรค์ จากมเหนทรบรรพต

วันอาทิตย์ ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

ทิวเขาพนมกุเลนสถานที่ศักดิสิทธิ์

การเข้าสู่ประชาคมอาเชียนนั้นทำให้มีการเปิดประตูเพื่อเชื่อมโยงการศึกษาดูงานด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมในประเทศอาเซียนมากขึ้น ด้วยความสนใจจึงมีโอกาสเดินทางไปกับสถาบันอยุธยาศึกษาที่มีโครงการเดินทางเข้าไปชมปราสาทหินในพื้นที่เสียมเรียบและพระวิหาร สถานที่มีปราสาทขอมหลายแห่งที่น่าสนใจในระดับมรดกโลก อาทิตย์นี้ขอตามหาภูมิความเชื่อดั้งเดิมก่อนว่า ทำไมพนมกุเลนจึงเป็นจุดกำเนิดความศักดิ์สิทธิ์และสามารถขยายความเชื่อศรัทธานั้นลงไปสู่บริเวณพื้นที่ราบทำให้มีการสร้างปราสาทหินสำคัญไว้หลายแห่งทั้งในดินแดนกัมพูชาและประเทศไทย


การเดินทางขึ้นพนมกุเลนนั้นไม่ได้ง่ายดายนักด้วยเป็นภูเขาสูง ที่มีความสำคัญแต่อดีตคือเป็นแหล่งหินน้อยใหญ่ที่นำลงไปสร้างปราสาทหินนั่นเอง ประมาณได้ว่าสมัยนั้นมีการลำเลียงหินก้อนขนาดใหญ่ด้วยกำลังของช้าง ม้า โดยมีแรงคนจำนวนมากขึ้นมาชักลากหินก้อนเหล่านั้นลงจากภูเขาไปใช้ในการสร้างปราสาทหินที่อยู่ด้านล่างนั่นเอง หากเทียบระยะทางระหว่างปราสาทแต่ละแห่งแล้ว นึกภาพได้เลยว่างานสลักหิน-ชักลากหินนั้นหนักหนาเอาการ ไม่ล้มตายก็เห็นจะยากเพราะทั้งไข้ป่าและอุบัติเหตุจากการสกัดหิน ลากหินนั้นหาได้สะดวกสบายจนไม่ตายง่ายนั้นยากแท้ พนมกุเลนแห่งนี้มีชื่อในสมัยโบราณว่า มเหนทรบรรพต เป็นต้นเขากำเนิดของแม่นํ้าเสียมเรียบ ที่เรียกพนมกุเลนนั้นให้ความหมายจากการเป็นทิวเขาที่มีลิ้นจี่ป่าอยู่มาก-กุเลนในภาษาเขมรลิ้นจี่ป่า จุดเด่นของพนมกุเลนนี้อยู่ที่สายน้ำซึ่งไหลจากภูเขานี้ผ่านความเชื่ออันมหัศจรรย์ กล่าวคือด้านบนนั้นมีแหล่งนํ้าผุดขึ้นบนเขาและผุดขึ้นทุกวินาฑีโดยผ่านการกรองจากทรายละเอียดสีขาวดุจทะเลนํ้านมจนมองเห็นเป็นการกวนในเกษียรสมุทรจนนํ้าใสแจ๋ว จึงเชื่อว่าเป็นนํ้าศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์เช่นเดียวกับนํ้าอมฤตที่เกิดขึ้นตามตำนานของการกวนเกษียรสมุทรที่มีพญานาคราชพันเขาพระสุเมรุที่มีหมู่เทวดาและยักษ์ดึงลำตัวพญานาคกวนน้ำในมหาสมุทรโดยมีเต่าใหญ่รองรับเป็นแกนหมุนอย่างภาพที่ปรากฏตามหน้าบันและภาพสลักในเรื่องนี้นั่นเอง พนมกุเลนแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ไม่มีหลักฐานว่าพระองค์ประทับที่พนมกุเลนนานเท่าไร ภายหลังพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 เสด็จกลับมาครองราชย์ที่หริหราลัย

กลุ่มศิวลึงค์ที่สลักใต้นํ้า

หลังจากนั้นมาอีก 300 ปี จึงได้มีการสร้างปราสาทนครวัดและปราสาทอื่นๆ ขึ้น สำหรับน้ำใสจากบ่อน้ำผุดที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นไหลลงมารวมเป็นลำธารขนาดใหญ่ผ่านหินลงสู่เบื้องล่างตามระดับลดชั้นเป็นน้ำตกส่งน้ำสู่พื้นที่ราบ ดังนั้นลานหินที่น้ำใสไหลผ่านนั้นจึงมีการแกะสลักศิวลึงค์อยู่ใต้น้ำ เรียงรายไปตลอดเส้นทางนับได้กว่าพันองค์ แม้จะเป็นศิวลึงค์แบบตื้นตั้งอยู่บนฐานโยนีที่เป็นสัญลักษณ์ในการสร้างชีวิตสร้างโลกของพระศิวะกับพระแม่อุมาเทวี ซึ่งมีหลายขนาดแตกต่างกันทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ที่สุดนั้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งเมตร สามารถชมได้ชัดเจนในหน้าแล้งที่มีน้ำน้อย

ศิวลึงค์ขนาดใหญ่กลางสายธารสวรรค์

การแกะสลักศิวลึงค์และอื่นๆ บนลานหินกว้างนี้ทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 (ค.ศ.790-835) เมื่อแกะสลักเสร็จแล้วจึงได้จัดการผันให้ทางน้ำนั้นไหลผ่านรูปสลักศิวลึงค์นับพันเหล่านี้ จนสามารถสร้างคติความเชื่อให้เป็นธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ นอกจากศิวลึงค์นับพันองค์แล้วยังมีรูปแกะสลักพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ขึ้นอีกหลายแห่งบนก้อนหินที่มีหน้าตัดหน้าเอียงบนลานหินนั้น โดยให้อยู่ทั้งริมตลิ่ง  และจมใต้น้ำ ทำให้น้ำในธารนั้นเหมือนน้ำอมฤตจากเกษียรสมุทรไหลลงจากมเหนทรบรรพตหรือเขาไกรลาสนั่นแล หากตามลำธารนี้ไปก็เป็นน้ำตกและสุดทางที่ทะเลสาบ-โตนเลสาบที่อยู่ด้านล่าง ระหว่างทางนั้นมีวัดพระองค์ธม ซึ่งมีพระนอนแกะสลักจากหินส่วนยอดของหินก้อนใหญ่ หน้าตาใกล้เคียงศิลปทวาราวดี  จากการเป็นธารน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้จึงมีการอัญเชิญน้ำจากที่นี่ไปใช้ในพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาและบรมราชาภิเษกกษัตริย์ขอมมาแต่โบราณ ทำให้พนมกุเลนจึงเป็นนิมิตรูปของเขาพระสุเมรุราชที่มี 109 ยอด ส่วนยอดสูงสุดคือยอดเขาไกรลาสนั้นเป็นที่สถิตของพระศิวะ และพระนางอุมาเทวีดังนั้นพนมกุเลนจึงเป็นภูมิสัญลักษณ์ของเขาหิมาลัยที่มีธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ไหลลงมาจากธารสวรรค์นั่นเอง

ธารจากนํ้าตกที่ไหลลงสู่เบื้องล่าง

ทิวเขาพนมกุเลนสถานที่ศักดิสิทธิ์

ลานศิวลึงค์นั้นมีหลายขนาด

รูปสลักนารายณ์บรรทมสินธ์ุ

แหล่งนํ้าผุดบนเขาดุจทะเลนํ้านม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

พระสงฆ์กัมพูชา 2,569 รูปลงถนน เดินขบวนสันติภาพ-เรียกร้องหยุดยิง

เปิดคลิป เด็กม.5 สติหลุด!! รัวหมัด-ตีเข่า-เตะครูสาวกลางห้องเรียน เหตุไม่พอใจคะแนนสอบ

'แม่ทัพกุ้ง'เหลืออีก 51 วันเกษียณ ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เผยทหารกำลังใจดี หายเจ็บขอกลับหน้าแนว

'ทรัมป์'เปิดยอด'คนตาย'สงครามไทย-กัมพูชา2,000ศพ ยันไม่อยากได้รางวัล'โนเบลสันติภาพ'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved