วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
คมศานต์ จิวากานนท์  พลิกชีวิตด้านมืด...สู่เจ้าของธุรกิจหมอนร้อยล้าน

คมศานต์ จิวากานนท์ พลิกชีวิตด้านมืด...สู่เจ้าของธุรกิจหมอนร้อยล้าน

วันเสาร์ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag : คมศานต์ จิวากานนท์ เจ้าของธุรกิจหมอนร้อยล้าน พลิกชีวิตด้านมืด
  •  

คมศานต์ จิวากานนท์ เด็กชายที่เกิดมามีเพียงแต่แม่และยาย ใช้ชีวิตในบ้านที่เรียกได้ว่าเป็นชุมชนแออัด แม้ไม่ปากกัดตีนถีบ แต่ก็ไม่เคยรู้จักคำว่าสบาย เรียนจบปริญญาตรีมาแบบกระท่อนกระแท่น ทำงานเป็นพนักงานรับ-ส่งเอกสาร พนักงานขายสินเชื่อทางโทรศัพท์ ตัวแทนประกัน หัวหน้าดูแลยอดขายประจำห้างสรรพสินค้า พนักงานขายเครื่องนอนแบรนด์ไฮเอนด์ชื่อดังของเมืองไทย แต่ปัจจุบันเขาคือ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีลักษ์ โฮเทล ซัพพลาย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายหมอนสำหรับโรงแรม 6 ดาว แบรนด์ “LUXURY” (ลักซ์ชัวร์รี่) มูลค่าหลายร้อยล้านบาท แต่ก่อนจะชื่นชมความสำเร็จในวันนี้ แน่นอนว่าชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเขาเคยใช้ชีวิตเป็นผู้ชาย “สายดาร์ก” จนทำให้ชีวิตดิ่งลงเหวถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย

“ความยากจน ความลำบากในชีวิตไม่ได้เป็นแรงขับให้ผมอยากจะหลุดพ้นไปจากตรงนั้นเลย ผมทำงานหนักก็จริง แต่รู้สึกว่าเงินมันหาง่าย ตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ผมไม่ได้ขอเงินแม่ เงินที่หามาได้ส่งตัวเองเรียนส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็ดื่มเหล้า เมายา และการพนัน สุดท้ายเรียนไม่จบ ต้องย้ายที่เรียน ก็ยังไม่ตั้งใจเรียน เอาแค่ให้จบ พอทำงานก็เลือกงานที่ใบปริญญาไม่จำเป็นต้องใช้ จากพนักงานรับ+ส่งเอกสาร ก็ยึดอาชีพเซลล์มาตลอด แต่ผมโชคดีว่าขายเก่งเงินเดือนเซลล์มันน้อยก็จริง แต่ค่าคอมมิชชั่นที่ได้ในยุคเฟื่องฟูเศรษฐกิจดีๆ นี่แบบเงินเก่าใช้ยังไม่หมด เงินใหม่ออกแล้ว แต่อย่าคิดว่าผมมีเงินเป็นแสนๆ นะ ยิ่งหาเงินได้มาก เหล้ายาปลาปิ้ง ผู้หญิง การพนัน ไม่ต้องพูดถึง ความหรูหราฟุ้งเฟ้อมากขึ้นตามความสามารถในการหาเงิน ถึงแม้จะมีแฟน ซื้อบ้าน ซื้อรถ ผมก็ยังใช้ชีวิตแบบนั้น เรียกว่าใช้ชีวิตแบบไม่คิดถึงอนาคต เพราะคิดแต่ว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หาเงินได้


แต่ในช่วงที่เศรษฐกิจแย่ ตอนนั้นเป็นเซลล์อยู่บริษัทผลิตเครื่องนอนแบรนด์ดัง ถ้าเอ่ยชื่อทุกคนรู้จัก รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง เงินเก็บก็ไม่มี แถมยังต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ บัตรเครดิต หนี้สินรุงรัง จนกระทั่งวันหนึ่งไปเก็บเช็คลูกค้า แต่เขาจ่ายมาเป็นเงินสด ผมเอาเงินนั้นไปหมุน เพราะคิดว่าหาเงินมาคืนบริษัททัน แต่ก็ถูกจับได้ก่อน พอหาเงินมาคืนบริษัทได้ครบ ผมถูกไล่ออก อันนี้ผมยอมรับว่าผมผิดจริงๆ วันนั้นมันเหมือนหมาจนตรอก แต่ผมไม่โทษใคร เพราะมันเป็นผลจากการกระทำของตัวเอง”

เมื่อถูกไล่ออกจากงาน โดยที่ครอบครัวไม่รู้ ภาระหนี้สินที่รออยู่ เงินไม่มีติดตัว บ้านและรถจะถูกยึดในอีกไม่ช้า แม้จะยอมรับในผลของการกระทำของตัวเอง แต่ชั่ววูบความรู้สึกที่เหมือนสูญสิ้นทุกสิ่ง เขาตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย ด้วยการปิดตาขับรถด้วยความเร็วลงจากสะพานสาทร หวังว่าอุบัติเหตุจะทำให้เขาหนีปัญหาครั้งนี้ได้

“ผมไม่ตายด้วยอุบัติเหตุอย่างที่หวัง พอรถหยุดแว่บหนึ่งที่เข้ามาในสมองคือ เขาคงไม่อยากให้เราตาย แต่คงอยากให้เรามาแก้ไขในความผิดพลาดของตัวเอง ก็กลับบ้านไปโดยไม่บอกแฟนด้วยว่าเราไปทำอะไรมาก็มาตั้งสติใหม่ว่าเราจะทำอะไรหลังจากนี้ จะไปเป็นลูกจ้างเขา ก็ต้องรอรับเงินเดือน แต่ตอนนั้นเราต้องการเงินมาใช้จ่ายเร็วที่สุด ก็คิดว่าค้าขายนี่แหละคงเหมาะกับเราที่สุด บังเอิญรุ่นพี่ชวนไปรับเครื่องนอนมาขายอีกก็ไปทำกับเขา ก็พอมีเงินมาใช้จ่าย”

ดูเหมือนว่า คมศานต์ จะถูกโฉลกกับการเป็นค้าขาย ด้วยความเป็นคนช่างพูด ช่างเจรจา ช่างสังเกต และมีวิธีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เหมือนใคร และเห็นถึงความต้องการของผู้บริโภค เขามองว่าถ้ารับสินค้ามาขายก็ได้แค่ค่าคอมมิชชั่น แต่ถ้าทำขายเองก็ไม่ต้องแบ่งผลกำไรกับใคร

“แค่สองเดือน ผมก็เลิกรับชุดเครื่องนอนมาขาย ตอนขายนี่ผมพูดคุยกับลูกค้าตลอด เลยรู้ปัญหาว่าคนส่วนใหญ่หาหมอนที่ถูกใจยาก และชอบหมอนแบบที่ใช้ในโรงแรม ผมตัดสินใจเอารถที่ติดไฟแนนซ์ไปจำนำกับเพื่อนได้เงินมาแปดหมื่นบาท ไปจ้างโรงงานผลิตหมอน ขายเอง ขายดีมาก ทำได้หนึ่งปีเต็มๆ พอมีเงินทุนนิดหน่อย ก็ตัดสินใจทำโรงงานขนาดเล็กเพื่อผลิตหมอนด้วยประสบการณ์ที่เราเคยเป็นเซลล์แบรนด์ดังมาก่อนเรารู้ว่าถ้าเราทำสินค้าคุณภาพ ราคาจะไม่ใช่อุปสรรคต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค และเราอยู่วงการนี้มานานรู้หมดว่าจะหาวัตถุดิบเครื่องจักรได้จากที่ไหน โรงงานผลิตหมอนสำหรับโรงแรม 6 ดาว แบรนด์ LUXULY จึงเกิดขึ้นในปีพ.ศ.2557 บนเนื้อที่ 60 ตร.ว. ที่เป็นทั้งบ้านเป็นทั้งโรงงาน”

ในช่วงแรกของการทำแบรนด์ เขาไม่ได้เน้นเรื่องยอดขายมากนัก แต่ต้องการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและจดจำ เขาจึงเลือกเช่าพื้นที่ตามศูนย์การค้าและช็อปปิ้งมอลล์ในย่านที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ให้ลูกค้าได้เข้ามาสัมผัสกับสินค้า ได้ทดลองหนุนนอน และรับประกันความพึงพอใจด้วยบริการหลังการขายที่ไม่เหมือนใคร

