รศ.ดร.อัษฎาพร ทรัพย์สมบูรณ์ กล่าวเปิดงาน
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดบ้านจัดงาน Grand Open House 2016 (แกรนด์ โอเพ่น เฮ้าส์ 2016) ตลาดนัดหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก ทั้งหมดรวม 15 หลักสูตร หวังเปิดโอกาสให้ว่าที่นิสิต ศึกษาหลักสูตรต่างๆ ก่อนเลือกเรียนให้ตรงกับความต้องการ เพื่อให้เนื้อหาที่เรียนสามารถเสริมประสิทธิภาพการทำงาน สร้างความก้าวหน้าให้กับทั้งตัวนิสิต และองค์กรธุรกิจ
รศ.ดร.อัษฎาพร ทรัพย์สมบูรณ์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การจัดงาน Open House ครั้งนี้เป็นเหมือนตลาดนัดหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก ให้ผู้สนใจเข้ามาร่วมงานมีข้อมูลหลากหลายเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือก โดยปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากขึ้น เพราะตระหนักว่าการศึกษามีส่วนเสริมความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
(ขวา) ดร.อัครินทร์ ไพบูลย์พานิช แนะนำหลักสูตรให้แก่ผู้สนใจ
ทั้งนี้ หลักสูตรปริญญาโทของคณะ มีความหลากหลายถึง 11 หลักสูตร ที่เป็นการเตรียมความพร้อมในการขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูง เช่น MBA และหลักสูตรที่เน้นความชำนาญเฉพาะด้าน เช่น การเงิน บัญชี ประกันภัย สถิติ การจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้สนใจ นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรที่ร่วมกับคณะอื่น เช่น วิศวกรรมการเงิน ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ หรือหลักสูตรที่ร่วมกับสถาบันในต่างประเทศ เช่น หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการกำกับดูแลกิจการ Master of Science Program in Corporate Governance (MSCG) หลักสูตรสำหรับผู้ตรวจสอบภายใน หรือผู้บริหารในการเพิ่มพูนความรู้ด้านการกำกับดูแลกิจการ โดยเป็นการพัฒนาหลักสูตรร่วมกับสถาบัน The Institute of Internal Auditors (IIA) สถาบันผู้ออกใบรับรองให้กับบุคคลผู้ทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบภายใน
“เราก็พยายามนำเอาเทรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกธุรกิจเสริมเข้าไปในหลักสูตรปัจจุบัน เพื่อให้หลักสูตรมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ขณะนี้กระแสเรื่องดิจิทัลเข้ามา เราก็จะเอาเข้าไปเสริมอยู่ในบางวิชาของหลักสูตร MBA เช่น วิชาอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น”
รองคณบดีฝ่ายวิชาการ กล่าวต่อว่า หลักสูตรที่ได้รับความนิยมสูงสุดมาโดยตลอด คือ MBA ซึ่งคณะ มีให้เลือกเรียน 4 หลักสูตร คือ Regular, Young Executive, Executive และ English Program ซึ่งกว่า 80% จะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานมาระยะหนึ่งแล้ว จึงมาเรียนต่อในภาคค่ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางคณะ ให้การสนับสนุนมากกว่าการเรียนจบปริญญาตรีแล้วมาต่อปริญญาโทเลย เนื่องจากประสบการณ์การทำงานจะช่วยให้การเรียนรู้ในระดับปริญญาโทมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ว่าที่นักบริหารรุ่นใหม่ เลือกหลักสูตรที่ตัวเองสนใจ
ส่วนหลักสูตรปริญญาเอก มีทั้งหมด 4 หลักสูตร คือ ด้านบริหารธุรกิจ บัญชี ไอทีบิสซิเนส และการเงินเชิงปริมาณ เป็นหลักสูตรที่เปิดสำหรับผู้ที่อยากจบออกไปเป็นอาจารย์ หรือนักวิชาการโดยเฉพาะ โดยแต่ละปีมีนักศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอกรวมกัน 2,100 คน แต่สำหรับปริญญาเอกมีนิสิตที่จบออกไปน้อยเนื่องจากไม่มีเวลาสำหรับการเรียนรู้อย่างหนักเพื่อให้ผ่านมาตรฐานที่ทางคณะ กำหนดไว้
“การเรียนการสอนระดับปริญญาโท และปริญญาเอกของคณะ เน้นการผสมผสานระหว่างประสบการณ์และวิชาการ ทำให้มาตรฐานในการวัดผลการศึกษาค่อนข้างสูง การเรียนที่นี่จึงไม่ใช่แค่เรียนครบแล้วจบแน่ แต่จะต้องเรียนครบแล้วจบออกไปอย่างมีคุณภาพ จึงจะสามารถคว้าใบปริญญาของที่นี่ไปได้” รศ.ดร.อัษฎาพร กล่าวปิดท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี