วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
'อ้วนมีพุง'อันตรายทำลายสุขภาพ 5โรคร้ายที่มาพร้อมไขมันรอบเอว

'อ้วนมีพุง'อันตรายทำลายสุขภาพ 5โรคร้ายที่มาพร้อมไขมันรอบเอว

วันจันทร์ ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559, 15.10 น.
Tag :
  •  

ปัญหา "อ้วนลงพุง" เป็นปัญหาใหญ่ที่หลายๆ คนกำลังเผชิญ ซึ่งแต่ละคนมีวิธีกำจัดไขมันตัวร้ายนี้ออกไปแตกต่างกัน แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่นิ่งนอนใจ มองข้ามรอบเอวที่ขยายเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยที่ไม่รู้เลยว่า "พุง" คือภัยร้าย เพิ่มความเสี่ยงโรคต่างๆ มาให้คุณ

วันนี้เราจึงมี 5 โรคร้ายที่มาพร้อมพุงพร้อมวิธีรับมือ มานำเสนอ เพื่อให้คุณมีสุขภาพดี ห่างไกลโรคอย่างแท้จริง

 


ไขมันช่องท้องสาเหตุของอ้วนลงพุง

ผลการวิจัยพบว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติ แต่คนอ้วนลงพุง มีไขมันหน้าท้องมาก มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตจากโรคต่างๆ มากกว่าคนอ้วนซะอีก ผลวิจัยนี้ถูกนำเสนอใน European Society of Cardiology เมื่อปี 2012 โดยเก็บข้อมูลจากผู้ป่วยกว่า 12,785 คน ตลอดระยะเวลา 14 ปี คำนวณหาดัชนีมวลกายหรือค่า BMI ซึ่งเป็นอัตราของไขมันในร่างกายต่อความสูง และอัตราส่วนของเอวต่อสะโพกเพื่อหาอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ

ผลการศึกษาพบว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติ แต่มีขนาดรอบเอวมาก มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคต่างๆ มากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติและขนาดรอบเอวปกติ 2.1 เท่า

อันตรายและโรคที่มาพร้อม "พุง"

1. ปอดทำงานได้ไม่เต็มที่

มีผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่อ้วนลงพุงนั้นจะทำให้การทำงานของปอดลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่มีสุขภาพดี ไม่สูบบุหรี่ และไม่มีไขมันหน้าท้อง ผลการวิจัยนี้พบว่าผู้ที่มีไขมันส่วนเกินทำให้อัตราการหายใจลดลง ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นเป็นเวลานาน ทำให้ทางเดินหายใจหดแคบลง และก่อให้เกิดโรคปอดเรื้อรังอย่างหอบหืดตามมาได้

2. การทำงานของหลอดเลือดผิดปกติ

จากผลการศึกษาปี 2012 พบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่อ้วนลงพุงกับภาวะการเกิดโรคหลอดเลือดตีบตันและภาวะหลอดเลือดแข็งตัว โดยนักวิจัยได้เปรียบเทียบระหว่างคนอ้วน คนอ้วนที่มีพุงและคนที่มีสุขภาพดีพบว่า หากอัตราส่วนของเอวต่อความสูงเพิ่มขึ้นทุกๆ 0.1 ทำให้เสี่ยงที่จะเกิดภาวะดังกล่าวมากขึ้น ดังนั้น ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องจึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะดังกล่าว และการที่เส้นเลือดแดงแข็งตัวและตีบนั้นก็จะก่อให้เกิดโรคหัวใจตามมาได้

3. เสี่ยงต่อเบาหวาน

ไขมันในช่องท้องเป็นไขมันที่พบในคนที่มีภาวะอ้วนลงพุง ไขมันนี้มีการผลิตฮอร์โมนซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย นอกจากนี้ฮอร์โมนดังกล่าวยังทำให้ตัวรับสัญญาณอินซูลินทำงานผิดปกติ ซึ่งหมายความว่าอินซูลินซึ่งเป็นตัวควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายจะทำงานด้อยลง ทำให้เสี่ยงต่อการป่วยเป้นดรคเบาหวานเพิ่มขึ้นนั่นเอง

4. ระดับคอเลสเตอรอลสูง+โรคหัวใจ

ไขมันที่อยู่บริเวณขาหรือก้นนั้นเป็นไขมันที่มีการเผาผลาญที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าไขมันบริเวณหน้าท้องของคนอ้วนลงพุง ซึ่งสาเหตุที่การเผาผลาญไขมันบรัเวณนี้ดีกว่าเนื่องจากได้ระดับน้ำตาล ไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอล และอินซูลินต่ำกว่าไขมันที่เผาผลาญจากบริเวณช่องท้อง นอกจากนั้นไขมันในช่องท้องสามารถเปลี่ยนเป็นกรดไขมันอิสระ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายผลิตคอเลสเตอรอล LDL (ซึ่งเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ) นอกจากนั้นกรดไขมันอิสระยังทำให้ระดับของไขมันดีหรือคอเลสเตอรอล HDL ลดลง ซึ่งไขมันเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อการทำงานของหลอดเลือด แต่ยังทำให้เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและภาวะหัวใจวายตามมาได้

5. เสี่ยงโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์

ผลการศึกษาในปี 2010 พบว่ายิ่งรอบเอวคุณหนามากเท่าไหร่ รวมทั้งยิ่งอ้วนลงพุงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์มากขึ้นเท่านั้น โดยจากการศึกษาพบว่าผู้อ้วนลงพุงทำให้เซลล์สมองน้อยกว่าคนปกติ ซึ่งก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ตามมาได้ โดยสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าไขมันจะไปอุดตันในเส้นเลือดทำให้เลือดไหลเวียนขึ้นไปเลี้ยงเซลล์สมองไม่สะดวก สมองจึงขาดออกซิเจน และทำให้เซลล์ตายนั่นเอง

วิธีรับมือกับอ้วนลงพุง

การทานอาหารในแต่ละมื้อนั้น ส่งผลโดยตรงต่อระดับไขมันในร่างกาย นอกจากนี้ พันธุกรรมก็ส่งผลต่อความอ้วนด้วยเช่นกัน ซึ่งหากคุณเป็นคนอ้วนลงพุง อยากลดน้ำหนักเพื่อให้มีสุขภาพดีและลดอาการเสี่ยงของโรคต่างๆ นั้น ผู้เชี่ยวชาญแนะว่าต้องออกกำลังกายเพื่อกำจัดไขมันในช่องท้องเหล่านี้ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีไขมันต่ำ จะสามารถช่วยได้ ลองหาเวลาออกกำลังกายให้ได้สักวันละ ครึ่งชั่วโมง - 1 ชั่วโมง เป็นประจำ เพียงเท่านี้ไขมันรอบเอวเหล่านั้นก็จะลดลงได้

จะรู้ได้อย่างไรว่าอยู่ในภาวะ ‘อ้วน’ หรือไม่

หากคุณเป็นคนผอมหรือน้ำหนักตัวปกติก็อย่าได้ชะล่าใจว่าคุณจะไม่ไขมันน้อยตามไปด้วย ฉะนั้นหากอยากรู้ว่าตนเองอ้วนหรือไม่ ลองหาค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index : BMI) เพื่อประเมินภาวะอ้วนหรือผอม โดยมีสูตรคือ BMI = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) / ความสูง (เมตร)2 จากนั้น นำค่าที่ได้มาเทียบกับเกณฑ์

ขอบคุณ : lisaguru

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน' ประจำวันอังคารที่ 30 ธันวาคม 2568

อนุทิน ย้ำ เที่ยงหยุดยิงตามข้อตกลง 72 ชม พร้อมถก JBC มค 69 หาทางออกร่วมกัน

อนุทิน ย้ำ ทำทุกวันให้ดีที่สุด ภท ไม่เน้นปราศรัยใหญ่

ปชป.ส่ง ทนงศักดิ์ ลงชิง สส.สมุทรปราการ ชูสโลแกน จริงใจ 10 เต็ม 10

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved