พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานคณะกรรมการจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” (พระพุทธเจ้าพระองค์แรกในพุทธันดร) เป็นประธานในพิธีหล่อองค์พระสมเด็จองค์ปฐม ด้วยนิลรัตนะ เป็นปฐมฤกษ์ ร่วมกับพระอาจารย์ ธาตุ อธิปัญโญ เจ้าอาวาส โดยมี ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รองประธานจัดสร้างพระฯร่วมพิธีด้วย พร้อมกับสาธุชนจากทั่วสารทิศจำนวนมาก ณ อาคารฐานพระ ชั้น 3 วัดเทพประทาน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี

พระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา”มีขนาดใหญ่มาก คือมีหน้าตักกว้าง 29 เมตรสูง 45 เมตร (เท่ากับตึก15 ชั้น) ทำด้วยนิลรัตนะทั้งองค์ การหล่อองค์พระและตกแต่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563

การจัดสร้างองค์พระก้าวหน้าเป็นลำดับ เมื่อเดือนมีนาคม ปีที่แล้ว ได้เริ่มหล่อฐานองค์พระซึ่งมีความสูง 12.40 เมตร จะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤษภาคม นี้และใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 1 ปี ซึ่งมากกว่าที่กำหนดไว้ถึง 8 เดือน เนื่องจากการก่อสร้างยากกว่าอาคารปกติ เนื่องจากมีโค้งเว้า ฐานพระนี้จะมีประตูเข้าองค์พระจากด้านหลัง โดยใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงและกลมกลืนกับฐานพระ และมีบันไดขึ้นระหว่างชั้น จุดประสงค์เพื่อใช้สำหรับเก็บวัตถุมงคล

ในวันนี้สามารถหล่อองค์พระ เป็นปฐมฤกษ์ได้เพราะสามารถหล่อองค์พระไปพร้อมกับการหล่อฐานพระได้ เนื่องจากอยู่ที่ระดับความสูงเดียวกัน การหล่อองค์พระจะดำเนินการโดยอาศัยไฟล์สแกนที่สแกนจากองค์ต้นแบบเป็นหลัก และทำการปรับสเกลขนาดให้ตรงตามความต้องการ ซึ่งไฟล์ที่มีได้เส้นบังคับขนาดและความโค้งเว้าของพื้นผิวมา 3 ทิศทาง ดังนี้ คือ ไฟล์สแกนที่นำมาแยกเส้นรอบวงตามความสูง, ไฟล์สแกนที่นำมาแยกเส้นตามแนวตัดทางลึก และไฟล์สแกนที่นำมาแยกเส้นตัดตามขวาง โดยเส้นทุกเส้นที่มีจะมีระยะห่างกัน 44.3 เซนติเมตร ทั้ง 3 ทาง ในการทำแบบหล่อจะนำเส้นเหล่านี้มากำหนดความโค้งเว้าของตัวแบบหล่อ ในเบื้องต้นได้กำหนดความสูงของแบบหล่อไว้ตามความสูงเส้นรอบวงความสูง ทุกๆ 2 เส้น มีความสูงของแบบหล่อเป็น 88.6 เซนติเมตร การตั้งกระดูกแบบหล่อ และบังคับความถูกต้องของพื้นผิวแบบหล่อจะทำการกำหนดโดยใช้ตัวเลขในระบบพิกัดที่ได้มาจากโปรแกรมทางการเขียนแบบ และนำมาใช้ในการวางตำแหน่งจริงร่วมกับการใช้กล้องสำรวจ Total Station เป็นตัวกำหนดความถูกต้องของพิกัดตำแหน่ง และระดับ หลังจากทำการตั้งแบบหล่อผิวด้านนอกแล้ว จึงดำเนินการผูกเหล็กเสริมผิวผนังองค์พระ พร้อมกับทำการเข้าแบบผิวด้านในองค์พระ ทำการตรวจสอบความถูกต้องของตำแหน่งและระดับของแบบหล่อก่อนทำการเทคอนกรีตอีกครั้ง

ในการหล่อจะทำไปพร้อมๆ กับการหล่อเสา และคานด้านในองค์พระไปพร้อมๆ กัน ภายในองค์พระ จะมีพื้นและคานยึดผนังทุกๆ ความสูง 3.00 เมตร หรือตามที่วิศวกรโครงสร้างพิจารณาตามความเหมาะสม และเพิ่มความสูงไปเรื่อยๆ ตามความก้าวหน้าของเนื้องาน เมื่อความสูงเลื่อนไปจนถึงระดับที่สามารถทำงานตกแต่งผิวองค์พระได้ไปพร้อมๆ กันได้โดยงานไม่กีดขวางกันจะดำเนินการการตกแต่งผิวตามไปด้วย จนกว่างานจะแล้วเสร็จ

การจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบปี 2554 และเพื่อให้เป็นสมบัติของประเทศและชาวโลก

พระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” องค์นี้ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญ ตราสัญลักษณ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554ไปประดิษฐาน ณ ผ้าทิพย์บนฐานพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้เสด็จทรงวางศิลาฤกษ์อาคารฐาน พระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” เมื่อปี 2554

การจัดสร้างพระพุทธรูปด้วยนิลรัตนะนี้เชื่อกันว่าจักมีอานิสงส์สูงสุด คือ อสงไขยกัปป์ และการสร้างพระพุทธรูปด้วยวัตถุธาตุใดก็ตามจัดว่าได้สะสมมหากุศล มหาบารมีให้เกิดขึ้น อันจะเป็นอุปนิสัยปัจจัยแก่มนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ นิพพานสมบัติ และพุทธสมบัติในกาลต่อไปเบื้องหน้า

เนื่องจากยังขาดปัจจัยอีกจำนวนประมาณ 60 ล้านบาท คณะกรรมการปรารถนาจะจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐมฯ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ววันขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมถวายพระราชกุศลครั้งประวัติศาสตร์นี้ โดยบริจาคเงินได้ที่ประธานจัดสร้างพระฯ กระทรวงมหาดไทย จังหวัดต่างๆ หรือโอนเงินเข้าบัญชีวัดเทพประทาน หรือสถานทูตไทยในประเทศต่างๆ ทั่วโลก หรือร้าน 7-ELEVEN หรือ ไลน์ไอดี 085-114-8900 โทรศัพท์089-215-3455,081-683-3860 ใบอนุโมทนาเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ ผู้บริจาคเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ขึ้นไป คณะกรรมการจัดสร้างพระฯ จะจารึกนามของผู้บริจาคไว้ที่อาคารฐานพระฯสำหรับผู้บริจาคเงินจำนวนมากจะได้รับการจารึกนามในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด