‘คาราบาวแดง’ ปลูกจิตสำนึกเยาวชนรักบ้านเกิด
สนับสนุนชุมชนนักพัฒนาและใส่ใจสิ่งแวดล้อม
จากความสำเร็จของกิจกรรมประกวดเขียนเรียงความ โครงการตำบลของหนู ที่ให้นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เขียนเรียงความถึง คุณลุงแอ๊ด คาราบาว ในหัวข้อตำบลของหนู เพื่อเป็นการเพิ่มจิตสำนึกรักบ้านเกิด และ
สร้างความภูมิใจในท้องถิ่นของตนเอง บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มบำรุงกำลัง “คาราบาวแดง” และเครื่องดื่มเกลือแร่ “สตาร์ทพลัส” เดินหน้าสานต่อโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 พร้อมมอบทุนการศึกษาแก่ผู้ชนะเลิศและผู้นำชุมชน จัดพิธีมอบทุนการศึกษาขึ้นทีชุมชนคลองเสาธง ต.บางปูใหม่ อ.บางปู จ.สมุทรปราการ โดยมีลุงแอ๊ด คาราบาว และผู้บริหาร บริษัท คาราบาวตะวันแดง ร่วมกิจกรรม ท่ามกลางการต้อนรับจากชาวบ้านในชุมชนอย่างอบอุ่น โดยผู้ชนะเลิศคือ ด.ญ.ศลิษา หอสกุล จากโรงเรียนเอี่ยมสุรีย์ (อนุบาลเมืองสมุทรปราการ)
แอ๊ด คาราบาว เผยถึงความสำเร็จของโครงการว่า “โครงการนี้ เป็นสิ่งที่เราทำต่อเนื่องกันมากว่า 10 ปี และได้ส่งผลให้คนกลับมาตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมาเราเดินทางไปแทบทุกภาคของประเทศไทยตามที่จดหมายของน้องๆ เขียนมา ตัวผมเองก็ได้มีโอกาสมาเปิดหูเปิดตา และทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้เห็นภาพต่างๆ ของผู้คนในชนบทว่า เขามีความเป็นอยู่กับสิ่งแวดล้อมกันยังไง และปลุกจิตสำนึกให้เตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า เราเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องดูแลสิ่งแวดล้อมที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญของโลกในตอนนี้”
ยืนยง โอภากุล กก.บมจ.คาราบาว กรุ๊ป
ด้าน น้องอั้ม-ด.ญ.ศลิษา หอสกุล นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเอี่ยมสุรีย์ กล่าวด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจว่า “ไม่ค่อยเข้าใจว่าเรียงความคืออะไร คุณพ่อบอกว่าให้เขียนและเล่าเรื่องจากชีวิตจริงหนูก็เลยลองเขียนเรียงความจากชีวิตคุณพ่อดูค่ะ”
เรียงความของหนูน้อยวัย 11 ปี บอกเล่าถึงอาชีพประมงของคุณพ่อ และชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชน ตลอดจนการช่วยเหลือดูแลสิ่งแวดล้อมที่เธออยู่อาศัย โดยเธอบอกถึงการมีส่วนช่วยเหลือในชุมชนว่าจะช่วยจับกระบอกไม้ไผ่ลงไปในทะเลเพื่อสร้างบ้านปลา ซึ่งอนาคตเธออยากเห็นตำบลพัฒนาต่อไปให้ดีที่สุดและอยากให้ช่วยกันปลูกป่าทดแทน ไม่ตัดไม้ทำลายป่า
บรรเจิด อุดมสมุทรหิรัญ ประธานชุมชน คลองเสาธง
ภายหลังการมอบทุนแก่ผู้ชนะเลิศประกวดเขียนเรียงความแล้วยังได้มอบทุนพัฒนาและอนุรักษ์ธรรมชาติในชุมชนแก่ผู้นำชุมชน จำนวน 10,000 บาท พร้อมร่วมพูดคุยถึงโครงการ “โรงเรียนนอกกะลา” ที่ชาวบ้านคลองเสาธง ร่วมแรงร่วมใจกันสร้าง “บ้านปลา” โดยใช้ภูมิปัญญาไทยมาต่อยอดจนกลายเป็นสิ่งที่สร้างอาชีพและรายได้ให้กับคนในชุมชน
ประธานชุมชนคลองเสาธง บรรเจิด อุดมสมุทรหิรัญเผยถึงการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในชุมชนว่า แม้จะไม่มีอะไรตอบแทนแต่หลายๆ คนเข้ามามีส่วนร่วมอยู่ตลอด การทำโรงเรียนนอกกะลา ก็เพื่อเป็นการต่อยอดอาชีพให้ลูกหลานและทำให้ทุกคนตระหนักในสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาอยู่อาศัย ปัจจุบันมีชาวบ้านกว่า 10 ครอบครัว รวมกว่า 30 คน ช่วยกันทำโครงการบ้านปลา “จุดเริ่มต้นของโครงการบ้านปลา เกิดจากการที่นักวิชาการไม่สามารถสร้างปะการังเทียมขึ้นมาได้ ในหาดโคลนแต่ปู่ย่าตายายเราใช้ ซั้ง ในการสร้างบ้านปลาเทียม ซึ่งใช้งบประมาณเพียงชุดละ 200 บาท ตอนแรกเราใช้ของส่วนตัวกัน แต่หลังๆ ก็เริ่มมีทีมงานและมีหลายๆ คนเข้ามาช่วย ทำให้เรามีปลาทะเล กุ้งหอย ปู แม้กระทั่งปลาหมึก ส่งขายทั้งในและนอกชุมชน พร้อมกับส่งขายเป็นอาหารแปรรูป และมีคนมารับไปขายบ้าง ทำให้มีรายได้ดี”
ด.ญ.ศลิษา หอสกุล นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนเอี่ยมสุรีย์
โครงการนี้ช่วยให้คนในชุมชน มีอาชีพสร้างรายได้โดยไม่ต้องใช้ทุนมาก ชาวบ้านไม่ต้องออกจากบ้านไกล สามารถทำคนเดียวได้ โดยไม่ต้องมีลูกจ้าง พึ่งพาตนเองได้ และอยู่อย่างพอเพียง ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ผมไม่ได้มีมรดกร้อยล้านพันล้านให้ลูกหลานผม แต่นี่คือมรดกทางปัญญา มีคนมาหาผม 100 คน ต่อยอดให้ผมเพียงแค่คนเดียว ผมก็ดีใจแล้ว ยิ่งมีคนมาร่วมเยอะ ผมก็ยิ่งมีความสุข” ประธานชุมชน กล่าวทิ้งท้ายด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขในวันที่เป็นทั้งผู้รับและผู้ให้
ปิติชาย ตันปิติ ผอ. โรงเรียนเอี่ยมสุรีย์, กมลดิษฐ สมุทรโคจร กก.บริหาร บมจ.คาราบาว กรุ๊ป,
ยืนยง โอภากุล กก.บมจ.คาราบาว กรุ๊ป, ด.ญ.ศลิษา หอสกุล, บรรเจิด อุดมสมุทรหิรัญ ประธานชุมชนคลองเสาธง
ร่วมกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติ ปล่อยบ้านปลา
เด็กนักเรียนโรงเรียนเอี่ยมสุรีย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี