อีฟ-วลัยพรรณ รัศมี เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ แบรนด์ EVE’S คือตัวอย่างของการเป็นนักธุรกิจสาวที่ประสบความสำเร็จ เพราะมีฝันอันยิ่งใหญ่ พร้อมก้าวสู่บทบาทผู้เชี่ยวชาญด้านความงามอย่างแท้จริง หากให้ถอดรหัสความสำเร็จของนักธุรกิจสาววัยเพียง 29 ปีคนนี้ คงต้องย้อนไปถึงช่วงเวลาเริ่มต้นทำงานเป็นลูกจ้างประจำ นับเป็นการเดินบนเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และเป็นหนทางอันคดเคี้ยวก่อนนำเธอไปสู่ “วิถีเถ้าแก่เนี้ย” ในปัจจุบัน หนึ่งในกุญแจความสำเร็จต้องยกให้ ความกล้าลองทำสิ่งใหม่เพื่อค้นหาสิ่งที่เป็นตัวตนจริงๆ
อีฟ-วลัยพรรณ รัศมี เล่าว่าหลังจากสำเร็จการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร (Food Science) จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เธอเลือกสั่งสมประสบการณ์เป็นพนักงานร้านกาแฟแบรนด์ดังแห่งหนึ่ง ซึ่งทำให้เธอเรียนรู้ระบบการทำงานหน้าร้าน ต้อนรับลูกค้า ชงกาแฟ และการบริหารจัดการหลังร้าน และด้วยความเป็นเด็กรุ่นใหม่ไฟแรงและกล้าปฏิเสธในสิ่งที่ยังไม่ใช่อาชีพในฝัน เธอจึงเลือกสมัครงานแห่งใหม่กับบริษัทด้านโทรคมนาคม สถานที่แห่งนั้นทำให้เธอค้นพบว่า การเป็นเจ้านายตัวเอง คือความฝันที่แท้จริงของเธอ อีฟจึงตัดสินใจเป็นแฟรนไชส์ซีลูกชิ้นปลาทอด
“อีฟ คิดเสมอว่างานที่สุจริต ทำแล้วได้เงินมาจุนเจือครอบครัวได้ เราทำทั้งนั้น ตอนที่ขายลูกชิ้น ลูกค้าให้การตอบรับดีมาก อาจเพราะเราเป็นเด็กที่ขยันขันแข็ง ไม่เกี่ยงว่าน้ำมันจะเลอะ หน้าจะมัน เรามีความสุขที่ได้นับธนบัตรใบละ 20 บาท ประกอบกับตอนนั้นเริ่มเข้าสู่วงการพริตตี้แล้ว บางครั้งหลังจากรับงานพริตตี้ ก็รีบมาขายลูกชิ้น ลูกค้าอาจจะรู้สึกแปลกใจที่แม่ค้าแต่งหน้าจัดเต็มมาเลย เราทำงานสองอย่างมาเรื่อยๆ สนุกกับทุกงาน แต่ก็คิดว่าความยั่งยืนในการทำธุรกิจอยู่ตรงไหน ร้านขายเสื้อผ้าน่าจะเหมาะกับเรามากกว่า จึงตัดสินใจเช่าหน้าร้าน ขายได้สักพัก ไม่มีลูกค้าเลย ขณะที่ร้านอื่นๆ ขายได้ หลายคนทักว่าทำเลร้านไม่ดี เราก็ต้องหาทางออกให้ได้ด้วยการนำเสื้อผ้าไปขายตามตลาดนัดต่างๆ เพื่อให้ได้เงินมาหมุนเวียน แต่จะทิ้งให้ร้านร้างไปก็ไม่ได้ เลยหาสินค้ามาเพิ่มเติม ซึ่งตอนนั้นคุณแม่แนะนำให้ลองนำครีมไปวางขาย ผลปรากฏว่าลูกค้าเข้าร้าน เพราะสนใจครีมทาหน้ามากกว่าเสื้อผ้าแฟชั่น สิ่งนี้เองจุดประกายให้อีฟมุ่งหน้ามาที่ธุรกิจความงามและเริ่มต้นพัฒนาแบรนด์เอง”
อีฟ-วลัยพรรณ ยอมรับว่า การเป็นพริตตี้นั้น สามารถดึงดูดใจและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงามได้จริง เธอจึงมีลูกค้าประจำและออเดอร์อย่างต่อเนื่อง เมื่อสามารถทำยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้ เธอจึงมั่นใจว่าประตูสู่การเป็นผู้ประกอบการพร้อมอ้าแขนต้อนรับเธอเช่นกัน เธอจึงตัดสินใจสร้างแบรนด์สกินแคร์ด้วยตนเอง โดยเจรจากับโรงงานให้ผลิตสินค้า อย่าง ครีมบำรุงผิวหน้า มาส์กหน้า โลชั่นบำรุงผิวตามสูตรที่นิยมในท้องตลาด แม้จะเป็นแบรนด์แรกๆ ที่ใช้ช่องทางการขายผ่านโซเชียลมีเดีย และมีคำสั่งซื้อเข้ามามากจากกลยุทธ์ปากต่อปาก
จุดนี้เองที่ทำให้เธอต้องศึกษาหาความรู้อย่างจริงจัง จะต้องเป็นผู้รู้จริงและต้องไม่ปล่อยให้สินค้าของเธอมีสารปนเปื้อนหรือทำอันตรายต่อลูกค้าที่นับวันจะยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นรหัสความสำเร็จตัวที่สองจึงตามมา นั่นคือ การศึกษาหาความรู้ให้เป็นผู้รู้จริง
“หลังจากนั้นอีฟก็ติดใจที่จะหาความรู้เพิ่มเติมให้มากกว่านี้ เลยมาเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยรังสิต คณะการแพทย์แผนตะวันออก สาขาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งทำให้เรารู้รายละเอียดในสิ่งต่างๆ เพิ่มมากขึ้น จนรู้ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลต่อการพัฒนาสินค้า ซึ่งสิ่งสำคัญที่อีฟยึดถือมาตลอดคือ ความปลอดภัยและสรรพคุณที่แท้จริง ไม่มีสารอันตรายอย่างเด็ดขาด”
ตั้งแต่ปีพ.ศ.2557 อีฟ-วลัยพรรณ ตัดสินใจรีแบรนด์สินค้าทั้งหมดในกลุ่มสกินแคร์ อย่าง เซรั่มรกม้า ครีมกันแดด ครีมทาผิวกาย และเพิ่มเติมทรีตเม้นต์โปรดักส์เข้ามา อาทิ ครีมแต้มสิว ครีมรักษาผิวจากสเตียรอยด์ สบู่ก้อน ให้เป็นแบรนด์ EVE’S พร้อมเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ในกลุ่มอาหารเสริมเพื่อผิวดูขาวกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ อย่าง GLUTA EVE’S มีจุดเด่นที่ความน่าเชื่อถือของเจ้าของแบรนด์ โดยสามารถตอบคำถามและให้คำอธิบายกับลูกค้าได้ทุกเรื่อง
ดังนั้น รหัสความสำเร็จตัวที่สามของเธอ ก็คือการตั้งเข็มทิศให้ตรงและพุ่งทะยานไปโดยไม่ประมาท อีฟ-วลัยพรรณ เล่าต่อว่า เมื่อเธอมีความรู้และประสบการณ์ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติทางด้านผลิตภัณฑ์ความงามมากขึ้น บวกกับการจับสังเกตพฤติกรรมลูกค้า ส่งผลให้เธอสามารถเลือกโรงงานผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานและมีความมั่นใจในการขยายกำลังการผลิตด้วยการเป็นโรงงานที่สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดี ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริง
“เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่เราสร้างแบรนด์ EVE’S ขึ้นมา และล่าสุดกับการปรับแพ็กเกจจิ้ง GLUTA EVE’S ใหม่เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยยังคงมาตรฐานและความปลอดภัยของสินค้าไว้อย่างครบถ้วน บวกกับการใช้ความรู้ที่เราร่ำเรียนมาให้เป็นประโยชน์สูงสุด บอกต่อผลวิจัยที่มีประโยชน์กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ แสดงความจริงใจก็ส่งผลให้ลูกค้าเก่าก็ยังเชื่อมั่นในแบรนด์เรา และยังแนะนำลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบันกลุ่มสินค้าอาหารเสริมมีสัดส่วนการผลิตและการขายอยู่ที่ 80% ส่วนสกินแคร์และทรีตเม้นต์โปรดักส์อยู่ที่ 20% ซึ่งในอนาคตอันใกล้มีแผนจะส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะสร้างความฮือฮาให้กับตลาดสุขภาพอย่างแน่นอนขณะเดียวกันก็จะมุ่งสร้างตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสู่หน้าร้านโมเดิร์นเทรด และมุ่งสู่การสร้างโรงงานผลิตที่มีมาตรฐานสูง ตลอดจนห้องแล็บปฏิบัติการ ที่สามารถตอบสนองความต้องการและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงามอย่างแท้จริง
ความน่าเชื่อถือ ความซื่อสัตย์ จริงใจ และไม่เอาเปรียบผู้บริโภค คือสิ่งที่ยึดถือมาตลอด ทุกวันนี้จึงต้องแข่งกับตัวเองตลอดเวลา เพื่อพัฒนาไปให้ไกลยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด นอกจาก EVE’S จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ทุกคนยอมรับ เหนืออื่นใดที่เราอยากให้สังคมคือการมอบความรู้ที่ถูกต้องอย่างไม่ปิดบัง ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นลูกค้าประจำหรือต้องใช้สินค้าของเรา เพราะเราเชื่อว่าความรู้ที่ถูกต้อง คือความจริงใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะสะท้อนกลับไปยังความน่าเชื่อถือของEVE’S สำหรับใครสนใจผลิตภัณฑ์ของเราสามารถสอบถามและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Facebook : EVE’S GROUP และ Line : @evethailand
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี