ร้องถูกทหารหญิง ‘ยศพันจ่าเอก’ หลอกลวงให้เสียทรัพย์ แอบคบชู้กับชายที่มีลูกมีเมียแล้ว ผลสอบวินัยผิดจริง แต่โทษเบาหวิว แค่เรียกกลับหน่วย

วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส ได้ แชร์เรื่องราว ของ น.ส.เอ (นามสมติ) อายุ 38 ปี ได้ร้องเรียนกับเพจโหนกระแสว่า ถูกทหารหญิง ‘ยศพันจ่าเอก’ หลอกเอาเงินไป และทหารหญิงคนนี้ยังมีพฤติกรรมเรื่องชู้สาว เมื่อร้องเรียนหรือเจรจาอะไรไปก็อ้างว่าตนเป็นผู้หญิง ไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องอะไรได้ และเขามีนายทหารชั้นผู้ใหญ่หลายนายคอยเลี้ยงดูและหนุนหลัง

ผู้ร้องเรียน เล่าว่า ตนเป็น LGBTQ+ ได้คบหากับ พ.จ.อ.หญิง อายุ 37 ปี มาเป็นเวลาประมาณ 2 ปี โดยเจอกันเพราะต้องทำงานร่วมกัน เมื่อตกลงคบหากัน ตนก็ย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้าน พ.จ.อ.หญิง ใน จ.ปทุมธานี

พ.จ.อ.หญิง ได้บอกกับตนว่า หากจะฝากเงิน ให้เอามาให้ พ.จ.อ.หญิง ไปฝากสหกรณ์ของทหารจะดีกว่าฝากธนาคาร ได้ดอกเบี้ยดีกว่า และมีเงินปันผล ตนจึงยอมเอาเงิน 1.5 ล้านบาท ฝากในชื่อของ พ.จ.อ.หญิง เนื่องจากไว้ใจและมองว่าจะสร้างอนาคตด้วยกัน

กระทั่งช่วงเดือน มิ.ย.66 พ.จ.อ.หญิง ขอนายว่าให้ส่งไปทำงานภาคสนามที่ จ.ศรีสะเกษ รบเร้าจนนายส่งไปพร้อมกับทหารหญิงอีกคน ให้เป็นบัดดี้กัน ซึ่งตนมารู้ในภายหลังว่า พ.จ.อ.หญิง ไปเจอช่างคนหนึ่งที่มาทำงานร่วมกับทหาร แล้วเกิดถูกตาต้องใจกัน ถึงขนาดที่ พ.จ.อ.หญิง พูดให้เพื่อน ๆ ฟังว่าชอบผู้ชายคนนี้มาก และที่ขอไปทำงานภาคสนามก็เพราะจะได้อยู่กับช่างคนนี้

ส่วนตนก็สัมผัสได้ว่าแฟนเปลี่ยนไป และได้ไปเจอแชตที่ พ.จ.อ.หญิง คุยกับช่าง ใช้สรรพนามเรียกกันว่า ผัว-เมีย มีการนัดแนะกันว่า เธอโกหกเมียเธอ เราโกหกแฟนเรา เพื่อแอบไปใช้เวลาอยู่ด้วยกัน

เมื่อตนเห็นแชต ก็พบว่าตนเคยรู้จักและเคยทำงานช่างคนนี้ ซึ่งมีภรรยาจดทะเบียนสมรส และมีลูก 2 คนแล้ว ตนจึงได้โทรไปคุย ทางช่างก็ได้แต่บอกว่าไม่รู้ หากรู้ว่าเป็นแฟนตนจะไม่ยุ่งเลย แต่ตนก็ได้ย้ายของออกจากบ้าน พ.จ.อ.หญิง ในคืนนั้น และได้โทรไปพูดคุยกับภรรยาของช่าง เพื่อสอบถามว่ารู้เรื่องหรือไม่ว่ากำลังถูกนอกใจ ทางภรรยาช่างตอบว่ารู้ก่อนหน้าตนประมาณ 2 อาทิตย์ แต่สามีอ้างว่า ทหารหญิงมาอ่อย ต้องทำงานร่วมกัน มองเป็นเพียงเรื่องขำ ๆ

พ.จ.อ.หญิง อยู่กับช่างคนนี้ตั้งแต่วันแรกที่ไป จ.ศรีสะเกษ คนรอบข้างรับรู้ว่า 2 คนนี้อยู่ด้วยกันแบบผัว-เมีย แต่ระหว่างนี้ตนก็ยังคุยกับ พ.จ.อ.หญิง เพราะอยากเตือนสติว่าสิ่งที่ทำไม่ถูกต้อง ผู้ชายดี ๆ ที่ไหนจะทิ้งลูกเมียมาหาหญิงอื่น ส่วน พ.จ.อ.หญิง ก็ยังคงโกหกว่าไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งเกินเลยกับช่าง

เดือน พ.ย. 2566 ตนได้ร้องเรียนไปยังจเรทหาร เพื่อให้สอบวินัย พ.จ.อ.หญิง รายนี้ เพราะนอกจากตนแล้ว พ.จ.อ.หญิง ยังมีพฤติกรรมชู้สาว แอบคบหากับนายทหารยศใหญ่ ทำให้ครอบครัวคนอื่นแยกแตกมาหลายครอบครัวแล้ว โดยตนเจอเจอหลักฐานเป็นสมุดบันทึกว่า ในแต่ละเดือนนายทหารคนไหนส่งเสียให้เท่าไหร่ พบว่ามีการคบซ้อนในเวลาเดียวกันสูงสุดถึง 5 คน

แต่เมื่อมีการตั้งคณะกรรมตรวจสอบ ก็เป็นทหารในสังกัดเดียวกัน ซักถามกดดันจนตนร้องไห้ ทำเหมือนตนเป็นคนผิด เป็นคนโดนร้องเรียนเสียเอง ทั้ง ๆ ที่ตนเป็นผู้เสียหาย

อีกทั้งยังบอกว่า ตนเป็นผู้หญิง ไม่ใช่คู่สมรส ตนจึงได้แย้งไปว่า ตนร้องเรียนในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่เห็นพฤติกรรมไม่ดีของทหาร ทำให้เกิดความเสื่อมต่อองค์กร และผู้ร่วมงานหลายคนก็รับรู้พฤติกรรมของ พ.จ.อ.หญิง รายนี้ แต่ไม่มีใครยุ่งหรือกล้าพูด หากมีใครเตือนก็จะโดนย้อนว่าไม่สิทธิ์มาสอน ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง และตนก็ได้รับความเดือดร้อนที่ถูกหลอกลวงให้เสียทรัพย์

สุดท้าย ตนหาหลักฐานมาแสดงจนผลสอบออกมาว่า พ.จ.อ.หญิง คนนี้ทำผิดวินัยจริง แต่ไม่ร้ายแรง ลงโทษเพียงแค่เรียกกลับมาทำงานที่หน่วย ซึ่งตนมองว่าเล็กน้อยมาก เพราะหากกรณีนี้เกิดขึ้นกับคนที่เป็นคู่สมรส จะมีโทษหนักถึงขั้นออกจากราชการ

ตนอยากให้มีการปฏิรูปหรือปรับปรุงกฎระเบียบในส่วนนี้ เพราะอยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง คนทำผิดจะได้รู้สึกตัว การไม่ได้รับโทษ คนผิดก็จะมองว่าใครทำอะไรไม่ได้ ยังได้ทำงาน ได้รับเงินเดือนจากภาษีประชาชนต่อไป ทำพฤติกรรมที่เสื่อมทรามต่อไป

อยากให้เป็นบรรทัดฐานด้วยว่า หากข้าราชการประพฤติชั่ว แล้วมีประชาชนทั่วไปร้องเรียนต่อต้นสังกัด เมื่อพิสูจน์ได้ว่าผิดจริง ก็ควรมีบทลงโทษที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่ย้าย เรียกกลับ หรือเรื่องหายเงียบไป

ส่วนเรื่องเงินที่นำไปฝากสหกรณ์ ตนได้คืนมาแล้วประมาณ 1.3 ล้านบาท ยังขาดอีก 2-3 แสนบาท รวมถึงเงินอื่น ๆ ที่ตนได้จ่ายไปในช่วงที่คบกัน รวมแล้วประมาณ 2.2 ล้านบาท ขณะนี้ทนายได้ยื่นโนติสไปยัง พ.จ.อ.หญิง เพื่อให้ทำการคืนเงินส่วนที่เหลือ หากเพิกเฉย ก็จะดำเนินการฟ้องแพ่งต่อไป

ขอบคุณข่อมูล : โหนกระแส