เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่สนใจและมีใจรักในเรื่องรถมากๆ สำหรับ “อู๋-นภัทร อัสสกุล” ที่ชอบและสะสมรถคลาสสิกไว้มากมาย ล่าสุดได้เปิดกรุรถคลาสสิกให้กับพิธีกร “ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์” แห่งรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2ช่อง 784 ได้เข้าไปพูดคุยพร้อมชมรถที่สะสม

อู๋-นภัทร อัสสกุล เล่าว่า “งานอดิเรกของผมคือ เล่นรถคลาสสิก จะเป็นแนวรถเก่าตามความทรงจำสมัยเราเป็นเด็กๆ วัยรุ่น สมัยนั้นยังไม่เคยมีรถเอง ขับรถไม่เป็น ก็ดูคันนั้นสวยนะ คันนี้สวยนะ ภาพมันก็ติดใจ คำว่ารถคลาสสิกถามว่าต้องนานขนาดไหน
ถึงจะเรียกว่ารถคลาสสิกได้ จริงๆ เวลาเขาแบ่งรถกัน เอาตามฝรั่งก่อนแล้วกัน ก็จะมีรถวินเทจ รถคลาสสิก ซึ่งต่างกัน

วินเทจนี่ต้องเก่ามาก รถคลาสสิกนี่จริงๆ คือรถซึ่งผลิตมานานแล้ว สัก 25-30 ปี ขึ้นไป ตอนนี้คง 30 ปีแล้วล่ะ สมัยผมเล่นใหม่ๆ ก็ 25-30 ปี ตอนนี้ 30 ปีกว่าแล้ว ก็ต้องมีคุณค่าในตัวมันเอง ที่นักสะสมเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก คือไม่ใช่ว่าขอให้รถเก่าๆ 30-40 ปี อะไรก็ถือเป็นคลาสสิกหมด จริง ๆ ก็ไม่ได้นับอย่างนั้น

หมายถึงเรื่องของคุณค่า ความหายากด้วย และก็ในแง่ของการยอมรับ รถบางรุ่น เช่น นิสสันแฟร์เลดี้Z ตัวแรก ผลิตมาเป็นหลายแสนคัน ถ้าในแง่ของคุณค่า ก็จะบอกว่ามันไม่ลิมิเต็ดหรอก เพราะมันมีเป็นแสนคัน ในแง่ของคนเล่นคนสะสม ก็เป็นรถคลาสสิก

อู๋-นภัทร อัสสกุล 

จุดเริ่มต้นสะสมรถคลาสสิกนั้น จริงๆ ชอบรถสปอร์ตอยู่แล้วนะครับ แล้วก็ชอบความแตกต่าง คือไม่ชอบของโหลเหมือนใคร คือต่อให้ซื้อรถสปอร์ตรุ่นปัจจุบัน ก็คงต้องทำการตกแต่งรถอยู่ดี ให้มันต่างออกไปให้มันเป็นตัวเรามากขึ้น ที่มาสนใจรถคลาสสิกเพราะรูปทรงรูปโฉมมันสวย มันกระโดดออกมาเลย คือเวลาขับมาด้วยกันหรือจอดด้วยกันกับรถสมัยนี้ มันจะกระโดดออกมาเลย ว่าฉันไม่เหมือนใครนะ ในเรื่องของดีไซน์ด้วย

และจากการที่ไปศึกษาได้สัมผัสมาเยอะขึ้น ก็ยิ่งชอบ เพราะว่ารถสมัยก่อนไม่เหมือนรถสมัยนี้ ไม่ต้องมานั่งห่วงว่าคลาสเทสจะผ่านมั้ย คนสูง 190 ซม. กับคนสูง 160 ซม. จะขับได้มั้ย เขาไม่ค่อยสนกันคือเขาสนแต่ว่าฉันอยากทำรถให้มันสวย ฉะนั้นมันก็มีดีไซน์ มีความเป็นอาร์ต อารมณ์ของอาร์ตมากกว่าอารมณ์ของฟังก์ชั่น

ส่วนใหญ่ยี่ห้อที่ผมสะสม จะเป็นรถยุโรป ทั้ง ปอร์เช่ บีเอ็ม อัลฟ่า มินิมีรถญี่ปุ่นบ้างนิดหน่อย ซึ่งก็มีพอสมควรถามว่าตอนนี้ผมมีรถคลาสสิกกี่คันแล้วขอบอกแค่ว่าหลายคันครับ ขอไม่บอกจำนวน เพราะไม่เคยบอกใครและก็ไม่อยากบอกใครถ้าบอกเป็นจำนวนมันน่ากลัวไปหน่อย บอกแค่ว่าหลายคันแล้วกัน

สำหรับระยะเวลาในการสะสมนั้นผมเล่นรถคลาสสิกมาตั้งแต่ก่อนแต่งงานก็ 10 กว่าปีตอนนี้ก็มีลูก 4 คนแล้ว ก็ยังคงสะสมต่อ แต่น้อยลงหน่อย แต่ว่าค่อยๆ ที่จะโตขึ้น จากรถเล็กๆ ที่มูลค่าน้อยหน่อย หาง่ายๆ หน่อย ก็ไม่ค่อยเก็บ ก็พยายามจะเก็บรถที่หายากขึ้น มูลค่าสูงขึ้น ลดจำนวนเพิ่มมูลค่า

อันนี้ถามว่าเกี่ยวกับยี่ห้อหรือเกี่ยวกับความเก่าแก่และความหายาก จริงๆ อยากจะพูดว่ามันมีหลักการนะ มันอยู่ที่ความชอบชอบอะไรก็เก็บอย่างนั้น คนเล่นรถคลาสสิกภาษาทั่วไปเขาบอกว่าคอเดียวกัน เล่นไปเล่นมาถึงเวลามันก็จะรวมๆ มาในแนวเดียวกันพวกชอบรถยุโรป พวกชอบปอร์เช่ ก็จะชอบรุ่นนี้ๆ มันก็จะเป็นคอมมอนเซ้นต์คนเล่นรถ

นอกจากการชอบและสะสมแล้วผมยังแข่งรถด้วย คืออย่างที่เล่าให้ฟัง ชอบมาจากรถคลาสสิก แล้วก็ชอบที่จะตกแต่งมันให้มันแตกต่าง ให้มันสวยงาม วิธีแต่งรถส่วนใหญ่ 80-90% มันก็จะออกสไตล์แข่งขันอยู่แล้ว พอเราทำไป ผมเป็นคนใช้รถ ซึ่งต้องใช้ได้จริง คือไม่ใช่ทำมาสวยงาม แล้วก็จอดเก็บไว้ นอนในห้องแอร์เอาไว้ดู ก็ไม่ ผมก็ต้องขับจริงๆ ขับไปต่างจังหวัด คือ ใช้งานจริงๆ

พิธีกรรายการ ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์ และอู๋-นภัทร อัสสกุล

ทีนี้พอเริ่มทำไปทำมาแล้วรู้สึกว่าที่เราทำไปมันใช้ได้จริงหรือเปล่า หรือมันแค่ดูจากรูป ดูจากหนังสือ อ่านข้อมูล พอตกแต่งเป็นแนวแข่งขันเอาไว้ซิ่งหน่อย ก็อยากไปลองขับดู ก็เริ่มจากแทคเดย์ กับเพื่อนๆ ในบางกอกคลาสสิกดอทคอม ก็เป็นเว็บไซต์รถคลาสสิกที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ก็ไปแทคเดย์กันก่อน ก็รวมตัวกันไป ไปขับกันเล่นๆ เอง หลังๆ เริ่มจะต้องบ่อยขึ้น เริ่มแบบไปขอพ่วงกับพวกรายการใหญ่ที่เขาแข่งกันอยู่แล้ว ให้เราแข่งเลยแล้วกัน

ซึ่งในการแข่งขันรถทุกคัน จะเป็นคลาสสิกคาร์หมดเลย ก็จะมีการกำหนดอายุ ปี มาตรฐานรถ ไม่กำหนดยี่ห้อ ค่อนข้างเปิดกว้างนะเมืองไทย คือบางคนก็แล้วแต่คนเล่นรถคลาสสิก บางทีมันอาจจะไม่ได้มีคุณค่าในระดับโลก แต่สำหรับเจ้าของมันมีคุณค่า เพราะว่าเป็นรถที่เขาใช้มาตั้งแต่ยังเด็ก พ่อแม่ไปส่งเขาที่โรงเรียน หรืออะไรก็ตาม คือเป็นความผูกพันทางด้านจิตใจซะส่วนใหญ่ เราก็ไม่ปิดกั้นตรงนี้ ก็คือขอให้อยู่ในคลาส ความหมายก็คือรถที่มีอายุเกิน 25-30 ปีขึ้นไป เครื่องยนต์ค่อนข้างที่จะตรงรุ่น คือไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนเกินไป คือแต่งตรงยุคได้ เช่น มีอุปกรณ์ตกแต่งตามปีพ.ศ.นั้น มันก็โอเค

และตอนนี้ผมก็เป็นกรรมการสมาคมรถคลาสสิกด้วย พอเริ่มเล่นรถคลาสสิกไปเรื่อยๆ ก็ได้รู้จักผู้ใหญ่ที่อยู่ในวงการเยอะขึ้น ช่วงนั้นก็ยังไม่ได้แต่งงาน เวลาว่างเยอะ เขาก็บอกงั้นมาช่วยกันทำ ก็เป็นกรรมการสมาคมรถคลาสสิกแห่งประเทศไทย และก็เป็นคอนเมมเบอร์ของบางกอกคลาสสิกคาร์ดอทคอม เป็นรุ่นก่อตั้งเลย ปัจจุบันสมาคมอายุ 12 ปีแล้ว

กิจกรรมของสมาคมก็จะมีพวกแสดงงานรถคลาสสิกตัวเก่า ที่ ซีคอนสแควร์ทุกปีงานหลักๆ ประจำ นอกนั้นก็จะมีรวมกัน ล่าสุดก็ไปงานคลาสสิกเฮอร์ริเทจ ที่หัวหิน ก็จะมีงานประจำปีไปเรื่อยๆ ที่เกี่ยวกับรถก็จะมีคนมาสอบถามอยู่เรื่อยๆ หรือพอเป็นองค์กรซึ่งได้รับการรับรองจากรัฐบาล ก็จะมีอย่างบริษัทประกันภัย ประกันภัยรถคลาสสิก ก็จะมาสอบถามข้อมูล

เรื่องรถวินเทจที่มีมูลค่าเยอะๆ และหายากๆ การดูแลรักษา การซ่อมแซมมันต้องมีความพิเศษ จะยากกว่ารถทั่วไปหน่อย อะไหล่ที่จะมาซ่อมแซม จะหายากง่ายตรงนี้จะแล้วแต่ คือถ้าเป็นรถที่มีความนิยมทั่วโลก เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมเยอะๆ ก็จะมีตลาด พอมีตลาดก็จะมีผู้ผลิตออกมา ผลิตอะไหล่ใหม่ให้ หรือถ้าเอาบางยี่ห้อ เช่น ปอร์เช่, เบนซ์ทางโรงงานผู้ผลิตจะเล็งเห็นความสำคัญของรถคลาสสิก เขาการันตีว่าอะไหล่ทุกอย่างที่เขาผลิตมาในชีวิตนี้จะมีทั้งหมด เขาจะผลิตให้ใหม่เลย หนึ่งชิ้นเขาก็ทำให้ แต่ราคาก็แล้วแต่

สำหรับกิจกรรมของผม นอกจากร่วมกับต่างประเทศแล้ว ส่วนตัวก็กิจกรรมหลักคนเล่นรถคลาสสิกคือซ่อมรถ อันนี้กิจกรรมหลักเลย นอกนั้นก็จะมีพอเราเป็นสมาคม หรือเป็นเว็บไซต์ ก็มีมาเรื่อยจากเพื่อนๆ เล่นรถคลาสสิกจากเพื่อนบ้าน ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดฯ ก็มาเที่ยวเมืองไทย หรือมีอีเว้นท์ เขาก็เชิญเราไปมีหลายรอบที่คิดว่าจะจัดเป็นเหมือนแรลลี่ ข้ามมาจากสิงคโปร์ มาเลเซีย เข้าเมืองไทย ก็มีการคุยกัน ก็ได้ประสานงานกัน แล้วก็มีเรื่องการแข่งขันด้วย

ปัจจุบันบางกอกคลาสสิกคาร์ มีรีจิสเตอร์เมมเบอร์ประมาณเกือบๆ จะสองหมื่นคนแล้วเรียกว่าได้รับความนิยมพอสมควร คือการเป็นเว็บไซต์มันมีข้อดีคือ เปิดกว้าง คุยกันที่ความชอบ ก็คุยกันว่าคุณมีรถมั้ย คุณมีรถกี่คันบางคนยังไม่มี หรือยังไม่พร้อม หรือยังไม่เจอของที่ใช่ ก็มาศึกษาหาข้อมูลพูดคุยกัน

คำแนะนำสำหรับคนที่เป็นเจ้าของรถคลาสสิกคาร์ ก็อยากจะแนะนำว่า จริงๆ คลาสสิกคาร์ก็ดูแลรักษาเหมือนรถทั่วไปเช็คน้ำมันเครื่อง หม้อน้ำ เหมือนรถทั่วไป แต่ว่าที่มากไปกว่านั้นคือว่า รถพวกนี้ตอนที่มันได้รับการออกแบบและการสร้างมา มันอายุ30-40 ปี และสมัยนั้นพูดกันตรงๆ มันไม่ร้อนขนาดนี้ ก็จะใช้งานชีวิตประจำวัน สู้รถติดกรุงเทพฯ พร้อมอุณหภูมิ 40 องศา มันไม่ไหวหรอก ก็ต้องเลือกวิธีการใช้สักนิดหนึ่ง

แล้วก็ส่วนใหญ่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือรถเก่ามันไม่มีอะไรหรอก คือระบบยางพวกท่อยาง สายน้ำมัน ระบบไฟฟ้า สายไฟมันเก่าไปแล้วก็ควรตรวจสอบ เพื่อความปลอดภัย นอกนั้นก็ไม่มีอะไร ใครที่เพิ่งเริ่มเล่นรถคลาสสิก ก็อยากจะแนะนำว่า สมัยนี้มันมีอินเตอร์เนตที่ค่อนข้างแพร่หลาย ไปศึกษาหาข้อมูลก่อนว่ารถตัวเองคืออะไร มันก็จะมีคอลัมน์รถพวกนี้ต่างๆ อยู่แล้ว ก็จะบอกเลยว่าดูแลรักษาอย่างไร อะไรควรทำไม่ควรทำก็อย่าไปใช้สมบุกสมบันมาก ก็ต้องเข้าใจตอนเขาเกิด เขาเกิดมาในอุณหภูมิ 20 กว่าๆ ตอนนี้เราก็อยู่กัน 40 องศา แล้วก็รถติดมาก

สุดท้ายก็อยากฝากว่าถ้าใครอยากเข้าไปร่วมกับสมาคม หรืออยากจะอัพเดทข่าวสาร ก็มีง่ายๆ 2 ช่องทางคือ www.bangkokclassiccar.com แล้วก็www.thaiclassiccar.com นะครับ มี 2 เว็บไซต์ หรือหาในเฟซบุ๊ค Bangkok Classic car ครับ”