ในบรรดาคนรักรถหรูนำเข้า ไม่มีใครไม่รู้จักเบนซ์ รามคำแหง ที่ก่อตั้งโดย สมศักดิ์ ศรีรัตนประภาสที่ปัจจุบันไม่ได้นำเข้าเฉพาะเบนซ์เท่านั้น แต่ยังนำเข้าและจัดจำหน่ายยนตรกรรมสุดหรูหลากหลายแบรนด์ภายใต้ชื่อ BRG ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำอย่าง“สมศักดิ์” ไม่เพียงแค่ “ขาย” แต่ยัง “ใส่ใจลูกค้า”มาเป็นอันดับหนึ่ง และสรรหานวัตกรรมใหม่ๆ แห่งยานยนต์ที่จะมาตอบโจทย์ Life Style ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด จนทำให้ BRG ได้รับความไว้วางใจและส่งต่อมาถึงเจนเนอเรชั่นที่สองอย่าง อัจจิมา ศรีรัตนประภาส

แอ้ม–อัจจิมา เป็นลูกสาวคนโตในบรรดา 3ใบเถา ปัจจุบันนั่งเก้าอี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบนซ์ รามคำแหง กรุ๊ป จำกัด ในวัย 36 ปี เล่าว่า ทันทีที่เรียนจบปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ในขณะที่มีอายุ 20 ต้นๆ คุณพ่อของเธอก็ให้เริ่มงานใน BRG ทันทีด้วยตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด

“คุณพ่อให้เหตุผลว่า ถ้าเราเริ่มเร็วกว่าคนอื่น เราก็จะประสบความสำเร็จก่อนคนอื่น และด้วยความที่แอ้มเป็นลูกสาวคนโต น้องเอิงก็ยังเรียนอยู่ คุณพ่อก็อายุมากแล้ว จึงตามคุณพ่อมาทำงาน ดูแลการตลาด มันเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงของ BRG เพราะแต่เดิมคือ คุณพ่อนำเข้าเบนซ์เก่า จนบ้านเราเปลี่ยนกฎหมายนำเข้ามาไม่ได้แล้ว เราก็เปลี่ยนมาเป็นดีลเลอร์ แล้วก็มาเป็นผู้นำเข้ารถ ตอนนั้นรู้สึกยากมาก เพราะไม่มีประสบการณ์เลย ไม่เคยทำงานกับคุณพ่อมาก่อน มันก็ไม่เหมือนอยู่บ้านเป็นพ่อลูกกัน แต่พอเข้าที่ทำงานเขาเป็นผู้บริหาร เราเป็นพนักงาน แต่ก็ด้วยความเป็นลูกไม่ใช่ว่าทำงานสบายกว่าคนอื่น คุณพ่อค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการทำงานกับแอ้มมาก เพราะท่านอยากให้เราเรียนรู้และทำงานเป็นให้เร็วที่สุด”

แม้ปัจจุบันจะนั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการ ก็ยังมีคุณพ่อ ผู้เป็นหัวเรือใหญ่คอยเป็นที่ปรึกษาในการทำธุรกิจ ซึ่ง แอ้ม เผยถึงสิ่งที่พ่อของเธอเน้นย้ำในการทำธุรกิจสายนี้ว่า

“ธุรกิจเราถึงแม้จะขายรถ แต่หลังจากการขายแล้วคือการบริการ คุณพ่อจะบอกกับแอ้มและพนักงานทุกคนเสมอว่า เราต้องซื่อสัตย์กับลูกค้า เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะว่าเราทำงานบริการ ต้องซื่อสัตย์เป็นอันดับแรกเลย แล้วก็ต้องจริงจัง เพราะมันคือธุรกิจ เราไม่ได้ทำเล่นๆ ไม่ใช่อาชีพเสริม แต่มันคืออาชีพหลักของเรา ซึ่งแอ้มก็ยึดถือตรงนี้ตามที่คุณพ่อสอน ทุกวันนี้อะไรที่เราสามารถดูแลลูกค้าได้ ก็ทำให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เราจะให้ข้อมูลความจริงกับลูกค้ามากที่สุด ไม่ใช่ยัดเยียดอะไหล่ตัวไหนถึงเวลาต้องเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน อะไรที่ยังดีอยู่ก็ใช้งานต่อไป เราก็อยากเซฟให้ลูกค้า เป็นการซื้อใจถ้าเราบริการด้วยใจใส่ใจดูแลเต็มที่ อันนี้เป็นผลดีระยะยาวต่อตัวเราเอง เพราะจะทำให้ลูกค้าไว้วางใจและยังเลือกใช้บริการของ BRG อยู่เสมอนั่นเอง”

BRG เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์อิสระรายใหญ่ของเมืองไทย ที่มีโชว์รูมและศูนย์บริการซ่อมบำรุงครบวงจร แบบ One Stop Service เป็นศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานทั้งด้านเครื่องยนต์ สีตัวถัง ด้วยทีมช่างที่มีความชำนาญเฉพาะทางมีบริการตรวจเช็คด้วยเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและทันสมัยเพื่อตอบสนองต่อลูกค้าอย่างเต็มที่

“เรามีการอบรมเพิ่มเติมความรู้ให้กับพนักงานอยู่ตลอดเวลา พนักงานขายรถใหม่เข้ามาก็ต้องเทรนนิ่งเรื่องเกี่ยวกับรถให้สามารถตอบคำถามลูกค้าได้อย่างชัดเจน ส่วนช่างเทคนิคก็เช่นกันเครื่องไม้เครื่องมือรถรุ่นใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ ก็อบรมให้ความรู้กันเต็มที่ เพื่อให้เขาเป็นช่างฝีมือที่มีความชำนาญในการซ่อมบำรุง ตรงนี้จะเป็นจุดเด่นของ BRG เพราะการแข่งขันในตลาดไม่ใช่เรื่องราคาแต่เรื่องบริการก่อนขาย หลังการขาย เราต้องทำให้เป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ”

นอกเหนือจากการบริหาร BRG แล้ว หญิงเก่งคนนี้ยังไม่ลืมที่จะบริหารเวลาให้ครอบครัวเล็กๆ ของตัวเอง รวมถึงเวลาในการดูแลตัวเองด้วย

“ทุกเช้าแอ้มจะเป็นคนขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน ประมาณแปดโมงครึ่ง เข้าสำนักงานเก้าโมงเช้า ก็ทำงานไปจนถึงค่ำๆ เพราะตอนเย็นจะมีพี่เลี้ยงไปรับเขาจากโรงเรียนเพื่อไปเรียนพิเศษและกลับบ้าน ส่วนแอ้มพอเสร็จงานก็กลับบ้านก็มีเวลาสั้นๆ ที่จะได้อยู่กับลูกและสามี วันหยุดของแอ้มเองจริงๆ คือวันเสาร์ ที่จะไปทำอะไรตามประสาผู้หญิง เสริมสวย ช็อปปิ้ง ออกกำลังกาย ส่วนวันอาทิตย์ก็ให้ครอบครัวเต็มๆ ไปกินข้าวพร้อมหน้าทั้งครอบครัว พาลูกไปเที่ยว แต่ถ้าไม่ได้ออกไปไหนก็จะอยู่บ้าน เพราะแอ้มไม่ได้แยกบ้าน ก็ยังอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ ก็จะอบอุ่นมาก สำหรับแอ้มคิดว่าเราบริหารธุรกิจ ดูแลลูกน้องได้ดี แต่ละเลยคนในบ้าน แสดงว่าเราบริหารจัดการชีวิตได้ไม่ดีพอ”

ท้ายสุดผู้บริหารสาวค่ายรถหรู ยังทิ้งท้ายถึงการใช้ชีวิตให้มีความสุขในแบบของเธอว่า…“ทำสิ่งที่เรามีความสุขที่สุดแต่ไม่ได้เดือดร้อนใครนี่คือสิ่งที่แอ้มยึดเป็นหลักในการใช้ชีวิต ทำงานเราก็ทำเต็มที่ ถึงเวลาเราพักผ่อนก็ให้ชีวิตส่วนตัวได้ทำอะไรในสิ่งที่เรารักเราชอบบ้าง แค่นั้นก็มีความสุขแล้ว อย่างช่วงมีงานมอเตอร์โชว์จะชอบมาก สนุกกับการทำงาน พองานจบ พักสักวันสองวันแล้วก็ทำงานต่อ มันเป็นแบบนี้มาหลายปี ความสุขในสไตล์ของแอ้มคงเป็นแบบนี้ค่ะ”