ณัฐวรรณ ทีปสุวรรณ

เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ และเผยแพร่พระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้านดนตรีให้เป็นที่ประจักษ์ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด  จัดโครงการภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” โดยมี  ณัฐวรรณ ทีปสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด พร้อมด้วย 4 ผู้กำกับภาพยนตร์มือฉมังของเมืองไทย ได้แก่ นนทรีย์ นิมิบุตร, วัลลภ ประสพผล, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ และยงยุทธ ทองกองทุน  ร่วมแถลงข่าว  ณ โรงภาพยนต์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยาม พารากอน

ณัฐวรรณ ทีปสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ และสื่อสารองค์กร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เผยถึงความเป็นมาของโครงการฯ ว่า  “เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวในพระปรีชาสามารถด้านดนตรีและการพระราชนิพนธ์เพลง และเผยแพร่บทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่าให้เป็นที่ประจักษ์ รวมทั้งให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทาน บทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่า และนำเรื่องราวจากภาพยนตร์ ไปเป็นแรงบันดาลใจในการคิดและปฏิบัติตนให้เป็นคนดีต่อสังคม โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่”

“ปีที่ผ่านมา บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้น้อมนำเรื่องราวพระปรีชาสามารถทางดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเผยแพร่ เพื่อเทิดพระเกียรติคุณนี้ให้เป็นที่ประจักษ์ ผ่านรูปแบบสารคดี และการจัดทำแคมป์สำหรับเยาวชน และในครั้งนี้จึงมีแนวคิดในการผลิตภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชื่อชุด “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” จำนวน 4 เรื่อง ความยาวรวม 130 นาที เพื่อเข้าถึงทุกคนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ พร้อมเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 4 บทเพลง ที่มีความไพเราะและมีความหมายลึกซึ้งมาเป็นแรงบันดาลใจในแนวคิดของ แต่ละเรื่อง”

สำหรับภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติชุดนี้ประกอบด้วย เรื่อง “The Singers” กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ชะตาชีวิต” ขับร้องโดย นีรนุช ปัทมสูต และ ธนิดา ธรรมวิมล (ดา เอ็นโดรฟิน), เรื่อง “อมยิ้ม” กำกับโดย วัลลภ ประสพผล ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ยิ้มสู้” ขับร้องโดย ปราการ ไรวา จากวงดนตรีเก็ตสึโนวา, เรื่อง “ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง” กำกับโดย ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “สายฝน” ขับร้องโดย อัญชลี จงคดีกิจ และเรื่อง “ดาว” กำกับโดย ยงยุทธ ทองกองทุน ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ความฝันอันสูงสุด” ขับร้องโดย สหรัถ สังคปรีชา และ ด.ญ.กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ

4 ผู้กำกับภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ ชุด คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์ นำโดย วัลลภ ประสพผล , นนทรีย์ นิมิบุตร , ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ และ ยงยุทธ ทองกองทุน

นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับภาพยนตร์ เรื่อง “The Singers” ที่ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ชะตาชีวิต” เผยว่า  ในวัย 10 กว่าขวบ  เวลาไปทานข้าวกับครอบครัว คุณลุงชอบให้ขึ้นไปร้องเพลง “ชะตาชีวิต” ซึ่งเป็นเพลงที่ตนร้องได้ต้นจนจบตั้งแต่ตอนนั้น มีความรู้สึกว่าเพลงนี้ผูกพันบางอย่างกับครอบครัว มีความภูมิใจเวลาที่ได้ร้อง ได้เปล่งเสียงออกมา สำหรับเพลงชะตาชีวิต ให้ความสะเทือนใจบางอย่าง ทำให้นึกถึงความเหงายามเย็น ความรู้สึกที่ไม่มีใครเหลียวแล จึงอยากนำเสนอถึงคนแก่ที่ถูกทอดทิ้งอยู่บ้าน ที่ต่างจังหวัด เรามักได้เห็นคนแก่มีรูปขาวดำเรียงกันเป็นสิบๆ ภาพ ชีวิตคนเรามันก็เท่านี้ เมื่อเกิดมาเราอาจได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น หรือสร้างคุณงามความดีเอาไว้บนโลกใบนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เราทิ้งไว้ในโลกใบนี้คือภาพขาวดำของตัวเอง พร้อมฝุ่นและหยากไย่  ตนสะเทือนใจทุกครั้งที่ได้เห็น ทำให้รู้สึกว่าเราน่าจะได้พูดถึงพวกเขา

ด้าน วัลลภ ประสพผล ผู้กำกับภาพยนตร์ เรื่อง “อมยิ้ม” ที่ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ยิ้มสู้” เผยว่า ตนได้ยินเพลงยิ้มสู้มานานแล้ว เพลงนี้มีความสวยงาม และมองโลกในแง่ดี การที่คนเราจะยิ้มสู้ได้ คือ ต้องเจอสถานการณ์แย่ๆ  และต้องมีสุขภาพจิตดีมากที่เมื่อเจออะไรก็ตาม เราจะบอกว่า โอเคเราจะยิ้มสู้ โลกเราทุกวันนี้ใช้ชีวิตยากเย็น มีความเกลียดชัง มีการแสดงออกแย่ๆ ต่อกัน  ตนว่าวิธีง่ายๆ แต่มีพลังแบบนี้น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งการยิ้มสามารถทำให้อะไรก็ตามผ่านไปได้อย่างที่ไม่ทำร้ายใคร

ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง” ที่ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์  “สายฝน” เผยว่า บทเพลงพระราชนิพนธ์สายฝน เป็นเพลงที่คุ้นหู และประทับใจมาตั้งแต่เด็กๆ ฟังแล้วรู้สึกดี สบายใจ และมีความรู้สึกว่าอยากทำ อยากเล่า อะไรสักอย่างเกี่ยวกับเพลงนี้ ตนนึกถึงความเมตตา ความเอื้ออาทร นึกถึงสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทำ นึกถึงว่ามีใครที่เป็นปูชนียบุคคลตามพระราชดำรัสพระเจ้าอยู่หัว ตนนึกถึงคุณสืบ นาคะเสถียร ช่วงที่ตนเรียนมัธยมต้น จะมีโทรทัศน์ติดในโรงอาหารให้นักเรียนดู ตนได้เห็นภาพคุณสืบช่วยกวางโดยต้องขี่เรือออกไป ตอนนั้นเราไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับคุณสืบมากนัก แค่พอรู้ว่าคนคนนี้เขาอนุรักษ์สัตว์ป่าเท่านั้น จนตอนโตได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับเขา เพิ่งได้รู้ว่าคุณสืบเป็นคนเสียสละ และยอมตายเพื่อรักษาป่าห้วยขาแข้งไว้ จนกระทั่ง UNESCO ประกาศให้ห้วยขาแข้งเป็นมรดกโลก และในช่วงเวลาที่ประเทศของเราขาดผู้นำทางความคิดบางอย่าง เรื่องคุณสืบน่าจะถูกหยิบขึ้นมาเล่าเป็นภาพยนตร์ให้คนได้เห็นว่าคุณสืบทำคุณประโยชน์อะไรให้กับประเทศบ้าง

ยงยุทธ ทองกองทุน  ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “ดาว” ที่ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์  “ความฝันอันสูงสุด” เผยว่า โดยส่วนตัวชอบความหมายของบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ความฝันอันสูงสุด” มาก รู้สึกว่าที่ผ่านมาส่วนใหญ่เพลงความฝันอันสูงสุดมักจะถ่ายทอดผ่านเรื่องราวของผู้ใหญ่ หรือมักจะถูกใช้ในเหตุการณ์เกี่ยวกับทหาร หรือการปกป้องชาติ ซึ่งเป็นอะไรที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่ และสำคัญมากๆ ตนจึงมองว่า ถ้าเพลงความหมายที่ดีมากๆ เพลงนี้ สามารถใช้เป็นแรงบันดาลใจในมุมมองของเด็กๆ ที่ต้องการทำอะไรสักอย่างหนึ่งซึ่งเป็นความฝันสูงสุดของเขา และสิ่งนี้กลายเป็นสิ่งที่จุดประกายที่จะถ่ายถอดเรื่องราวนี้เป็นภาพยนตร์ ซึ่งบางที เราอาจจะได้ข้อคิดบางอย่างในการย้อนกลับมามอง “ความฝันอันสูงสุด” ของตัวเราเองก็เป็นได้

ปุ๊ - อัญชลี จงคดีกิจ ศิลปินผู้ขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ “สายฝน”

ร่วมชมภาพยนตร์ “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” ที่สร้างจากแรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีกำหนดการเผยแพร่ภาพยนตร์ในรอบปฐมทัศน์ วันที่ 6พฤษภาคม 2558  และระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2558 ในโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ทั้ง 10 สาขา ได้แก่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขาปิ่นเกล้า รังสิต รัชโยธิน ชลบุรี และเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่, อีจีวี ขอนแก่น และ โคราช, พารากอน ซีนีเพล็กซ์, เมกา ซีนีเพล็กซ์ และหาดใหญ่ ซีนีเพล็กซ์ โดยในวันที่ 7 และ 8 พฤษภาคม  ฉาย 1 รอบ เวลา 19.30 น., วันที่ 9 และ 10 พฤษภาคม ฉาย 4 รอบ เวลา 11.00 น., 14.00 น., 17.00 น., และ 20.00 น. สามารถติดตามรายละเอียดและรับบัตรชมฟรีได้ที่ www.คีตราชนิพนธ์.com

ศิลปินเก็ตสึโนวา ขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ยิ้มสู้”