วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ตะลอนเที่ยว : เมืองอู่ทอง ดินแดนสุวรรณภูมิ?

ตะลอนเที่ยว : เมืองอู่ทอง ดินแดนสุวรรณภูมิ?

วันอาทิตย์ ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :
  •  

“พิพิธภัณฑสถานคือแหล่งแสดงรากเหง้าความเป็นมาของมนุษยชาติในแต่ละท้องถิ่นแต่ละชุมชนในยุคสมัยต่างๆ สำหรับผู้ที่มีรากมีเหง้าความเป็นมามักจะชื่นชมและเข้าไปค้นหารากเหง้าของตนเองในพิพิธภัณฑสถานตลอดเวลา แต่สำหรับคนไร้รากไร้เหง้าไร้ความเป็นมาแล้ว เขาไม่เห็นความสำคัญใดๆ ของพิพิธภัณฑสถานแม้แต่น้อย”

มีคำถามมากมายว่า ดินแดนสุวรรณภูมิ อยู่ที่ไหนกันแน่ นักโบราณคดีที่ศึกษาเรื่องนี้ต่างถกเถียงกันโดยยังหาข้อสรุปตรงกันมิได้ แต่นักโบราณคดีกลุ่มหนึ่งทั้งไทยและเทศที่ศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้อย่างจริงจังต่างปักใจเชื่อว่า ดินแดนสุวรรณภูมิต้องอยู่ ณ เมืองอู่ทอง (ปัจจุบันเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี)


เมื่ออ้างอิงจากหลักฐานที่ขุดค้นพบปรากฏว่า เมืองอู่ทองมีอายุเก่าแก่ก่อนยุคกรุงศรีอยุธยา ก่อนที่พระเจ้าอู่ทองจะทรงสร้างกรุงศรีอยุธยาหลายร้อยปี ดังนั้นหลักฐานนี้จึงลบล้างความเชื่อเดิมที่ว่า พระเจ้าอู่ทองทรงอพยพผู้คนจากอู่ทองเพื่อหนีโรคห่าไปทรงสร้างบ้านแปงเมืองใหม่ ณ กรุงศรีอยุธยา

ตะลอนเที่ยววันนี้จะพาคุณไปเที่ยวพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมืองอู่ทอง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ที่ว่าการอำเภออู่ทอง ถนนมาลัยแมน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี (ห่างจากตัวจังหวัดสุพรรณบุรี ประมาณ 30 กิโลเมตร) อาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2508-2509 เป็นสถานที่เก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุที่ขุดค้นได้จากแหล่งโบราณคดีในเมืองอู่ทอง และบริเวณรอบๆ เมืองอู่ทอง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2509

ขอเรียนตามตรงว่าภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีโบราณวัตถุที่ควรค่าแก่การชมอย่างมากมายทุกสิ่งอัน แล้วถ้ายิ่งได้ทราบความเป็นมาของโบราณวัตถุเหล่านั้นด้วยแล้ว รับรองว่าคุณจะตื่นตะลึงเพราะความอัศจรรย์ใจแล้วจะรักประเทศไทยของเรามากยิ่งขึ้น

โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุชิ้นเยี่ยมที่ต้องชมให้ได้คือ

ดินเผาภาพพระภิกษุอุ้มบาตร ศิลปะอินเดียแบบอมราวดี อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 9-10 (ราว 1,600 -1,700 ปีมาแล้ว) เป็นภาพภิกษุ 3 รูป ยืนอุ้มบาตรครองจีวรคลุม จีวรมีลักษณะเป็นริ้ว สันนิษฐานว่าทำขึ้นเพื่อประดับศาสนสถาน (ถือเป็นโบราณวัตถุซึ่งมีอิทธิพลศิลปะอินเดียแบบอมราวดีที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่ค้นพบในประเทศไทย)

ปูนปั้นภาพพระพุทธรูปนาคปรก ศิลปะอินเดียแบบอมราวดี ประมาณพุทธศตวรรษที่ 9-10 ลักษณะปูนปั้นภาพพระพุทธรูปนาคปรกชำรุดเหลือเฉพาะส่วนฐาน เป็นภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่งขัดสมาธิไขว้พระบาทหลวมๆ พระหัตถ์ทั้งสองวางประสานกันที่พระเพลา ด้านล่างเป็นขนดนาค 3 ชั้นซ้อนกัน แสดงถึงอิทธิพลศิลปะอมราวดีของอินเดีย

สิงห์สำริด ศิลปะทวารวดี ประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-14 (ราว 1,200-1,300 ปีมาแล้ว) สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลทางศิลปะจากอินเดีย เนื่องจากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ปรากฏสัตว์ดังกล่าวอยู่ในธรรมชาติ สิงโตสำริดชิ้นนี้นอกจากมีขนาดเล็กและหล่อด้วยสำริดแล้ว ฝีมือการปั้นยังแสดงถึงอารมณ์ และลักษณะเป็นธรรมชาติ

เครื่องประดับรูปกินรี ศิลปะทวารวดี ประมาณพุทธศตวรรษที่ 9-10 ด้านหลังเครื่องประดับทำเป็นห่วงกลม (คล้ายต่างหู) ด้านหน้าทำเป็นรูปบุคคลมีหน้าเป็นมนุษย์สวมต่างหูทรงกลม ผมเป็นมวย ลำตัวมีขนปกคลุม ขาคล้ายสัตว์ประเภทนก (สันนิษฐานว่าเป็นรูปกินรี)

เครื่องประดับทองคำ (ลูกปัด) ศิลปะทวารวดี ประมาณพุทธศตวรรษที่ 12 (ราว 1,400 ปีมาแล้ว) ลูกปัดทองคำมีขนาดเล็กรูปทรงกลมพร้อมจี้ทองคำฝังพลอย ตัวจี้เป็นรูปวงกลมมีรัศมีโดยรอบ ขอบทำเป็นลวดลายเม็ดไข่ปลา ตรงกลางมีพลอยสีขาวประดับ ลูกปัดที่พบในเมืองอู่ทองส่วนมากอยู่ในวัฒนธรรมทวารวดี มีทั้งทำจากหินมีค่า แก้ว ดินเผา และทองคำ ลูกปัดเหล่านี้นอกจากความสวยงามแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีการผลิต และเป็นหลักฐานแสดงการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติได้ด้วย

เหรียญกษาปณ์โรมัน ด้านหน้ามีพระพักตร์ด้านข้างของจักรพรรดิซีซาร์วิคโตรินุส สวมมงกุฎยอดแหลมเป็นแฉก มีตัวอักษรล้อมรอบอยู่ริมขอบเหรียญว่า IMP C VICTORINUS PF AUG ซึ่งเป็นคำย่อของ Emperor Caesar Victorinus Felix Auguste แปลว่าจักรพรรดิซีซ่าร์วิคโตรินุส ศรัทธา ความสุข เป็นสง่า ส่วนด้านหลังของเหรียญ เป็นรูปเทพอาธีนา (จักรพรรดิวิคโตรินุสคือกษัตริย์อาณาจักรโรมัน ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 812-814)

เหรียญเงินจารึกว่า ศรีทวารวดี ศวรปุณย ศิลปะทวารวดี ประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-14 เป็นเหรียญเงิน ทรงกลม ด้านหนึ่งมีจารึกอักษรปัลลวะ ภาษาสันสกฤตสองบรรทัด อ่านได้ความว่า “ศรีทวารวติ ศวรปุณย” แปลว่า “การบุณย์แห่งพระเจ้าศรีทวารวดี”
ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นลวดลายรูปแม่โคกับลูกโคในลักษณะหันด้านข้าง ภาพของแม่โคถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจในการผลิตของธรรมชาติที่อาจมีความสัมพันธ์กับคติของการบูชาคชลักษณมี (เทพีแห่งโชคลาภและความอุดมสมบูรณ์)

ประติมากรรมรูปคชลักษมี ศิลปะทวารวดี พุทธศตวรรษที่ 12-14 เป็นดินเผา สูง 8 เซนติเมตร กว้าง 5 เซนติเมตร ด้านล่างทำเป็นรูปกลีบบัว ตรงกลางเป็นรูปพระลักษมีประทับนั่ง พระหัตถ์ทั้งสองถือก้านดอกบัวที่ระดับพระอุระ ด้านล่างทำเป็นรูปช้างขนาบอยู่แต่ส่วนหัวหักหายไป สันนิษฐานว่าทำเป็นรูปช้างชูงวงถือหม้อน้ำ (บูรณฆฏะ) เพื่อสรงน้ำพระลักษมี (ชายาของพระวิษณุ) ในคติศาสนาพราหมณ์ฮินดูหมายถึงคชลักษมี หรืออภิเษกพระศรี เป็นการแสดงออกถึงความมีโชคลาภ และความอุดมสมบูรณ์ ตลอดจนเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิตทั้งหลาย ส่วนในศาสนาพุทธ สัญลักษณ์เช่นนี้อาจสื่อถึงปางประสูติ โดยเทวีตรงกลางหมายถึงพระนางสิริมหามายา สันนิษฐานว่าเป็นวัตถุมงคลที่พ่อค้านำติดตัวเพื่อให้เกิดโชคลาภ หรือความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า

ธรรมจักรศิลา พร้อมแท่นและเสา โดยมีหินสลักคำจารึกว่า “ปุษยคีรี” เป็นศิลปะทวารวดีมีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 (ราว1,300 -1,400 ปีมาแล้ว) เป็นธรรมจักรศิลาทรงกลม ฉลุซี่ล้อโปร่ง ที่ฐานสลักลวดลายกลีบบัวบาน ขอบธรรมจักรสลักลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนสลับวงกลมเรียงเป็นแถว มีเสาตั้งเป็นแท่งหินรูป 8 เหลี่ยม หัวเสาสลักลวดลายพวงอุบะ มีแท่นรองธรรมจักรเป็นรูป 4 เหลี่ยม ธรรมจักรศิลานี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปะสมัยทวารวดีที่สมบูรณ์ที่สุดในเมืองไทย ขอเรียนว่านี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างของโบราณวัตถุที่ควรค่าแก่การชมในพิพิธภัณฑ์อู่ทอง ซึ่งอันที่จริงยังมีลูกปัดที่งดงามให้ชมอีกมากมาย

เวลาทำการของพิพิธภัณฑ์อู่ทอง เปิดวันพุธ-วันอาทิตย์ โดยไม่หยุดในวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-16.00 น. ปิดทำการวันจันทร์-วันอังคาร ค่าเข้าชม คนไทย 30 บาท คนต่างชาติ 150 บาท (ไม่เก็บค่าเข้าชมค่าสำหรับนักเรียน นักศึกษาใน
เครื่องแบบ พระภิกษุ สามเณร และนักบวชในศาสนาต่างๆ และผู้มีอายุเกิน 60 ปี)

ทริปนี้ นอกจากไปชมโบราณวัตถุล้ำค่าแล้ว ยังได้มีโอกาสตะลอนกินไปกับ SCG (กลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์ไทย) โดยอาหารที่กินก็เป็นฝีมือของชาวโซ่ง หรือไทยทรงดำ อาทิ แกงบอนกับปลาช่อนนาทอดแกงใบยอ (คล้ายๆ กับแกงขี้เหล็ก) กับปลา สำหรับแกงบอนรสอร่อยนั้นต้องบอกว่าหากินได้ยากมากเหลือเกินในประเทศไทยในยุคนี้ แล้วยังมีดอกชมจันทร์ผัดน้ำมันให้ทานด้วย

แล้วปิดท้ายด้วยการดวลฝีมือทำอาหารจากผู้ร่วมทริป ซึ่งก็เป็นอาหารง่ายๆ พื้นๆ แต่ถ้าหากทำไม่เป็นก็ไม่อร่อย อาหารที่ว่านั้นคือ ขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ และปลาสร้อยทอดกรอบ ข้าวผัดปลาเค็ม และคอหมูย่าง

สรุปว่า ทริปนี้ได้ทั้งความรู้ด้านโบราณคดี โบราณวัตถุของเมืองอู่ทอง และยังได้ลิ้มรสอาหารอร่อยที่หาทานได้ยากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะในเมืองที่ผู้คนคิดแค่เพียงว่ากินอะไรก็ได้ เพียงเพื่อให้เต็มกระเพาะอาหารเท่านั้น

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

‘พิชิต’ย้ำ‘อิ๊งค์’ต้องลาออก เซ่นปมคลิป‘อังเคิลฮุน’ จับตา‘จตุพร’ประกาศท่าทียกระดับม็อบ

ไม่เข็ดก็จับอีก! ตร.เมืองกาฬสินธุ์ ‘รวบเด็กแว้น’ ยึดจยย.ซิ่งเสียงดัง 9 คัน

ฟาดจุกๆ! ‘หมอรพ.สรรพสิทธิประสงค์’หวด‘เท้ง’กล่าวหารพ.ไม่รับผู้ป่วยเขมร ฉะเป็นผู้นำไม่ได้

จนท.ปางมะผ้าสนธิกำลัง! รวบชายนั่งเสียบกิ่งมะม่วง-ค้นพบยาบ้าในตัวอีก200กว่าเม็ด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved