แหวกฟ้าหาฝัน :  Lublin Castle

แหวกฟ้าหาฝัน : Lublin Castle

วันอาทิตย์ ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

Lublin Castle front

ไม่เพียงนักท่องเที่ยวที่มาเมือง Lublin จะสามารถเยี่ยมเยือน Open Air Museum แล้ว เมืองนี้ยังมี Castle หรือปราสาทให้เยี่ยมเยือนด้วย ประสาทของท่านดุ๊ก Casimir ที่สองนี้เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโปแลนด์ ปราสาทที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 12 บนเขานี้ ดั้งเดิมนั้นส่วนของปราสาทสร้างจากไม้ แต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 เจ้าของได้ปรับปรุงโดยใช้หินมาก่อสร้างโดยส่วนต่อเติมที่สร้างด้วยศิลปะแบบ Romanesque ที่สูงที่สุดซึ่งยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 14 Casimir the Great ได้สร้างอาคารและกำแพงหินล้อมรอบตัวตึก รวมทั้งได้เพิ่มส่วนของโบสถ์สไตล์โกธิคที่มี Chapel of the HolyTrinity ขึ้นด้วยเพื่อไว้สวดมนต์ การตกแต่งภายในหอสวดมนต์ด้วยภาพปูนเปียกโดยRuthenian Master Anderj ซึ่งมีเอกลักษณ์พิเศษที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างศิลปะตะวันตกและออกโธดอกซ์ที่ไม่เหมือนใครเกิดขึ้นในทศวรรษแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 15 โดยคำบัญชาของพระเจ้า Wladyslaw ที่สองภาพเขียนนี้ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบันเช่นกัน


ในช่วงราชวงศ์ Jagiellon ปราสาทแห่งนี้รุ่งเรืองมาก และเป็นที่พำนักสำคัญของราชวงศ์ตลอดมาจึงได้มีการต่อเติมขยายออกไปอีกโดยนำเข้าศิลปินจากเมือง Krakow มาปรับปรุง ยิ่งกว่านั้นที่นี่ยังเคยเป็นสถานที่เซ็นสัญญา Union of Lublin และสัญญาการก่อตั้งPolish-Lithuanian Commonwealth ด้วยหลังสงครามในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ส่วนของปราสาทได้ถูกทำลายลงคงเหลือแต่ส่วนที่เก่าแก่ที่สุดนั่นคือ หอสวดมนต์ที่รอดพ้นจากสงครามมาได้ หลังจาก Lublin ตกอยู่ในกำมือของรัสเซียและการแบ่งแยกดินแดนภายใต้เงื่อนไข Congress of Vienna ในปี 1815 รัฐบาลกลางโปแลนด์โดย Stanislaw Staszic จึงมีดำริให้ Stanislaw Stompfปรับปรุงปราสาทขึ้นใหม่ระหว่างปี 1826-28 โดยสถาปนิกได้เลือกแนวทางศิลปะแบบ EnglishNeogothic ซึ่งแตกต่างจากอาคารเดิมอย่างคนละขั้ว ทั้งนี้เพราะรัฐบาลต้องการให้ที่นี่ใช้เป็นคุกแทนที่จะเป็นปราสาทหรือที่ทำการรัฐ อย่างไรก็ดีรัฐบาลยังคงบัญชาให้สถาปนิกเก็บรักษาส่วนของหอสวดมนต์ไว้

นับจากการปรับปรุงครั้งนั้นปราสาทก็ใช้เป็นคุกอยู่นานถึง 128 ปี จวบจนกระทั่งปี 1954 โดยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองระหว่างปี 1939-44 นั้น ปราสาทคุมขังนักโทษชาวโปลและยิวมากถึง 8 หมื่นคน ก่อนสงครามโลกสิ้นสุดลง กองทัพนาซีก็จัดการสังหารหมู่ผู้ต่อต้านเยอรมันชาวโปลทั้งหมด รวมทั้งชาวยิวจนเหลือนักโทษเพียงแค่ 300 คนเท่านั้น หลังสงครามโลกสิ้นสุดลง รัสเซียซึ่งกำลังมีอิทธิพลต่อรัฐบาลและรัฐบาลโปลก็ยังคงใช้สถานที่แห่งนี้เป็นคุกต่อไปอีกนับสิบปีโดยคุมขังนักโทษที่ต่อต้านรัสเซียมากถึง 35,000 คนและในครั้งนั้นรัฐบาลได้สังหารผู้ต่อต้านหัวรุนแรงที่อยู่ในคุกนี้ไปถึง 333 คน หลังปี 1954รัฐบาลได้ยกเลิกการใช้ปราสาทแห่งนี้เป็นคุกและทำการปรับปรุงทัศนียภาพใหม่ และในปี 1957 ก็จัดตั้ง Lublin Museum ขึ้นแทน 

City view from Lublin Castle
City view from Lublin Castle
Lublin Castle outside
Lublin Castle outside
inside chapel
inside chapel
fresco inside chapel
fresco inside chapel
Building Across Lublin Castle
Building Across Lublin Castle
Chapel
Chapel

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top