วันจันทร์ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
สาวอยากมีหน้าท้องสวยต้องฟัง! 11สาเหตุที่ทำให้คุณยังคงมี'พุง'

สาวอยากมีหน้าท้องสวยต้องฟัง! 11สาเหตุที่ทำให้คุณยังคงมี'พุง'

วันพฤหัสบดี ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2558, 12.07 น.
Tag :
  •  

คุณเคยสงสัยหรือไม่ ว่าทำไม "พุง" หรือไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องของคุณไม่หายไปสักที แม้ว่าคุณจะควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ในวันนี้เรามีคำตอบกับ 11 สาเหตุไขข้อข้องใจทำไมไขมันหน้าท้องยังอยู่

1. อายุมากขึ้น


เมื่อคุณอายุมากขึ้น น้ำหนักตัวของคุณก็จะมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง อัตราการเผาผลาญน้อยลง รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการด้วย หากผู้หญิงมีน้ำหนักตัวเพิ่มหลังจากที่เข้าสู่ภาวะวัยหมดประจำเดือนแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าไขมันเหล่านั้นจะไปสะสมอยู่ที่หน้าท้อง เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรนก็จะช้าลง ขณะเดียวกันระดับเทสโทสเตอโรนก็จะเริ่มลดต่ำในอัตราที่ช้ากว่าปกติและทำให้ผู้หญิงมีไขมันหน้าท้องนั่นเอง

2. ออกกำลังกายผิดวิธี

การวิ่งหรือการปั่นจักรยานทุกวันมีประโยชน์ต่อหัวใจแต่การบริหารเฉพาะหัวใจก็ไม่ได้ทำให้รอบเอวลดลงสักหน่อย คุณต้องบริหารหัวใจพร้อมกับควบคุมน้ำหนักไปด้วยซึ่งจะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น กล้ามเนื้อจะเผาผลาญแคลอรี่มากกว่าไขมัน ดังนั้นยิ่งสร้างกล้ามเนื้อก็จะยิ่งเผาผลาญแคลอรี่ได้เท่านั้น คุณควรออกกำลังกายแบบเบาๆ ราว 250 นาทีต่อสัปดาห์ หรือออกกำลังกายแบบหนักหน่วงราว 125 นาทีต่อสัปดาห์

3. รับประทานอาหารแปรรูปมากเกินไป

กลุ่มธัญพืชแปรรูปอย่างขนมปัง แคร็กเกอร์ และมันฝรั่งทอดกรอบ รวมถึงน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ในเครื่องดื่มรสหวานและขนมหวานต่างๆ จะช่วยเพิ่มการอักเสบในร่างกาย ไขมันหน้าท้องก็พอกพูนด้วย ดังนั้นการรับประทานอาหารแปรรูปมากเกินไปจะทำให้ความสามารถในการลดไขมันหน้าท้องลดลง อาหารธรรมชาติ เช่น ผลไม้ ผัก และเมล็ดพืชเต็มเมล็ดจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีสรรพคุณต่อต้านการอักเสบและป้องกันการสะสมของไขมันหน้าท้อง

4. รับประทานไขมันผิดประเภท

ร่างกายของคนเราไม่ได้มีปฏิกิริยากับไขมันทุกประเภทในรูปแบบเดียวกัน การรับประทานไขมันอิ่มตัว (พบได้ในเนื้อสัตว์และนม) จะทำให้ไขมันในช่องท้องเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (พบได้ในน้ำมันมะกอกและอะโวคาโด้) กับไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนบางประเภท (เช่น โอเมก้า3 พบได้ในถั่ววอลนัท เมล็ดทานตะวัน และปลาแซลมอน) จะมีฤทธิ์ต้านการอักเสบในร่างกาย และถ้ารับประทานในปริมาณที่เหมาะสมก็จะมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก แต่หากรับประทานมากเกินไปจะทำให้แคลอรี่กับน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้

5. การออกกำลังกายยังไม่เข้มข้นพอ

ในการลดไขมันหน้าท้องคุณจำเป็นต้องออกกำลังกายให้หนักขึ้น การออกกำลังกายแบบหนักๆ เช่น การเล่นเวท ยกน้ำหนัก หรือชกมวย เป็นต้น จะเผาผลาญแคลอรี่และลดไขมันหน้าท้องได้มากกว่าการออกกำลังกายแบบเบาๆ อย่างเช่น การเดินเล่นชมนกชมไม้ การปั่นจักรยานในสวน การแกว่งแขน หรือวิ่งเหยาะๆ บนลู่วิ่ง

6. บริหารไม่ถูกท่า

การเล่นท่าบริหารกล้ามท้องไม่ได้ช่วยให้หน้าท้องของคุณมีซิกซ์แพคขึ้นมาทันที แต่คุณควรออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง หลัง กระดูกเชิงกราน ข้างลำตัว และส่วนอื่นๆแทน อย่างเช่น ท่า Plank ก็ใช้ได้ผลดีสำหรับการลดหน้าท้อง เพราะนอกจากจะช่วยบริหารกล้ามเนื้อหลักแล้ว ยังช่วยบริหารกล้ามเนื้อแขน ขา และก้นด้วย

7. ความเครียด

ความเครียดจากการทำงาน เครียดจากเรื่องส่วนตัว และเครียดจากสภาวะแวดล้อมที่เป็นพิษ ความเครียดทั้งหมดนี้ ล้วนทำให้น้ำหนักตัวของคุณลดยากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง ซึ่งตัวการหลักของเรื่องนี้ได้แก่ ไขมัน แคลอรี่ และฮอร์โมนคอร์ติซอลนั่นเอง

8. นอนหลับไม่เพียงพอ

การศึกษาจากผู้หญิงเกือบ 70,000 คน พบว่าผู้ที่นอนหลับนานคืนละ 5 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น มีแนวโน้มที่จะน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าผู้ที่นอนหลับนาน 7 ชั่วโมงถึงร้อยละ 30 ดังนั้นมีคำแนะนำว่าคุณควรเข้านอนให้เร็ว เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียง ซึ่งเวลาที่เหมาะสมคือ คุณต้องหลับคืนละ 7-8 ชั่วโมง

9. หุ่นทรงแอปเปิ้ล

หากคุณมีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องมากกว่าช่วงสะโพกและต้นขาล่ะก็ นั่นหมายความว่าคุณมีหุ่นเป็นทรงแอปเปิ้ล ซึ่งรูปร่างตามพันธุกรรมลักษณะนี้จะทำให้การกำจัดไขมันหน้าท้องยากกว่าปกติ แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

10. อาการป่วย

หากระดับเทสโทสเตอโรนของคุณสูงก็เป็นไปได้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับโรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ หรือ PCOS ซึ่งมีปัญหาในเรื่องการลดน้ำหนัก หากคุณมีหุ่นทรงแอปเปิ้ลพร้อมกับน้ำหนักตัวมากเกินไปก็ควรไปพบแพทย์ดีกว่า เนื่องจากคุณมีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน

11. ขาดแรงจูงใจ

คุณออกกำลังกายเพื่อลดไขมันหน้าท้องหรือเปล่า? การลดไขมันหน้าท้องต้องรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำซึ่งอุดมไปด้วยกากใยอาหารและมีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตกับน้ำตาลต่ำ พร้อมกับออกกำลังกายเพื่อบริหารหัวใจควบคู่ไปด้วย หากคุณมีความตั้งใจ อีกไม่นานไขมันหน้าท้องก็จะยอมโบกมือลาจากคุณไปอย่างแน่นอน


ที่มา : issue247

health

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

บูมอเมริกา!มวยไทยซอฟต์พาวเวอร์ถิ่นมะกัน

รวบสายลับเขมรพร้อมโดรน-GPS ชี้เป้าโจมตีกองบิน 5 ประจวบคีรีขันธ์

'เป้-บี'นำทีม 'เดอะ สโตน พระแท้ คนเก๊' มอบรายได้รอบพิเศษร่วมสมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลสงฆ์

‘อังคณา’ชี้ ประชุม GBC เป็นโอกาสดีของไทยและกัมพูชาในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved