น่าจับตามองอย่างมากสำหรับวง Defying the Decay ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกในวง เจ-ภูมิ เอื้อชูเกียรติ (นักร้อง/กีตาร์) จั๊มพ์-ก้องภพ ทองรัตน์ (กีตาร์/เปียโน) Howard โฮเวิดร์-Hao-yu-Fang (กีตาร์) Theon ทีออน - Theon Adam Nazeer (มือซิน) เพราะนอกจากจะมีจุดเด่นในเรื่องของเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ว่ากันว่าฝีมือสมาชิกในวงแต่ละคนนั้นเรียกได้ว่าขั้นเทพกับแนวดนตรี Rock Metal ที่ไม่ขึ้นตรงกับค่ายไหน ยังไม่หมดเพียงแค่นั้นเพราะ Defying the Decay ยังเคยทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยนักร้องนำอย่าง “เจ-ภูมิ” ลูกชายคนโตของ “ดร.นฎาประไพ กับ ยศ เอื้อชูเกียรติ” พูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่า “พวกเรามีแนวทางเป็นของตัวเองอย่างชัดเจน” ล่าสุดรายการ “แนวหน้าวาไรตี้” ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 ดำเนินรายการโดย “ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย” พาไปบุกห้องซ้อมดนตรีที่บอกได้เลยว่าส่วนตัวสุดๆ พร้อมโชว์กีตาร์ตัวโปรด ที่บอกได้เลยว่างานมีอึ้ง

เจ-ภูมิ เอื้อชูเกียรติ เล่าว่า ต้องบอกว่ากีตาร์ที่โชว์เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะครับ ก็น่าจะประมาณ 40 กว่าตัวได้ถ้ารวมเบสด้วย ซึ่งผมก็เล่นทุกตัวที่เอามาโชว์ให้ดู ผมเป็นคนที่ชอบเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็กแล้ว อย่างตอนเด็กก็เคยเล่นระนาด เคยเล่นเพลงโหมโรง ตอนนั้นคุณพ่อพาไปดูหนังเรื่องโหมโรงแล้วผมก็อยากเล่นระนาด ช่วงนั้นจำได้ว่าอายุประมาณ 4-5 ขวบครับ แต่ก็เล่นได้ไม่นานหลังจากนั้นก็ไม่ได้เล่นอีก ส่วนเรื่องโขนคุณแม่เคยพาไปดูโขนผมก็ชอบก็อยากจะเล่นแต่ก็เล่นได้ไม่นานก็เลิกไป

ถ้าถามว่าเริ่มเล่นกีตาร์ตอนไหน ผมจำได้ว่าเริ่มเล่นตอนอายุประมาณ 10 ขวบ จนเล่นมาถึงทุกวันนี้ ตอนนี้ก็มีวงเป็นของตัวเองชื่อวง Defying The Decayแนวเพลง Rock Metal พวกเราเคยปล่อยอัลบั้มเพลงออกมาให้ได้ฟังกันเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วเสียงตอบรับก็ดีครับ ก็พักมาทำอัลบั้มใหม่ ตอนนี้อัลบั้มใหม่ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้ปล่อย เราจะปล่อยให้ฟังกันกลางปีนี้ครับ แต่ก่อนที่จะปล่อยอัลบั้มเต็มก็จะปล่อยซิงเกิ้ลเพลงออกมาให้ได้กันฟังก่อน

นอกจากนั้น วง Defying the Decay ยังได้ร่วมงานกับ วง ซิมโฟนี ซึ่งก็ได้ทำอัลบั้มร่วมกัน และหนุ่มเจ ยังเล่าว่า “ตอนนี้ก็มีวางแผนว่างานเปิดตัวอัลบั้มใหม่จะต้องมีวงออเคสตร้าเต็มวงมาเล่นด้วย เรายังมีเพลงที่ทำด้วยกันแต่ยังไม่เคยได้แสดงด้วยกันจริงๆ สักที”

จากผลงานในอัลบั้มที่แล้วทำให้วงเราได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศด้วย เช่น ไปทัวร์ที่ไต้หวันเป็นงานดนตรีที่ใหญ่ที่สุดของที่นั้นครับ และได้ไปทัวร์12 เมืองที่ประเทศจีน ได้ไปทัวร์ที่สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, มาเลเซียส่วนแถบยุโรปในปีนี้ก็จะมีไปทัวร์ด้วยครับ และ 15-16 กุมภาพันธ์นี้ วงเราจะได้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ Moscow และSt.Petersburg ประเทศรัสเซีย ถามว่าฝันอยากไปเล่นงานไหนที่สุด ผมฝันอยากไปเล่นเทศกาลดนตรี Download Festival มาก เป็นเทศกาลดนตรีที่อังกฤษที่ดังมากๆ เพราะผมดูมาตั้งแต่เด็กๆ และใน 1 ปี ฝันอยากทัวร์คอนเสิร์ตสัก 300 วัน

วงเรามีสมาชิกทั้งหมด 4 คน แบ๊กอัพ อีก 2 คน มี เจ-ภูมิ เอื้อชูเกียรติ (นักร้อง/ กีตาร์) จั๊มพ์-ก้องภพ ทองรัตน์ (กีตาร์/ เปียโน) Howard โฮเวิร์ด - Hao-yu-Fang (กีตาร์) Theon ทีออน - Theon Adam Nazeer (มือซิน) คนไทย 2 คน อีก 2 คนเป็นต่างชาติ อย่าง โฮเวิร์ด เป็นคนไต้หวัน ทีออน เป็นคน สิงคโปร์ ผมรู้จัก โฮเวิร์ด ตั้งแต่เด็กๆ เขาเป็นคนไต้หวันก็จริง แต่พ่อ-แม่ทำงานอยู่ที่ไทย ส่วนมือซินไปเจอเขาครั้งแรกที่สิงคโปร์ เหมือนตอนนั้นเขาเป็นแฟนคลับของวงด้วย และผมก็กำลังหามือซินคนใหม่ ตอนนั้นคนที่ทำซาวนด์เอ็นจิเนียให้ผมอยู่ เขาก็รู้จัก ทีออน เพราะเรียนมาด้วยกัน ก็แนะนำมาก็เลยได้ร่วมงานกันครับ

นอกจากนี้ หนุ่มเจ ยังพูดเกี่ยวกับตลาดเพลงไทยและระดับโลกไว้ว่า “เอาจริงๆ แล้ว วงการเพลงในบ้านเราจะมีความแคบอยู่ เพราะจะฟังแค่หลักๆ เช่น อกหัก ความรัก เสียใจ อะไรทำนองนี้มากกว่า เราจะไม่สามารถเล่าถึงเรื่องอื่นๆ ที่นอกเหนือจากสิ่งที่กล่าวมาได้ เช่น การเมือง หรือบริบทในสังคมบ้านเรา อย่างที่บอกการทำเพลง ก็ต้องขึ้นอยู่กับคนที่ฟังด้วย ไม่ใช่ว่าคนทำเพลงไม่อยากฉีกแนวนะครับ เพราะบางคนคิดว่าทำมาแล้วมันขายไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบ้านเราก็จะมีกลุ่มที่ฟังดนตรีแบบเฉพาะอยู่ แต่จะเป็นแค่กลุ่มเล็กๆ เท่านั้น โอกาสที่นักร้องบ้านเราจะก้าวไปถึงระดับโลกได้นั้นผมมองว่ายังค่อนข้างยาก เพราะติดอยู่ที่ภาษา แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นวงจากญี่ปุ่นเขาก็ดังได้นะ แต่ของเรามันค่อนข้างจะเป็นลิมิเต็ดและไม่มีคอนเทนท์ใหม่ๆ ขึ้นมา เรียกว่าภาษาที่พูดมันค่อนข้างที่จะเปลี่ยนได้ยาก พอจะทำแล้วก็มองเห็นข้อจำกัดอยู่ในนั้น

สำหรับระดับโลกธุรกิจเพลงเป็นที่น่าสนใจมากเลยนะครับ หลายๆ วงที่ทำเพลงก็มีชื่อเสียงและมีรายได้มาก แต่เมื่อมองมาที่วงการเพลงบ้านเราอย่างที่บอกเนื้อหามันยังเป็นลิมิเต็ดอยู่ จะฉีกจะดัดค่อนข้างยากและอีกอย่างเพลงบ้านเรามันก็จะดังเฉพาะแค่บ้านเรา มันไม่ได้ดังทั่วโลก มันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรมากสุดท้ายนี้ผมก็อยากจะขอฝากเกี่ยวกับดนตรีพร้อมกับการเรียนไว้ว่า จริงๆ แล้ววิชาเรียนที่เราไม่ได้ชอบ ก็เรียนไปก่อน เพราะก็ไม่ได้ลำบากอะไร เรียนเพื่อให้รู้ อย่างผมก็ตกหลายวิชาเหมือนกัน แต่ก็ยังเดินทางมาถึงวันนี้ เรียนไปด้วยเล่นดนตรีไปด้วย พอถึงอีกช่วงเวลาหนึ่ง เราก็จะแยกได้ว่าเราชอบอะไรควรทำอะไร แรงหนุนจากคุณพ่อคุณแม่นี้สำคัญมากๆ นะครับ ในเรื่องของดนตรีผมอยากให้ผู้ใหญ่สนับสนุนนะครับ อย่างผมเริ่มเล่นดนตรีแรกๆ ก็เก็บเงินซื้อเอง ปัญหาอย่างทุกวันนี้คนที่ถอดใจเลิกเล่นดนตรีอีกเหตุผลหนึ่งคือ เรื่องของราคาเครื่องดนตรีมีราคาแพง ยังไงก็อยากสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่มุ่งมั่นและกล้าที่ก้าวออกจากกรอบแล้วเราจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ เปิดมุมมองใหม่และได้ประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างแน่นอนครับ

พบเรื่องราวดีๆ ที่ครบครันแบบนี้ได้ในรายการ “แนวหน้าวาไรตี้” ออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 16.00-16.25 น. ทางTNN2 (และช่อง 784 ทางดิจิทัลทีวี) หรือTrue Visions 8 ชมรายการย้อนหลังได้ที่ youtube ผู้หญิงแนวหน้า by คุณแหน