“ผมกับแฟนช่วยกันสองคน ไปออกบูธตามห้าง อาคารสำนักงาน พอคนเห็นบ่อยๆ เขาก็พอจำได้ก็เข้ามาลองหนุน ลูกค้าถามว่าหมอนอะไร ทำไมแพงจังใบละเป็นพันบาท ผมก็ซื้อใจลูกค้าด้วยการรับประกันความพึงพอใจ เพราะหมอนของผมใช้เส้นใยที่ไม่เหมือนแบรนด์อื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด เรียกว่าเส้นใย Micro Crimp เป็นเส้นใยที่มีความละเอียดมาก เวลาที่ยัดหมอนนี่จำนวนและน้ำหนักจึงใช้มากกว่า ทำให้หมอน LUXURY มีความนุ่ม ฟู เวลาที่ลูกค้าทดลองหมอนทุกคนจะบอกเหมือนกันว่าเหมือนกับหมอนที่ใช้ในโรงแรมหรูๆ ถ้าลูกค้าซื้อไปแล้วไม่ชอบความหนาก็มาเปลี่ยนได้ แต่ถ้ายังไม่ชอบอีกก็มาเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างปลอกหมอน ก็ได้ เพราะผมคิดว่าเราต้องให้ใจลูกค้าก่อน ไม่ใช่ว่าเขาไม่พอใจ เราก็ไม่สนใจเขาแบบนั้น เราจะขายของได้ครั้งเดียว แล้วผมเชื่อว่าเรื่องดีหรือไม่ดี ปากต่อปาก จะไวมาก ต่อให้เขาไม่พอใจสินค้าของเรา แต่ถ้าเรามีทางเลือกอื่นๆ ให้ในที่สุดเขาก็จะเป็นลูกค้าของเรา”

วันนี้เป็นระยะเวลา 3 ปี ที่แบรนด์ LUXURY ออกสู่ตลาด แม้จะไม่ทำโฆษณา แต่วันนี้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดกลายเป็นแบรนด์ที่สามารถยึดส่วนแบ่งทางการตลาด จนแบรนด์เครื่องนอนมีชื่อในตลาดยังต้องจับตามอง เมื่อถามว่าเคยคิดเสียดายเวลาที่ผ่านมาบ้างหรือไม่ ถ้าย้อนกลับไปเขาอยากจะแก้ไขอะไร...

“ผมไม่คิดเสียดายเวลาที่ผ่านมา เพราะถ้าผมใช้ชีวิตดีๆ มันอาจทำให้ผมไม่มีแรงขับตัวเองที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่เสียดายอย่างเดียวว่าทำไมตอนเรียนหนังสือ ผมไม่ตั้งใจเรียน ทุกวันนี้ผมไม่เก่งเรื่องไอที ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ เพราะมันจำเป็นต่อการทำธุรกิจมาก แต่ผมก็อุดรูรั่วของตัวเองได้ด้วยการให้คนเก่งๆ มาช่วย ดังนั้นผมอยากบอกน้องๆ ที่อยู่ในวัยเรียนว่าวันนี้คุณมีโอกาสเรียนขอให้ตั้งใจเรียน เก็บเกี่ยวความรู้ให้มากที่สุด ถ้าย้อนกลับไปแก้ไขได้ก็คงอยากกลับไปตั้งใจเรียนหนังสือให้มากกว่านี้ครับ”

สุดท้าย คมศานต์บอกว่า วันนี้เขาได้รับโอกาสให้เริ่มชีวิตใหม่ ไม่ใช่ผู้ชายสายดาร์กอีกต่อไป นอกจากการทำแบรนด์ LUXURY ให้ประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศแล้ว อีกสิ่งหนึ่งคือ การดูแลครอบครัวให้มีความสุขสบายที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อตอบแทนความรักและกำลังใจของคนในครอบครัวที่ทำให้เขาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง

...ผมไม่คิดเสียดายเวลาที่ผ่านมา เพราะถ้าผมใช้ชีวิตดีๆ มันอาจทำให้ผมไม่มีแรงขับตัวเองที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่เสียดายอย่างเดียวว่าทำไมตอนเรียนหนังสือ ผมไม่ตั้งใจเรียน ทุกวันนี้ผมไม่เก่งเรื่องไอที ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ เพราะมันจำเป็นต่อการทำธุรกิจมาก แต่ผมก็อุดรูรั่วของตัวเองได้ด้วยการให้คนเก่งๆ มาช่วย...

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

(คลิป) 'อิ๊งค์'น้อมรับคำสั่งศาล พร้อมพิสูจน์ปมคลิปเสียง ยันทำเพื่อรักษาอธิปไตย

‘รอง ผบช.ภ.1’เช็คความคืบหน้าโครงการ‘ตำบลยั่งยืน’สภ.บางแม่นาง

อาลัย! 'เจ้าจิราพันธุ์ ณ เชียงใหม่' ถึงแก่กรรมอย่างสงบ สิริรวมอายุ 100 ปี

‘ศาลรัฐธรรมนูญ’ตีกลับ‘ประธานสภา’ตรวจสอบลายมือชื่อก๊วนสส.ร้องสอบ‘พิเชษฐ์’ฝ่าฝืนรธน.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved