บริษัท เอออน และ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ฯ ประกาศเปิดความร่วมมือของโครงการสำรวจนายจ้างที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ซึ่งครอบคลุมการสำรวจทั่วภูมิภาคเอเชีย และตะวันออกกลาง หรือโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2561 เป็นครั้งที่ 10 โดย บริษัท เอออน เป็นผู้นำธุรกิจระดับโลกด้านให้คำปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล การเกษียณ และสวัสดิการด้านสุขภาพ และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจเป็นสถาบันการศึกษาระดับสากลในประเทศไทยที่เชี่ยวชาญในสาขาบริหารธุรกิจ และบริหารทรัพยากรบุคคลภายในงานเปิดตัวโครงการ ได้รับเกียรติจากผู้ชนะโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2560 Liher Urbizu Sierra กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสเอพี (ประเทศไทย) จำกัด และ Alexander Krasavinพาร์ทเนอร์แรดฟอร์ดประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา มาพูดคุยให้ความรู้และแลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกันในหัวข้อ “The Future World of Work - Digital Transformation” ซึ่งเนื้อหาหลักพูดถึงการแทรกแซงของเทคโนโลยีดิจิตอลในแต่ละช่วงเวลาจากอดีตไปสู่อนาคตอันใกล้
รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข รักษาการรองผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ฯ ได้ฝากข้อคิดแก่องค์กรนายจ้างและนักบริหารบุคคลยุคเศรษฐกิจพลิกผันอย่างรวดเร็วว่า ต้องมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งเรื่องไลฟ์สไตล์ ค่านิยมและความคาดหวังของพนักงานรุ่นใหม่ที่มีความแตกต่างจากคนรุ่นก่อน ต้องรู้จักใช้เทคโนโลยียุคดิจิตอลมาพัฒนางานบริหารบุคคล ได้แก่ การสร้างแบรนด์นายจ้าง การสรรหา พัฒนาและรักษาพนักงานต่างวัย ต้องสามารถตอบคำถามและแก้ปัญหาเรื่องบุคลากรให้แก่ธุรกิจโดยการประมวลวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบอย่างรวดเร็วแม่นยำ เช่น สามารถแสดงตัวเลขความเสี่ยงด้านกำลังคนขององค์กรในแง่ปริมาณและคุณภาพ เป็นต้น และที่สำคัญมากที่สุดคือมีความยืดหยุ่นว่องไวในการปรับแผนกลยุทธ์และการปฏิบัติให้ทันกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
ดร.อดิศักดิ์ จันทรประภาเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอออน (ประเทศไทย) ร่วมเสวนาผลสำรวจจากโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นในปี 2560 และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตในการจัดการทรัพยากรบุคคลได้ว่า ผู้ที่เป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่น มักมี 4 ด้านที่มีความโดดเด่นมากกว่าองค์กรทั่วไป ได้แก่ ความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร ภาพลักษณ์องค์กร บทบาทผู้นำ และวัฒนธรรมองค์กร อีกทั้งในยุคที่เทคโนโลยีได้เข้ามาส่งผลกระทบต่อโลกการทำงาน การสำรวจความผูกพันของพนักงานเพียงครั้งเดียว ไม่อาจเพียงพอในทุกวันนี้ แต่ควรใช้กลยุทธ์การฟังเสียงพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างและสนับสนุนให้พนักงานผูกพันกับองค์กร ยิ่งไปกว่านั้นโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นในปีที่ผ่านมา พบว่าองค์กรที่ได้เป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่น มีผลการดำเนินงานสูงกว่าตลาดทั่วไปร้อยละ 15 ซึ่งมาจากยอดขายและ/หรือบริการที่โตกว่าร้อยละ 10 อัตรากำไรสุทธิ สูงขึ้นร้อยละ 26 และอัตราการลาออกต่ำกว่าตลาดทั่วไปถึงร้อยละ 23 ในขณะเดียวกัน องค์กรที่เป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่นได้สร้างประสบการณ์การบริหารทรัพยากรบุคคลที่เด่นกว่าองค์กรทั่วไปในทุกๆ ด้านไม่ว่าเป็น ระบบการจัดการ ผลการปฏิบัติงาน โอกาสความก้าวหน้าทางอาชีพ การเรียนรู้และพัฒนาบุคคลแม้กระทั่งงานที่ได้รับมอบหมาย
นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้ปี 2568 กลุ่มคน Millennials จะเข้าสู่สังคมทำงานนับเป็นจำนวนร้อยละ 75 ของแรงงานทั้งหมด เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทโดยมนุษย์จะมีการทำงานผ่านการเชื่อมต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่มากกว่า 6-7 ครั้งต่อคน ซึ่งเป็นอัตราที่มากกว่าถึง 4 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน ดังนั้นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล (HR technology platform) จะช่วยทวีความสำคัญยิ่งขึ้นในการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจตลอดการทำงานของพนักงาน
แพรวพัชร เปรมศิรินิรันดร์ ผู้จัดการโครงการค้นหาสุดยอดนายจ้างดีเด่น ประจำปี 2561 ได้อธิบายถึงรายละเอียดโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นซึ่งเป็นแบบสำรวจมาตรฐาน ถูกนำไปใช้ทุกบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ ทั่วทุกภูมิภาค โดยโครงการเน้นย้ำ 3 ด้าน ของบริษัทได้แก่ แบบสำรวจความคิดเห็นของพนักงาน ระบบการจัดการภายในองค์กร และมุมมองของผู้บริหารสูงสุดในการบริหารองค์กร สำหรับการสมัครเข้าโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2561 ปัจจุบันอยู่ในช่วงเปิดรับสมัครองค์กรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ และปิดรับสมัครในวันสุดท้ายของเดือนเมษายนปี 2561 และการจัดเก็บข้อมูลดำเนินการจนถึงวันสุดท้ายของเดือนพฤษภาคม ปี 2561 นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี