ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในต่างแดน หลายคนคงนึกถึง “กุ้ยโจว” หรือ “จังหวัดอุทยาน” ดินแดนแห่งขุนเขาลึกลับและวัฒนธรรมหลากหลาย ที่ตั้งอยู่ใจกลางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน เพราะพื้นที่กว่า 92.5% เป็นภูเขาและเนินเขาทอดตัวงดงาม ซึ่งเป็นเสน่ห์ของเมืองที่มีความเพียบพร้อมของทรัพยากรทางธรรมชาติ ดังคำกล่าวโบราณของกุ้ยโจวที่ว่า "ภูเขาแปดส่วน น้ำหนึ่งส่วน ที่ราบหนึ่งส่วน"

ทว่าภูมิประเทศศาสตร์ที่โดดเด่นของกุ้ยโจวได้ก่อให้เกิดภูเขาสูง ถ้ำ น้ำตก และหุบเขาอันงดงามซับซ้อน จนได้รับการยกย่องจากเลขาธิการทั่วไป Xi Jinping ว่าเป็น "Park" เป็นหนึ่งในจังหวัดทางตะวันตกของจีนที่เต็มไปด้วยพลังและศักยภาพในการพัฒนาน้ำตก ถ้ำ หุบเขา ทะเลสาบ และน้ำพุร้อนมีอยู่ทั่วไปในกุ้ยโจว รวมถึงวัฒนธรรมหยางหมิง วัฒนธรรมสีแดง วัฒนธรรมประจำชาติ และวัฒนธรรมตุนเปาล้วนมีความลึกลับและงดงาม

โดยฤดูร้อนมีอุณหภูมิเฉลี่ยเพียง 23 องศาเซลเซียส จึงเป็นจุดหมายปลายทางตากอากาศที่เหมาะอย่างยิ่ง อีกทั้งกุ้ยโจวยังเป็นถิ่นอาศัยของชนเผ่าพื้นเมืองถึง 18 กลุ่มชาติพันธุ์ เช่น ชนเผ่าฮั่น เหมียว ปู้อี้ ต้ง ตูเจีย และอี ฯลฯ ทำให้ที่นี่มีวัฒนธรรมที่หลากหลายกลมกลืน จนเกิดภาพ “หนึ่งภูเขาหลายเผ่า สิบลี้ต่างวัฒนธรรม ร้อยลี้ต่างขนบธรรมเนียม”

ด้วยการพัฒนาทางเศรษฐกิจและระบบคมนาคมอย่างก้าวกระโดด เสน่ห์ของกุ้ยโจวจึงค่อยๆเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยปี 2016 หนังสือพิมพ์ The New York Times ได้จัดอันดับกุ้ยโจวเป็นหนึ่งใน 52 สถานที่ท่องเที่ยวที่ควรไปเยือนที่สุดในโลก พร้อมยกย่องให้เป็น "ขุมทรัพย์ลับแห่งภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน" ปี 2020 นิตยสาร Lonely Planet ก็ได้จัดอันดับกุ้ยโจวเป็นหนึ่งใน "10 ภูมิภาคท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก" ชื่นชมว่าที่นี่ยังคงความงดงามบริสุทธิ์ไร้การรุกล้ำของเชิงพาณิชย์

ปัจจุบัน กุ้ยโจวได้เน้นพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกหลายแห่ง ได้แก่ น้ำตกหวงกว่อซู่ : น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย สามารถชมได้จากหกทิศทาง , เสี่ยวชีข่ง ลี่ป๋อ : น้ำสีเขียวมรกต งดงามดั่ง "อัญมณีแห่งสายรัดเอวของโลก" , หมู่บ้านชนเผ่าเหมียวซีเจียง : หมู่บ้านเหมียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก รักษาสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมพื้นเมืองไว้อย่างสมบูรณ์ , ภูเขาด่านเซี่ย ชื่อซื่อ : มีพื้นที่ดินแดนหินสีแดง (Danxia) ใหญ่ที่สุดในจีน น้ำตกใหญ่ของชื่อซื่ออลังการ , วนอุทยานวั่นเฟิงหลิน : หนึ่งใน "ห้าแนวเขาที่งดงามที่สุดของจีน" โดดเด่นด้วยภูมิทัศน์คาสต์รูปกรวย , ภูเขาฝั่นจิ่ง : มรดกธรรมชาติของโลก ยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาอู่หลิง บ้านเดียวของลิงทองเฉียนจินส์โฮ่ว

นอกจากหกจุดหมายดังกล่าวแล้ว ยังมีกีฬาพื้นบ้านอย่าง “หมู่บ้านซูเปอร์ลีก” และ “หมู่บ้านบาสเกตบอล” ก็ได้กลายมาเป็นไฮไลท์ใหม่ทางการท่องเที่ยวอีกด้วย เพราะกิจกรรมเหล่านี้ได้ผสมผสานวัฒนธรรมชนกลุ่มน้อยกับกระแสแฟชั่นสมัยใหม่มาดึงดูดและเรียกความสนใจจากทั่วโลก ด้วยมียอดเข้าชมคลิปวิดีโอบนแพลตฟอร์มออนไลน์เกินกว่าหนึ่งแสนล้านวิว และมีนักกีฬาต่างชาติเข้าร่วมแข่งขันมากมาย เป็นภาพสะท้อนของความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมและพลังวัยรุ่นของกุ้ยโจว

นอกจากนี้ กุ้ยโจวยังพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเฉพาะตัว เช่น กว่าครึ่งของ 100 สะพานสูงที่สุดในโลก อย่างสะพานข้ามแม่น้ำป้าหลิง เป็นสะพานแรกของจีน มีความสูงเหนือแม่น้ำป้าหลิง ประมาณ 370 เมตร และยังเป็นที่ตั้งของสะพานเป่ยผานเจียง กุ้ยโจวจึงได้ชื่อว่าเป็น “มณฑลแห่งพิพิธภัณฑ์สะพาน” ของโลก ซึ่งมีบริการบันจี้จัมพ์ กระโดดร่ม และชมวิว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ท้าทายความสนุกนี้กันอีกด้วย

ขณะที่ “เหล้าเหมาไถ” หรือ “กุ้ยโจว เหมาไถ” คนรุ่นใหม่อาจจะไม่คุ้ยเคยกับชื่อนี้ แต่หากถามคนในรุ่นพ่อรุ่นแม่ จะต้องคุ้นเคยชื่อเหล้ายี่ห้อนี้เป็นอย่างดีในฐานะ “สุราจีน” ระดับตำนาน เพราะครั้งหนึ่งรัฐบาลจีนเคยใช้เครื่องดื่มนี้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองจนโด่งดังไปทั่วโลก โดยมีการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมการกลั่นสุราและประสบการณ์การชิมเหล้า

และเพื่อยกระดับประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ กุ้ยโจวได้พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครอบคลุม เช่น การติดตั้งป้ายภาษาอังกฤษในแหล่งท่องเที่ยว การตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สนามบิน การรองรับบัตรธนาคารต่างประเทศอย่างทั่วถึง การจัดจำหน่ายซิมการ์ดโทรศัพท์ระยะสั้น และเปิดเส้นทางเชื่อมต่อจุดท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึงบริการ “กลุ่มเล็ก รถเล็ก” แบบเฉพาะกลุ่ม เพื่อความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง