วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ตะลอนเที่ยว : สุรินทร์ บุรีรัมย์  เมืองแห่งปราสาทหินในเขตอีสานใต้

ตะลอนเที่ยว : สุรินทร์ บุรีรัมย์ เมืองแห่งปราสาทหินในเขตอีสานใต้

วันอาทิตย์ ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag : บุรีรัมย์ ปราสาทหิน สุรินทร์ อีสานใต้
  •  

ปราสาทหินพนมรุ้ง

ความตั้งใจเดิมของ Mr.Flower กับการเดินทางไปเที่ยวจังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์ในครั้งนี้คือการไปชมความงามของปราสาทหินให้ครบทุกแห่งในจังหวัดทั้งสอง แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนความตั้งใจในภายหลัง เพราะแค่เพียงระยะเวลา 3 วัน ของการเดินทางคงไม่สามารถติดตามไปชมความงามของปราสาทหินที่มีหลายสิบแห่งได้ แต่ก็ตั้งใจว่าในวันข้างหน้าจะกลับไปตระเวนชมความวิจิตรของปราสาทหินให้ครบทุกแห่งในบุรีรัมย์และสุรินทร์

ทริปนี้เราเริ่มต้นกันที่บุรีรัมย์ โดยมุ่งตรงไปที่ปราสาทพนมรุ้ง ศาสนาสถานซึ่งได้รับการขนานนามว่าทิพยวิมานบนเขาไกรลาส ปราสาทนี้สร้างขึ้นบนภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว โดยสร้างในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 15-17 สันนิษฐานว่าผู้ทรงสร้างคือพระเจ้านเรนทราทิตย์ แห่งราชวงศ์มหิทธรปุระ เพื่อเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ครั้นต่อมาศตวรรษที่ 18 สำหรับ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมทรงนับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นพุทธศาสนสถานในช่วงเวลานั้น ปราสาทหินนี้สร้างด้วยหินทรายสีชมพู

วัดเขาอังคาร


หลายต่อหลายคนจะพากันไปชมปรากฏการณ์ชมแสงพระอาทิตย์ส่องผ่านประตู 15 ช่องของพนมรุ้ง ซึ่งใน 1 ปีจะสามารถชมได้ 4 ช่วงคือ วันที่ 6-8 มีนาคม และวันที่ 6-8 ตุลาคม (ชมพระอาทิตย์ตกผ่าน 15 ช่องประตู) ส่วนวันที่ 3-5 เมษายน วันที่ 8-10 กันยายน (ชมพระอาทิตย์ขึ้นผ่าน 15 ช่องประตู) จุดที่ดูคือด้านหน้าและด้านหลังของปราสาทหิน แต่ที่อยากจะขอบอกว่าต้องไม่พลาดชมก็คือหน้าบัน และทับหลังต่างๆ ในปราสาทหินพนมรุ้ง ซึ่งมีความงามแตกต่างกันไป บางคนเข้าใจว่าที่พนมรุ้งมีเพียงทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์เท่านั้น แต่ขอเรียนว่ามีทับหลังอีกมากมาย โดยเฉพาะหน้าบันรูปศิวนาฏราช และหน้าบันรูปพระกฤษณะทรงปราบนาคกาลียะ แล้วจะยิ่งมีอรรถรสในการชมมากยิ่งขึ้นหากมีความรู้เรื่องเทพเจ้าต่างๆ ตามความเชื่อของฮินดูเป็นอย่างดี

ต่อด้วยปราสาทเมืองต่ำ ที่อยู่ห่างจากปราสาทพนมรุ้ง ประมาณ 8 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ สันนิษฐานว่าปราสาทแห่งนี้สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 16-18 เป็นศิลปะขอมแบบปาปวน สร้างเป็นเทวสถานของลัทธิไศวนิกาย ปราสาทเมืองต่ำมีขนาดไม่ใหญ่โตเท่าปราสาทพนมรุ้ง มีกำแพงสูงประมาณ 3 เมตร ล้อมรอบทุกด้าน และภายนอกปราสาทมีสระน้ำ (บาราย) ล้อมทั้งสี่ด้านด้วย เปรียบเหมือนเกษียรสมุทรที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ ส่วนใจกลางเขตปราสาทมีประสาท 5 องค์ แต่มีองค์กลางสูงที่สุดเปรียบเสมือนเขาไกรลาสที่ประทับพระศิวะเจ้า ส่วนทับหลังที่สำคัญของปราสาทเมืองต่ำคือทับหลังที่สลักเป็นพระอินทร์ประทับนั่งบนช้างเอราวัณ

ปราสาทเมืองตํ่า

จากนั้นก็ต่อไปชมปราสาทหินในเขตจังหวัดสุรินทร์ เริ่มที่ปราสาทศีขรภูมิ เป็นปราสาทขนาดเล็ก ศิลปะขอมแบบบาปวนผสมนครวัด สร้างขึ้นในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 16 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 17 เป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ปราสาทแห่งนี้ประกอบด้วยปรางค์ก่อด้วยอิฐ 5 องค์ ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันยกพื้นสูง มีบาราย (สระน้ำ) ล้อมรอบ 3 ด้าน มีองค์กลางคือปรางค์ประธาน ก่อด้วยหินทราย ผสมศิลาแลงและอิฐ ปราสาทศีขรภูมินี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นที่รวมงานศิลป์ชิ้นสำคัญของปราสาทหินที่เป็นศิลปะขอม โดยเฉพาะรูปทวารบาลยืนถือกระบองประกบอยู่ด้านข้างนางอัปสรา และที่นี่ยังได้รับการยอมรับว่ามีรูปสลักนางอัปสราที่งดงามและสมบูรณ์แบบที่สุดในบรรดางานศิลปะการแกะสลักหินในปราสาทหินที่ปรากฏอยู่ในเขตเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปสลักนางอัปสราทรงเครื่องในกรอบประตูด้านหน้าของปรางค์ประธาน ส่วนทับหลังก็สลักเรื่องราวของพระศิวะ 3 ตอน คือศิวนาฏราชบนแท่นหงส์ 3 ตัวที่อยู่เหนือเศียรเกียรติมุข มีรูปพระคเณศ พระพรหม พระวิษณุ และนางปารพตี (พระอุมา) อยู่ด้านล่าง โดยได้ชื่อว่าสวยงามและสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมืองไทย

วนอุทยานเขากระโดง

ต่อด้วยปราสาทหินบ้านพลวง ในเขตอำเภอปราสาท เป็นปราสาทขนาดเล็กแต่ฝีมือการสลักหินวิจิตรบรรจงมาก องค์พระปรางค์ก่อด้วยศิลาแลงหินทราย และอิฐ เป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมจำหลักลายวิจิตรมาก แต่องค์ปรางค์พังทลายลงเหลือเพียงครึ่งเดียว โดยส่วนยอดพังหายไปแล้ว

อันที่จริงแล้วในเขตจังหวัดสุรินทร์ยังมีปราสาทหินอีกมากมาย อาทิ ปราสาทตาเมือนธม  ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาเมือน ซึ่งเรียกรวมกันว่ากลุ่มปราสาทตาเมือนตั้งอยู่บนแนวเขาพนมดงรัก ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนไทย-กัมพูชามาก หากจากชายแดนเพียง 10 กิโลเมตร เท่านั้น

เมืองสุรินทร์ยังได้รับการขนานนามว่าเมืองช้าง ดังนั้นเมื่อมาแล้วก็ต้องไปเที่ยวหมู่บ้านช้างที่อำเภอท่าตูม ชุมชนชาวส่วยด้วย ที่นี่มีการฝึกหัดช้าง เลี้ยงช้าง และคล้องช้าง ชาวบ้านทางตูมเลี้ยงช้างไว้เป็นเพื่อน กินนอนร่วมกัน ไม่ได้เลี้ยงช้างไว้เพื่อใช้แรงงานเหมือนในภาคเหนือของไทย นักท่องเที่ยวที่เป็นคู่สามีภรรยามักนิยมไปจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ศูนย์คชศึกษา ส่วนช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ช่วงขึ้น 13-15 ค่ำ เดือน 6 ที่วัดแจ้งสว่าง บ้านตากลาง อ.ท่าตูม จะมีการแห่นาคด้วยช้างกว่า 50 เชือก ข้ามลำน้ำมูลในพิธีอุปสมบท ส่วนในสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤศจิกายนทุกปีจะมีงานช้างสุรินทร์ ที่สนามกีฬาศรีณรงค์

ประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง

และเป็นปกติเมื่อได้มาเที่ยวแล้ว ก็ต้องซื้อของดีประจำเมืองสุรินทร์และบุรีรัมย์กลับบ้านด้วย ของดีเมืองสุรินทร์จำพวกผ้าคือผ้าไหมยกทองจันทร์โสมา บ้านท่าสว่างที่เป็นผ้าทองยกทองชั้นสูงแบบราชสำนักไทยโบราณ และยังมีเครื่องเงินจำพวกลูกประคำเงิน(ลูกประเกือม) บ้านเขวาสินรินทร์ บ้านโชค บ้านสะดอ อำเภอเขวาสินรินทร์ส่วนของที่ระลึกจากเมืองบุรีรัมย์คือ ผ้าไหมและผ้าฝ้ายบ้านนาโพธิ์ผ้าซิ่นตีนไหมแดง ผ้าเอกลักษณ์ของชาวอำเภอพุทไธสงและอำเภอนาโพธิ์ ผ้าฝ้ายภูเขาไฟภูอัคนี เป็นผ้าฝ้ายย้อมดินภูเขาไฟของชุมชนบ้านเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์และสุรินทร์โปรดโทร. 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย

เขื่อนลำนางรอง

ปราสาทศีขรภูมิ

ประเพณีบวชนาคช้าง

หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 13-19 มิ.ย.68

'ทูตประศาสน์'พร้อมคณะฝ่ายไทย เดินทางถึงกัมพูชา เตรียมเข้าร่วมประชุม JBC พรุ่งนี้

ไต่สวนคดีติดคุกทิพย์นัดแรก! 'ผบ.เรือนจำ'ยอมรับส่งตัว 'ทักษิณ' ไป รพ.ตร.ไม่ผ่านรพ.ราชทัณฑ์

จุดเริ่มต้นที่ดี! 'ภูมิธรรม' หวังเวที JBC พรุ่งนี้ราบรื่น ขอปชช. 2 ประเทศไม่บิดเบือนข้อมูล

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved