เป็นอันว่า รัฐบาลเอาจริง ไฟเขียวขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในวันพระใหญ่ ประกอบด้วย วันมาฆบูชา, วิสาขบูชา, อาสาฬหบูชา, เข้าพรรษา และวันออกพรรษามีผลอย่างเป็นทางการก่อนวันวิสาขบูชา เพียงไม่กี่วัน และถึงแม้ผลการรับฟังความเห็นจากประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ กว่า 61% จะไม่เห็นด้วยก็ตาม
สำหรับสาระของการอนุญาตขายในวันพระใหญ่ ตามที่ได้รับการยกเว้นคือ ในการจะยกเว้น 4 แห่ง ยกเว้นการขายในกรณีดังต่อไปนี้ (1) การขายในอาคารที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ
(2) การขายในสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ
(3) การขายในสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการที่ตั้งอยู่ใน พื้นที่หรือบริเวณที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด โดยคำแนะนําของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
(4) การขายในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
และ (5) การขายในสถานที่ซึ่งใช้จัดกิจกรรมพิเศษระดับชาติหรือนานาชาติ และมีคนจำนวนมาก ไปทำกิจกรรมร่วมกันตามรายชื่อสถานที่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด โดยคำแนะนําของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ทั้งนี้ ยังคงห้ามขายในร้านชำ ร้านสะดวกซื้อห้างใหญ่ ซึ่งรัฐบาลให้เหตุผลคือการส่งเสริมการท่องเที่ยว
เรื่องนี้ นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ มองว่า ในประกาศฉบับนี้ได้เน้นย้ำให้ผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องจัดให้มีการคัดกรองและมาตรการที่จําเป็น เพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ความปลอดภัยของประชาชน และการจํากัดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเด็กและเยาวชนด้วย
เรื่องนี้ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญและปฏิบัติให้ได้ด้วย แต่ตอนนี้เกิดความสับสนมากว่า สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ได้ทั้งหมดหรือไม่ คำตอบคือสามารถขายได้ในสถานที่ที่ยกเว้นไว้ให้เท่านั้น แต่โดยภาพรวมส่วนใหญ่ทั้งหมดยังคงห้ามขายอยู่เช่นเดิม เช่นร้านสะดวกซื้อ โชห่วย ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และทุกสถานที่ที่ขายต้องมีใบอนุญาตขายจากสรรพสามิตด้วย
“ประกาศฉบับนี้เป็นการผ่อนปรนการควบคุมตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยวและสอดคล้องกับข้อเสนอของผู้ประกอบการที่ผลักดันก่อนหน้านี้ ซึ่งจะกระตุ้นได้จริงหรือไม่นั้นต้องติดตามกันต่อ”
อย่างไรก็ตาม ที่อยากย้ำให้เข้าใจก่อนว่าภาพรวมการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันพระใหญ่ยังคงอยู่ ทั้งร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ร้านโชห่วย ร้านอาหาร ร้านข้าวต้ม ยังคงห้ามขายทั้งหมด ส่วนที่ยกเว้นและชัดเจนให้ขายได้คือสนามบินนานาชาติซึ่งรวมทั้งประเทศประมาณ 15 แห่ง สถานบริการทั้งประเทศมีไม่ถึง 2,000 แห่งที่จดทะเบียน และโรงแรมที่จดทะเบียนอีกประมาณ 15,000 แห่ง
ดังนั้น สนามบินที่ไม่ใช่นานาชาติ สถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการพวกร้านเหล้าผับบาร์ ทั่วไปและสถานีที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ยังคงห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ทั้งหมด
สำหรับร้านเหล้าผับบาร์ ในพื้นที่ท่องเที่ยวตามข้อ 3 และสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ ตามข้อ 5 ต้องรอกฎหมายลูกออกมาก่อน จึงขอเตือนบรรดาผู้ประกอบการร้านเหล้าผับบาร์ทั่วไป ในพื้นที่ท่องเที่ยว ยังไม่สามารถขายได้จนกว่าจะมีอนุบัญญัติออกมามีผลบังคับใช้ ผู้ที่ฝ่าฝืนยังคงมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ จึงไม่อยากให้มีการฉวยโอกาสผสมโรงทำผิดกฎหมาย และอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวด ไม่ปล่อยปละละเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ตามที่รัฐบาลบอก ข้อกฎหมายผ่อนปรนนี้ ออกมาเพื่อหวังว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ จึงไม่พ้นต้องสอบถามเอากับ “นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา” ซึ่งให้สัมภาษณ์เอาไว้ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งบอกว่า ณ ตอนนี้ยัง เพิ่งจะผ่านมาเพียงวันเดียว (หลังวันวิสาขบูชา) ยังไม่ได้ดูว่าตัวเลขเป็นอย่างไร
“แต่เอาตรงๆ ผมมองว่า เรื่องนี้ถ้าเราทำให้ถูกกฎหมาย มีการควบคุมดีกว่าการที่จะปิดกั้นแล้ว ทุกอย่างก็ต้องแอบทำกัน เพราะทุกคนก็ทราบดีว่าทุกวันพระใหญ่ก็ยังมีการแอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็เอาออกมาให้ถูกกฎหมายแล้วควบคุมเอา”
แล้วอีกอย่างก็ไม่อยากให้มาเทียบกันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากันระหว่างเรื่องของศีลธรรม กับ เศรษฐกิจ เพราะมันเทียบกันไม่ได้ และไม่อยากให้เทียบกันด้วยซ้ำ
เพราะคนจะดื่ม ถึงอย่างไรก็ตาม หาซื้อได้อยู่แล้ว อันนี้คือความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจริงๆ ดังนั้นเราก็ทำให้ถูกกฎหมายซะ แล้วทำเรื่องการควบคุมให้ดีทั้งควบคุมสถานที่ ควบคุมอายุคนซื้อดีกว่า
งานนี้ รมว.การท่องเที่ยวฯ ยังแย้มอีกว่า ในส่วนของร้านอาหาร ร้านขายของชำที่ยังไม่ได้รับการอนุญาตตอนนี้อาจจะได้รับการพิจารณาเป็นโซนๆ ไป เช่น ในพื้นที่ท่องเที่ยว อาจจะพิจารณาอนุญาตให้ขายได้ บอกว่าเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เข้ามาเที่ยวไทยแล้ว ตรงกับวันพระใหญ่ แต่เขาไม่รู้ว่ามีการห้ามขายแอลกอฮอล์ก็อาจจะติดขัดบ้าง จึงอาจจะต้องดูเป็นโซนนิ่ง
อนึ่งตอนนี้ เมื่อกฎหมายเดินหน้า จึงเป็นเรื่องที่ประชาชน จะต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ดูว่า รัฐจะกำกับหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ไม่ให้ซ้ำรอยอดีตในช่วงที่บรรดาผู้ประกอบการกับผู้มีอำนาจบางส่วนที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย อยากเปิดผับถึงตี 4 เมายันหว่าง เลยรับปากหมดว่าจะมีมาตรการเป่าแอลกอฮอล์ จัดที่พัก จัดรถรับส่งคนเมา สุดท้ายก็แค่ราคาคุย รับปากพอผ่านๆ ไป
รวมถึงสิ่งที่ประชาชนต้องจับตาอย่างใกล้ชิดคือการแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณานั้น ซึ่งมีหลายฝ่ายพยายามทำให้การควบคุมอ่อนแอลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี