พระเกียรติคุณที่ทรงได้รับการแซ่ซ้องสดุดีจากนานาชาติ จัดแสดงในภาคที่สาม “พระคุณพิสิฐสรรพสกล”
เนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2559 มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า จึงจัดนิทรรศการ “สัปตมวรรตบรมขัตติยราชินีนาถ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเวลากว่า 60 ปี โดยมีคุณชวลี อมาตยกุล เลขานุการมูลนิธิฯ และพาสินี ลิ่มอติบูลย์ ร่วมแถลงข่าว ณ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม
คุณชวลี อมาตยกุล เลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า กล่าวว่า นิทรรศการ “สัปตมวรรตบรมขัตติยราชินีนาถ” จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ และทรงสืบสานพระราชปณิธานและพระราชกรณียกิจสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าเพื่อประเทศชาติและอาณาประชาราษฎร์ ซึ่งนิทรรศการครั้งนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติอันเกี่ยวเนื่องด้วยวังสระปทุม ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2493 และเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ทั้งด้านการศึกษา การสังคมสงเคราะห์ การพัฒนาความเป็นอยู่ของพสกนิกร การอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ การอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมไทย
นิทรรศการแบ่งแบ่งเนื้อหาสาระออกเป็น 4 ภาค ได้แก่ ภาคแรก “ปทุมนิวาสราชปวัตติ” แสดงพระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติพระบรมราชินีนาถ เกี่ยวกับวังสระปทุม คือพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส เมื่อ 65 ปีที่ผ่านมา และพระราชกิจในหน้าที่ สมเด็จพระราชชนนี ในการทรงอภิบาลอบรมสมเด็จพระราชโอรส และสมเด็จพระราชธิดา ภาคที่สอง “สิริวัฒนรัชกรณียกิติ” แสดงเรื่องราวการทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขเคียงคู่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงดำเนินตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
ทั้งด้านการแพทย์ สาธารณสุข การศึกษา การอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ การสังคมสงเคราะห์ และการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทยด้วยพระวิริยอุตสาหะ น้ำพระราชหฤทัยเสียสละ มีพระเมตตากรุณาธรรม ตลอดระยะเวลาอันยาวนานทีเสด็จอยู่ในสิริราชสมบัติอาทิ พระราชกรณียกิจสำคัญที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงดำรงตำแหน่งสภานายิกาสภากาชาดไทย
คือ เหตุการณ์การปะทะสู้รบภายในราชอาณาจักรกัมพูชา ทำให้มีชาวกัมพูชาลี้ภัยสงครามเข้ามายังจังหวัดชายแดนของไทยเป็นจำนวนมาก และในปี พ.ศ.2518 และ 2522 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ โดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปทรงเยี่ยมผู้อพยพลี้ภัยที่จังหวัดตราด ทันทีที่ทรงได้รับรายงาน ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และข้าราชบริพารจัดตั้งศูนย์สภากาชาดโดยด่วนที่บ้านเขาล้าน จังหวัดตราด
เครื่องเต่งกายโขน "อินทรชิต" และ "หนุมาน"
นอกจากนี้ ยังทรงริเริ่มดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาโครงการอันเกี่ยวเนื่องด้วยการอนุรักษฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทั้งด้านป่าไม้ ดิน แหล่งน้ำพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ เช่น โครงการคืนชีวิตกล้วยไม้ไทยสู่ไพรพฤกษ์ โครงการธนาคารอาหารชุมชนและโครงการอนุรักษ์พืชสมุนไพร โครงการศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โครงการป่ารักน้ำ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่รอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวันตก) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯลฯ
และด้วยสายพระเนตรและพระวิสัยทัศน์กว้างไกล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงทุ่มเททั้งพระสติปัญญา กำลังพระวรกายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรด้วยการช่วยเหลือให้เขา ใช้ความรู้ความสามารถที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นผลิตผลงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้โดยโปรดเกล้าฯ ตั้ง “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษในพระบรมราชูปถัมภ์” ต่อมาเปลี่ยนเป็น “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” และโปรดเกล้าฯ ตั้งโรงฝึกอาชีพขึ้นในบริเวณสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต อีกทั้งตั้งศูนย์ฝึกศิลปาชีพในภูมิภาคต่างๆ รับสมัครผู้เข้าอบรมโดยพิจารณาจากผู้ขัดสนและมีความจำเป็นก่อน
บรรยากาศภายในห้องจัดแสดงนิทรรศการ “สัปตมวรรตบรมขัตติยราชินีนาถ”
อีกทั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ยังโปรดให้อนุรักษ์ส่งเสริมศิลปะการแสดงโขน โดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จัดการแสดงสนองพระราชดำริเป็นครั้งแรกด้วยชุด “ศึกพรหมาศ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 75 พรรษา เมื่อ พ.ศ.2552 จากนั้นมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดขึ้นทุกปี เรียกกันว่า “โขนพระราชทาน”
ภาคที่สาม “พระคุณพิสิฐสรรพสกล” จัดแสดงถึงพระเกียรติยศ พระเกียรติคุณ ที่ทรงได้รับการแซ่ซ้องสดุดีจากนานาชาติ โดยการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลและปริญญากิตติมศักดิ์ในฐานะที่ทรงอุทิศพระองค์บำเพ็ญพระราชกรณียกิจเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ ภาคที่สี่ “พระการุณย์ดลสรรพการ” แสดงพระมหากรุณาธิคุณต่อมวลมนุษยชาติ ในส่วนของพสกนิกรชาวไทย ได้ทรงดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุข โภชนาการ การแพทย์ การอาชีพ ฯลฯ ซึ่งมีพระอัจฉริยภาพในการทรงอนุรักษ์ และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมให้คงอยู่คู่ชาติไทยด้วยแนวทางของ “ศิลปาชีพ” ทั้งนี้ ผู้เข้าชมจะได้รับแท็บเลต พร้อมหูฟัง เพื่อนำไปสแกน QR Codeในแต่ละจุด เพื่อรับฟังเรื่องราวต่างๆ ของนิทรรศการอย่างละเอียด
ตู้พระธรรมไม้ ประกอบด้วย ย่านลิเภาสาน และสอดประดับด้วยปีกแมลงทับ
นิทรรศการ “สัปตมวรรตบรมขัตติยราชินีนาถ” เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. (โดยจะปิดทุกวันอาทิตย์) ทั้งนี้ ในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม ต้องทำการนัดหมายล่วงหน้า โดยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-2521965-67 ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 150 บาท
นักเรียน/นักศึกษา 50 บาท
QR Code สำหรับสแกนโดยเครื่องแท็บเลต เพื่อให้ผู้เข้าชมรับฟังเรื่องราวต่างๆ อย่างละเอียด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี