โหดเกินไป? พ่อค้าไก่ปิ้งโต้ ไม่ได้ย่างที่บ้าน ขณะเทศบาลฯ ยันคิดตามกฎ! แจงให้เวลาปรับปรุงกว่า 300 วัน - ค่าปรับไก่ปิ้ง 1.59 แสน ทำตามมติ ย้ำเงินเข้ารัฐทุกบาท
จากกรณี พ่อค้าไก่ปิ้ง วัย 25 ปี ถูกเรียกเก็บค่าปรับตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 รวม 159,000 บาท ซึ่งหลังจากเทศบาลฯ เข้าตรวจสอบหลังได้รับการร้องเรียน พบว่าประกอบกิจการไม่ถูกสุขลักษณะและไม่มีใบอนุญาต โดยมีการแจ้งเตือนและแนะนำให้แก้ไขถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ผ่าน พ่อค้าจึงเลิกขายไปขับไรเดอร์ ทางเทศบาลฯจึงชี้แจงว่า ค่าปรับสูงเนื่องจากมีความผิด 3 ฐาน ดังนี้ 1.ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต 37,500 บาท 2.ฝ่าฝืนคำสั่งให้หยุดกิจการ 37,500 บาท และ 3. ฝ่าฝืนคำสั่งดำเนินกิจการต่อเนื่อง ถูกปรับเป็นรายวัน 3,000 บาท x 28 วัน = 84,000 บาท
ทำให้พ่อค้า มีความเครียดเพราะไม่มีเงินจ่ายและต้องการไกล่เกลี่ย ขณะที่เทศบาลฯ ยืนยันว่าทำตามมติคณะกรรมการระดับจังหวัด และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการอุทธรณ์หรือไกล่เกลี่ยได้
ล่าสุด รายการโหนกระแสวันนี้ (22 ต.ค.68) คุณพุ่มและคุณอาร์ม ได้ชี้แจงว่า ได้เตรียมของที่บ้าน แล้วไปขายที่ตลาดนัดหรืองานอีเว้นท์ ไม่ได้ย่างที่บ้าน เพราะฉะนั้นเรื่องควันออกไปได้เลย และคิดว่าตนถูกดำเนินการปรับโหดเกินไปจนไม่มีเงินจ่าย
ขณะที่ นางปริญดา เชาว์อรัญ รองปลัดเทศบาลนครปากเกร็ด บอกว่า หนักใจมากตั้งแต่ตอนที่จะต้องไปดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับทั้งสองราย เพราะรู้ว่ากฎหมายมันแรงทั้งในแง่ค่าปรับ และความรู้สึก แต่ว่าการใช้เวลาในการให้เขาปรับปรุงมันก็ใช้เวลาเยอะมาก กว่าจะเริ่มบังคับปรับ อย่างร้านไก่ย่าง ให้เวลาปรับปรุงถึง 300 กว่าวัน ถึงจะเริ่มมาใช้กฎหมายจริงๆ
กางหลักเกณฑ์ในการดำเนินการของเทศบาล ชี้แจงรายการค่าปรับและวิธีการคิดค่าปรับตามกฎหมาย ที่ปรับคุณอาร์ม โดยระบุฐานความผิดตาม พรบ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับกิจการจำหน่ายไก่ย่างของคุณธวัชชัย ดังนี้
จัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 38 ประกอบ มาตรา 72 เป็นเงิน 37,500 บาท
ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 45 ประกอบ มาตรา 80 เป็นเงิน 37,500 บาท
เสียค่าปรับรายวัน วันละ 3,000 บาท เนื่องจากยังฝ่าฝืนคำสั่ง ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2567 ถึง 21 มกราคม 2568 รวม 28 วัน เป็นเงิน 84,000 บาท ยอดรวมทั้งหมดจึงเป็น 159,000 บาท
นางปริญดา ยืนยันว่า การคิดค่าปรับเป็นไปตามหลักเกณฑ์กฎหมาย คิดจำนวนวันตรงตามกฎ ไม่มีเกิน และเทศบาลไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับค่าปรับนี้ เป็นมติของคณะกรรมการระดับจังหวัด ส่วนเงินค่าปรับ ไม่ได้เอาไปเข้ากระเป๋าใคร ไม่ได้ให้รางวัลกับเจ้าหน้าที่ที่ลงไปตรวจหรือไปปรับ มันคือเงินหลวง เข้ารัฐทุกบาททุกสตางค์ หากไปชำระค่าปรับ ก็จะได้ใบเสร็จถูกต้องทั้งหมด
การที่เทศบาลดำเนินการและมีประชาชนที่ถูกปรับและได้รับความเดือดร้อนด้านการเงิน ทางเทศบาลก็ไม่สบายใจ เพราะว่าเงินจำนวนนี้ถือเป็นเงินจำนวนไม่น้อย แต่อยากขอความเห็นใจว่าถ้าหากไม่ทำจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะในเมื่อมีผู้ร้อง ผู้ได้รับความเดือดร้อน เทศบาลเป็นคนของประชาชน เป็นข้าราชการก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนเองตามระเบียบกฎหมาย เทศบาลยืนยันว่า การดำเนินการตามกฎหมายของทางเทศบาล ไม่ได้เป็นการเจตนากลั่นแกล้ง หรือรังแกใคร แต่ต้องทำตามหน้าที่จริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี