บรรยากาศการทำงานภายในศูนย์ Call Center 1188 ทัณฑสถานหญิงบำบัดพิเศษคลอง 5 ปทุมธานี

เพื่อมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าและประโยชน์ร่วมกันระหว่างองค์กรและสังคม ภายใต้แนวคิด “คนไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง” กลุ่มอินทัช ประกอบด้วย บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์, บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส, บมจ.ไทยคม และ บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ จึงใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ จัดทำโครงการ “Call Center 1188 ทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิงคลอง 5 จ.ปทุมธานี” เพื่อส่งเสริมอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับผู้ต้องขังหลังพ้นโทษ โดยพาสื่อมวลชนเยี่ยมชมความสำเร็จของโครงการ ณ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง กรมราชทัณฑ์ คลอง 5 จ.ปทุมธานี

วิไล เคียงประดู่ ประธานคณะกรรมการกลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กลุ่มอินทัช กล่าวว่า “ในการสร้างสรรค์คุณค่าและประโยชน์ร่วมกันระหว่างองค์กร และสังคม โดยกลุ่มอินทัช ได้นำทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ รวมถึงศักยภาพขององค์กรมาสร้างโอกาส สร้างอาชีพให้กับผู้ต้องขัง และผู้พิการ ซึ่งได้ดำเนินการในหลายโครงการ อาทิ โครงการปลูกข้าวเพื่อสุขภาพ โดย อินทัช ในพื้นที่เรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน สังกัดเรือนจำกลาง จ.สุรินทร์ ให้ผู้ต้องขังมีรายได้ และอาชีพเลี้ยงตัวเองหลังพ้นโทษ, โครงการ Call Center 1188 ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง คลอง 5 จ.ปทุมธานี และโครงการเอไอเอส คอลเซ็นเตอร์เพื่อผู้พิการ ซึ่งเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ และเปิดโอกาสให้กับคนเหล่านี้ได้แสดงศักยภาพ และสามารถเลี้ยงตนและครอบครัวได้

สำหรับโครงการ Call Center 1188 ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง คลอง 5 จ.ปทุมธานี เป็นโครงการ CSV ของ บมจ.เทเลอินโฟมีเดีย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Call Center โดยจัดตั้งโครงการขึ้นเมื่อปี 2555 ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ ที่มีนโยบายในการฝึกวิชาชีพ พัฒนาฝีมือแรงงาน และส่งเสริมการมีงานทำให้กับผู้ต้องขังหญิงหลังจากพ้นโทษเป็นครั้งแรกของเมืองไทย ผ่านบริการ Call Center 1188 บริการสอบถามข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ของกลุ่มธุรกิจ ร้านค้ารวมไปถึงข้อมูลบุคคลทั่วประเทศกว่า6 ล้านหมายเลข ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้า และบริการ รวมไปถึงหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน บริการรับพิมพ์ และส่งข้อความผ่าน SMS เป็นต้น

บรรยากาศการทำงานภายในศูนย์ Call Center 1188 ทัณฑสถานหญิงบำบัดพิเศษคลอง 5 ปทุมธานี

ด้าน อนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ เผยว่า โครงการ Call Center 1188 ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง คลอง 5 จ.ปทุมธานี เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 โดยมีผู้ต้องขังเข้ามาเป็นพนักงาน เพียง 20 คน โดยทางเทเลอินโฟมีเดียเป็น
ผู้ฝึกอบรม วางระบบ เตรียมสถานที่ พร้อมทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการทำงาน ตลอดปรับปรุงทัศนียภาพ และสร้างบรรยากาศการทำงานให้เสมือนออฟฟิศจริงซึ่งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่า ผู้ต้องขังมีศักยภาพในการทำงานที่ดี มีพัฒนาการ ความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานไม่ด้อยไปกว่าพนักงานที่อยู่ภายนอก อีกทั้ง ยังอยู่ในกฎระเบียบเป็นอย่างดี ไม่มีเรื่องอื่นๆ มาทำให้เสียสมาธิในการทำงาน

ทั้งนี้ ได้เริ่มขยายจำนวนพนักงานเป็น 80 คน ทำงานวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 08.00-17.00 น. โดยทางบริษัทจะมีเงินเดือนให้แก่ผู้ต้องขังในอัตราที่เหมาะสม โดยรายได้ที่ผู้ต้องขังได้รับจะถูกแบ่งเป็นสองส่วน ในส่วนแรกผู้คุมจะนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อของที่จำเป็นสำหรับผู้ต้องขัง และอีกส่วนหนึ่งทางกรมราชทัณฑ์ได้มีการฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ให้กับผู้ต้องขังแต่ละคน เพื่อที่เวลาพ้นโทษจะได้มีเงินก้อนสำรองติดตัวไว้ใช้ในอนาคต

สุชิน ดำกระเด็น ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขังทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง กรมราชทัณฑ์ เผยว่า ทุกวันนี้ในเรือนจำทั่วประเทศ มีจำนวนผู้ต้องขังอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อรับเข้ามาแล้ว จะให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่ได้ เราจึงต้องมีภารกิจ ในการแก้ไข ด้วยการให้โอกาสเขาได้ปรับปรุง และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งในการพัฒนาคุณภาพของกรมราชทัณฑ์ที่ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง คือ การฝึกวิชาชีพ การใช้แรงงาน และงานบริการต่างๆ นอกจากนี้ทางเรายังได้รับโอกาสดีๆ จากกลุ่มอินทัช ที่มอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับผู้ต้องขัง นับว่าเป็นเส้นทางหนึ่งที่ทำให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสแสดงศักยภาพของตนเอง ได้ใช้ความรู้ ความสามารถที่เขามีอยู่อย่างเต็มที่ ซึ่งผลงานที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจกับทางบริษัทเช่นกัน

สองผู้บริหาร วิไล เคียงประดู่ และ อนันต์ แก้วร่วมวงศ์

ครีม (นามสมมุติ) 1 ในผู้ต้องขังที่เข้าร่วมโครงการ “Call Center 1188” เล่าว่า ตนเข้าสมัครมาเป็นคอลเซ็นเตอร์รุ่นแรก ทำงานมา 2 ปี 6 เดือนแล้ว ก่อนเข้ามาเป็นคอลเซ็นเตอร์ตนต้องผ่านการทดสอบทั้งการพิมพ์เร็ว ทักษะการสะกดคำ ทักษะการอ่าน เป็นต้น ในช่วงที่ทำงานรู้สึกตื่นเต้น และสนุกกับการทำงานมาก เนื่องจากไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน รู้สึกเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับตนมาก ต้องขอบคุณทางบริษัทที่ได้จัดทำโครงการแบบนี้เพื่อมารองรับผู้ต้องขังโดยเฉพาะ นอกเหนือจากการได้ประสบการณ์ในการทำงานแล้ว ยังได้รายได้พิเศษ เพื่อนำไปช่วยเหลือครอบครัว และเป็นเงินสำรองไปใช้หลังจากพ้นโทษอีกด้วย อีกทั้งยังได้เรียนรู้การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่คอยให้คำแนะนำ และช่วยแก้ไขปัญหาในบางส่วนที่ตนไม่เข้าใจ และในอนาคตเมื่อตนพ้นโทษออกไปแล้ว ตนจะทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ของบริษัทนี้ต่ออย่างแน่นอน เพราะบริษัทนี้ได้ยื่นโอกาสให้กับตน พร้อมยอมรับผู้ต้องขังอย่างตนได้อีกด้วยแถมเป็นงานที่สุจริต และเป็นงานที่เราไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ สามารถลงมือทำได้เลย

สุชิน ดำกระเด็น