อริสรา ธนาปกิจ และ ฟรัง-นรีกุล เกตุประภากร
โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเอ็นคอนเส็ปท์นำโดย ครูพี่แนน-อริสรา ธนาปกิจ จับมือไอดอลขวัญใจวัยรุ่น ฟรัง-นรีกุล เกตุประภากรชวนเด็กไทยตั้งใจเรียน เบนความสนใจกับโลกโซเชียล “ตั้งเป้าแล้วเข้าชาร์จ” ที่สำคัญครอบครัวต้องช่วยกันผลักดัน
นางสาวอริสรา ธนาปกิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเอ็นคอนเส็ปท์เปิดเผยว่า “ในปัจจุบันคนไทยใช้โซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะเฟซบุ๊ค เราเป็นลำดับที่แปดจากทั่วโลก และจากการสำรวจของสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้
และคุณภาพเยาวชน (สสค.) พบว่า ตัวเลขการใช้โทรศัพท์มือถือและโซเชียลมีเดียของเด็กไทยสูงขึ้น 2-3 เท่าในหนึ่งปี 75.7% เล่น Social Network บ่อยจนไปถึงประจำ วิถีชีวิตในปัจจุบันก็เชื่อมโยงกับสื่อออนไลน์กว่า 51.1% เช็คโทรศัพท์มือถือตอนตื่นนอนเป็นอย่างแรก 35% มักจะเล่นโซเชียลมีเดียก่อนนอน และกว่า 42.5% รู้สึกทนไม่ได้หากต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีสมาร์ทโฟน
จากข้อมูลดังกล่าวเราจะเห็นได้ว่า เด็กในยุคปัจจุบันถูกเทคโนโลยีเบี่ยงเบนความสนใจจากการเรียนและการใช้ชีวิตด้านอื่นๆไปมาก ซึ่งจากประสบการณ์กว่า 20 ปีที่คลุกคลีกับเด็กไทย พบว่าการที่จะเบี่ยงความสนใจจากเด็กๆ ให้กลับมาสนใจการเรียนได้นั้น ครอบครัวจะต้องมีส่วนช่วยผลักดันและกระตุ้นให้เด็กมีเป้าหมายที่ชัดเจน เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมีการเตรียมความพร้อมทบทวนข้อมูลอย่างดีแล้ว เด็กไทยจะคว้าโอกาสและประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้มีชื่อเรียกสั้นๆว่า 4G คือ Goal, Gear Up, Gather และ Grab”
โดย Goal คือ การตั้งเป้าหมาย ซึ่งมีผลต่อความสำเร็จมาก เราจะเห็นได้จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเยล พบว่ามีจำนวนนักศึกษาเพียง 3% ของนักศึกษาทั้งหมดที่เขียนเป้าหมายในชีวิตไว้อย่างชัดเจน ส่วนอีก 97% ของนักศึกษาทั้งหมดกลับไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนและไม่เป็นรูปธรรม เวลาผ่านไป 20 ปี พบว่า กลุ่มนักศึกษาที่เขียนเป้าหมายในชีวิตไว้อย่างชัดเจนนั้นสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขมากกว่า และมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีกว่า จากข้อมูลดังกล่าวเอ็นคอนเส็ปท์จึงต่อยอดมาสู่กิจกรรม “ตั้งเป้าแล้วเข้าชาร์จ” เพื่อเชิญชวนให้เด็กไทยและคนไทยทุกคนประกาศเป้าหมายของตนเองออกมา และตั้งใจทำให้สำเร็จตามระยะเวลาที่ตั้งไว้ เพราะพี่แนนเชื่อว่า ทุกความสำเร็จเริ่มต้นจากเป้าหมาย Gear up การเตรียมพร้อม, Gather การรวบรวมข้อมูลและทบทวน ดร.จูดี วิลลิซ ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาชาวสหรัฐ กล่าวว่า วิธีเพิ่มความจำ และเรียนรู้เรื่องใหม่ให้เร็วขึ้น โดยการเชื่อมโยงเรื่องต่างๆ เข้าด้วยกัน ผ่านการทำเป็นสัญลักษณ์หรือระบบภาพ การจัดหมวดหมู่ และการสังเคราะห์ต่อยอด วิธีการดังกล่าวตรงกับวิธีการทบทวนบทเรียนของเอ็นคอนเส็ปท์ ที่คิดค้นวิธีการทวนเนื้อหาบทเรียนแบบ Onepage Review ขึ้นมา โดยสามารถทบทวน แกรมม่าหลายร้อยหน้าให้อยู่ใน Onepage Map เพียงหนึ่งหน้าเท่านั้น
และขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กันคือ Grab หรือการคว้าเป้าหมายไว้ให้ได้ ซึ่งเด็กไทยมีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก หากมีความกล้าที่จะแสดงศักยภาพให้ทั่วโลกได้เห็น และไม่ลังเลที่จะคว้าโอกาสแล้วพี่แนนเชื่อว่าเด็กไทยเก่งไม่แพ้ใครในโลกแน่นอน
ด้าน “ฟรัง” นรีกุล เกตุประภากร นักแสดงชื่อดังเปิดเผยว่าใช้เทคนิคการเรียนและการสรุปแบบ Onepage Review นี้ด้วยเช่นกัน “สำหรับวิธีการเรียนเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นฟรังก็ใช้วิธีจดบันทึกและรีวิวสั้นๆ แบบนี้ เพื่อช่วยทบทวนจัดระบบความจำและทบทวนเนื้อหาต่างๆ ได้เร็วขึ้น และวิธีการเรียนแบบนี้ยังเอามาปรับใช้กับการเรียนในคณะแพทย์ได้อีกด้วย เพราะเวลาที่เราต้องเรียนเนื้อหาที่เยอะๆ การจดสรุปแบบ Onepage ช่วยฟรังได้มากเลยค่ะ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี