เป็นสถาปนิกหนุ่มที่มากความสามารถอีกคน สำหรับ “วสุ วิรัชศิลป์” PRINCIPAL ARCHITECT DIRECTOR, กรรมการผู้จัดการ บริษัท แวสแล็บ จำกัด แม้จะเป็นบริษัทของคนไทย แต่ว่าผลงานอยู่ในระดับอินเตอร์ แถมคว้ารางวัลมาแล้วมากมายทั้งในและต่างประเทศ รายการ“ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ทุกวันอาทิตย์เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 โดยพิธีกร “ขิม-ทิพย์ลดาพูนศิริวงศ์” จึงคว้าตัวมาพูดคุยถึงผลงานและความสำเร็จของเขา

วสุ วิรัชศิลป์ เล่าว่า “เริ่มต้นจากการที่ผมชอบวาดรูป และก็ชอบมีความคิดในการแสดงออกในเรื่องของศิลปะค่อนข้างเยอะตั้งแต่เด็ก ด้วยความชอบนี้ก็นำมาซึ่งการที่ผมเข้าไปเรียนในคณะสถาปัตย์ ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร

จากนั้นก็ย้ายโอนหน่วยกิตไปเรียนที่นิวยอร์ก และก็ได้ปริญญาตรีมา แล้วก็ไปต่อปริญญาโทที่โคลอมเบีย ยูนิเวอร์ซิตี้ ที่นิวยอร์กเหมือนกัน จากนั้นก็กลับมาเมืองไทย และก็ได้เปิดออฟฟิศในปี 2003 ก็ประมาณ 12 ปีแล้วครับ ก็ทำงานทั้งงานสถาปัตย์ และงานอินทีเรีย บริษัทชื่อว่า แวสแล็บ

สำหรับสไตล์ของงาน จริงๆ แล้วงานของแวสแล็บก็เป็นพื้นฐานของงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ซึ่งแนวทางของเราจะมีแนวทางที่ใช้เส้นสายค่อนข้างเยอะ คือมีเรื่องของเส้นสายที่ไดนามิก และก็เป็นงานที่ค่อนข้างมินิมอล แต่ว่าเป็นงานที่ใช้ทั้งเรื่องของฟอร์มและสเปชที่มีความเคลื่อนไหว และก็อิงถึงงานประติมากรรมบ้าง เพราะฉะนั้นบางงานก็จะค่อนข้างมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนแล้วก็มีเส้นสายที่ค่อนข้างโดดเด่น มีองค์ประกอบศิลป์ที่น่าสนใจ

เรื่องแรงบันดาลใจในการทำงานก็หลายอย่างเลยครับ ก็มีทั้งงานศิลปะสมัยก่อน ที่ผมชื่นชอบก็มีงานของ พาโบล พิแคสโช่ แล้วก็มีงานของ มาร์เซล ดูชอง บางงานที่อยู่ในยุคของดาด้า และรวมทั้งสถาปนิกรุ่นเดอะสมัยก่อนปี 1920 กว่า สมัยของเลอ คอร์บูซิเยร์ ซึ่งเป็นศิลปินญี่ปุ่นที่ผมชื่นชอบมาก และก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำงานจนถึงทุกวันนี้

ผลงานที่โดดเด่น ในเมืองไทยงานแรกๆที่ผมได้รับคำชมและคำวิจารณ์ที่ดี ก็จะมีงาน ฮอนด้า บิ๊กวิงค์ ที่ บริเวณเลียบทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา แล้วก็จะมีงานลิส แบงค็อก โฮเทล ด้านหลังหอศิลป์กรุงเทพและล่าสุดก็จะเป็นงาน คาซ่า เดอลา ฟลอรา งานรีสอร์ทที่เขาหลัก พังงา

ส่วนผลงานในต่างประเทศ ถามว่าไปได้อย่างไร จริงๆ แล้วมันมาจากผลงานที่เมืองไทยก่อน คือเราไม่เคยคิดว่าจะมีงานต่างประเทศในตอนแรก หลังจากนั้นเราทำงานไปเรื่อยๆ ถ้ามีงานพอร์ตสตูดิโอที่เสร็จแล้วในเมืองไทย ปรากฏที่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ดังๆ เขาก็นำเสนอผลงานเราผ่านทางเว็บไซต์ ฉะนั้นคนทั่วโลกก็จะเห็นก็เลยกลายเป็นว่าเราได้ชื่อเสียงจากตรงนี้มาจากนั้นลูกค้าชาวต่างประเทศ ก็มีทั้งคนสิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย และก็จีน ก็ติดต่อมาเรื่อยๆ

งานล่าสุดที่ได้ทำก็คือ เป็นงานที่มาเลเซีย ชื่องาน อีโป มอเตอร์สปอร์ต คลับเฮ้าส์ ที่น่าสนใจมันเป็นโรงแรมกึ่งวีไอพีคลับเฮ้าส์ เป็นตึกสูงประมาณ 7 ชั้น กึ่งคอนโดฯด้วยติดกับสนามแข่งรถเลย ซึ่งเราได้โปรเจกท์นี้มาเนื่องจากลูกค้าชาวสิงคโปร์มีเนื้อที่ในมาเลเซีย แล้วเขาชอบงานที่เราออกแบบ ฮอนด้า บิ๊กวิงค์ หรือว่างานโชว์รูมที่เราเคยออกแบบมา ซึ่งทางลูกค้าเขาสนใจเห็นว่าเราทำได้ทั้งโชว์รูมรถยนต์ แล้วก็โรงแรม เพราะฉะนั้นบริบทใหม่ที่ว่าสำหรับโปรเจกท์นี้มันลงตัว เพราะมันเป็นทั้งโรงแรมที่ติดกับสนามแข่งรถใหม่ที่จะเกิดที่เมืองอีโป มาเลเซีย ซึ่งตอนนี้ยังไม่เสร็จ กำลังทำอยู่

เรื่องรางวัล เราก็ได้รางวัลมาบางจำนวน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นจะเป็นรางวัลของงานที่เราทำชื่อ คาซ่า เดอลา ฟลอร่า เป็นรางวัลที่ชื่อว่า ไอโคนิก อวอร์ด 2014 ก็เป็นวินเนอร์ และก็เป็นวินเนอร์ของรางวัลที่ชื่อว่า THE INTERNATIONAL ARCHITECTUREAWARD อันนี้ก็เป็นของชิคาโก ก็เป็นวินเนอร์เหมือนกัน นอกจากนั้นก็จะมีไทยแลนด์ พล็อพเพอร์ตี้ อวอร์ด แล้วก็จะมีเอเชีย แปซิฟิก โฮเทลอวอร์ด ที่เป็นเบสท์พร็อพเพอร์ตี้ ของประเภทโรงแรม ก็คือรางวัลที่ได้รับทั้งจากเมืองไทยและต่างประเทศ

ส่วนเรื่องของหลักการในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ จริงๆ แล้วผมว่า อันดับแรกเลยนะครับ ต้องมีความหลงใหลกับอาชีพ ฉะนั้นเราต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเราชอบอะไร ถ้าเราชอบดีไซน์แล้วเราทำเต็มที่คือทำวันนี้ให้ดีที่สุด และก็เอ็นจอยเวิร์กกิ้งนั่นเป็นสิ่งที่ดี แล้วอีกอย่างถ้าในการดำเนินชีวิตผมว่านอกเหนือจากการทำงานด้วยความรักแล้วน่าจะเป็นเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริต ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ด้วยความมีจรรยาบรรณ ว่าเราจะทำงานอย่างซื่อสัตย์กับลูกค้า แล้วก็จะไม่มีผลประโยชน์อย่างอื่นที่นอกเหนือจากการทำงานให้ลูกค้า ถ้าเราทำได้แค่ 2 อย่างนี้ผมคิดว่า จริงๆ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องของประสบความสำเร็จนะครับ ความสำเร็จอาจจะตามมาโดยที่เราไม่รู้ตัว ตัวเราอาจจะไม่เรียกว่าความสำเร็จก็ได้ แต่ว่าเป็นความพอใจในอาชีพของเรา ที่เรามีความสุขมากกว่า”