ดร.เสนีย์ สุวรรณคดี รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา ม.เกษมบัณฑิต ร่วมแสดงความยินดีกับนักศึกษา
เด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก นักศึกษาภาควิชาออกแบบแฟชั่น คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต โชว์ฝีมือเนรมิตรันเวย์สุดอลังการ อวดผลงานแฟชั่นดีไซน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Dressmaker” ปั้นดีไซเนอร์มือใหม่ให้ก้าวเข้าสู่วงการแฟชั่นอย่างมั่นใจ ด้วยชุดเครื่องแต่งกายที่ผสมผสานไอเดียจากหลากหลายวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ออกแบบเอง ผลิตเอง รวม 19
คอลเลคชั่น ทำให้บนรันเวย์แฟชั่นครั้งนี้สนุกสนานกับผลงานจบของนักศึกษา โดยยึดโถงอีเดน ชั้น 3 เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นพื้นที่จัดแคตวอล์กสุดอลังในครั้งนี้
ดร.เสนีย์ สุวรรณคดี รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต กล่าวว่า เป็นการแสดงผลงานความสำเร็จของนักศึกษา สาขาวิชาออกแบบแฟชั่น คณะศิลปศาสตร์ หลังจากผ่านกระบวนการเรียนรู้ในห้องเรียนสู่การฝึกปฏิบัติ ในรายวิชาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทุกๆ มิติ ทั้งการย้อมผ้า การทอผ้า การเลือกใช้สี เทคนิคการออกแบบตัดเย็บ การจัดงานแฟชั่นโชว์ รวมถึงการให้ความรู้ในเชิงการบริหารจัดการธุรกิจแฟชั่น ซึ่งนักศึกษาทุกคนต้องปฏิบัติและสร้างสรรค์ผลงานมีการนำเสนองานโชว์ให้เห็นความพร้อมของฝีมือก่อนจะก้าวสู่วงการแฟชั่นจริง
ผลงานการออกแบบจาก 19 ดีไซเนอร์รุ่นใหม่
คอนเซ็ปต์หลักในโชว์ของนักศึกษาปีนี้มีกลิ่นอายของหลากหลายวัฒนธรรมและความสวยงามของสถานที่ต่างๆ เข้ามาผสมผสานอยู่ในทุกๆ คอลเลคชั่น ผลงานที่แสดงออกมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าทุกคนมีความเป็นมืออาชีพพร้อมก้าวสู่วงการแฟชั่นอย่างเต็มภาคภูมิ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตมุ่งเน้นและผลักดันให้นักศึกษาทุกรุ่นได้เรียนรู้ในทุกมิติรอบด้าน ในอนาคตนอกจากหลักสูตรการเรียนการสอนที่เปี่ยมประสิทธิภาพ เรายังมีแผนที่จะเปิดห้องเสื้อของมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นศูนย์กลางให้นักศึกษารวมถึงศิษย์เก่าได้มีพื้นที่แสดงผลงาน เป็นเจ้าของธุรกิจแบรนด์ของตนเอง รวมถึงหลักสูตรระยะสั้นเพื่อร่วมผลักดันให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงการเป็นดีไซเนอร์รุ่นใหม่ได้ จะช่วยต่อยอดผลักดันอุตสาหกรรมแฟชั่นของประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นแฟชั่นฮับของภูมิภาคอาเซียนต่อไป
ดีไซเนอร์รุ่นใหม่กับผลงานที่น่าภูมิใจ
ณัฐ รัตนวรรณ นักศึกษาเจ้าของผลงานชุด “OBLATION” เล่าถึงที่มาของชุดแฟชั่นว่า ได้แรงบันดาลใจจากความงดงามของพวงมาลัยและทองคำเปลว เป็นเครื่องสักการบูชาของชาวพุทธ ได้นำศิลปะการประดิษฐ์พวงมาลัยไทย มาเป็นแนวคิดในการออกแบบชุดราตรี มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้รูปแบบโครงร่างที่เรียบง่าย เน้นเทคนิคในการจับจีบผ้า ให้มีลักษณะเหมือนการพับกลีบดอกไม้พวงมาลัย ผสมผสานลวดลายสีทองของทองคำเปลว สื่อให้เห็นถึงความเป็นมาของวัฒนธรรมกลิ่นอายและมนต์ขลังของเครื่องสักการบูชาที่สืบทอดกันมาแต่ช้านาน ตนอยากช่วยสืบสานและเพิ่มมูลค่าของผ้าไทย ซึ่งมีตลาดรองรับแน่นอน แต่ดีไซน์ต้องไม่จำเจ จากนี้ก็จะเดินหน้าสานฝันเพื่อสร้างแบรนด์ของตัวเองให้ได้ ขณะที่ มัณฑนา กลิ่นมาลัย มาพร้อมผลงานในชุด“AL AQSA” ที่มาของชุดจากมัสยิดอัล-อักซอประเทศปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญสำหรับชาวมุสลิม นำโครงสร้าง ลวดลายสี ของมัสยิดมาออกแบบสร้างสรรค์ลงบนชุด ออกแบบลวดลายใหม่ขึ้นมาโดยใช้เทคนิคการระบายสีน้ำ และใช้เทคนิคการสาน เพื่อแสดงรายละเอียดลงบนชุด รูปแบบของชุดจะปกปิดส่วนที่ต้องห้ามตามหลักศาสนาอิสลามแต่ผสมผสานความเป็นแฟชั่นร่วมสมัยเข้าไปอย่างกลมกลืนกลายเป็นโมเดิร์นมุสลิมเดรส มาถึง ธัญวลัย โภคินเมธาสิทธิ์โชว์ด้วยงาน “DIGITECH” เล่าถึงที่มาของชุดแฟชั่นว่า “ปัจจุบันมนุษย์มีความใกล้ชิดและเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีแทบจะตลอดเวลา เปรียบเสมือนเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ขณะเดียวกันเสื่อผ้าเครื่องแต่งกายเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ไม่ค่อยได้นำมาพัฒนาให้มีเทคโนโลยีเข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้น จึงเกิดความคิดที่จะผนวกรวมสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน โดยนำเอาสาย LED ที่มีขนาดเล็ก เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารผ่านสัญลักษณ์ ไปตัดเย็บร่วมกับผ้าอย่างประณีต ทำให้ไม่มีส่วนของสายไฟปรากฏให้เห็นอยู่บนชุด ในส่วนของแบตเตอรี่ ถูกซ่อนอยู่ในเครื่องเกาะเกี่ยวต่างๆ ของชุด ทำให้ “Digital Text Message LED” สามารถแสดงผลผ่านเสื้อผ้าได้ ทั้งรูปแบบของข้อความ สัญลักษณ์ ใช้สื่อสารแทนการพูด ทั้งยังสามารถควบคุมเปลี่ยนข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย”
ณัฐ รัตนวรรณ เจ้าของผลงานชุด OBLATION
รัชชานนท์ พุฒิซ้อน ผู้บริหารบริษัทVit C Bio Face จำกัด หนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดงานและศิษย์เก่าจากรั้วเกษมบัณฑิตเล่าถึงความภาคภูมิใจจากการชมสุดยอดแฟชั่นโชว์ของรุ่นน้องร่วมสถาบันว่า ชื่นชมและภาคภูมิใจกับน้องๆ ทุกผลงานที่แสดงออกมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าทุกคนพร้อมก้าวเข้าสู่วงการแฟชั่นเต็มตัว ในฐานะศิษย์เก่าจากรั้วเกษมบัณฑิตจึงอยากจะเป็นปุ๋ยเพื่อที่จะมาหล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์พืชรุ่นใหม่ ให้น้องๆ เป็นต้นกล้าที่เติบโต แข็งแรง เพื่อที่จะนำผลงานดีๆ แบบนี้ ออกสู่สาธารณชนได้เห็นว่าเยาวชนไทยมีความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก
126 ชุด จาก 19 แนวความคิดที่มาจากไอเดียว่าที่ดีไซเนอร์หน้าใหม่ เป็นการผสมผสานของงานศิลปะและแฟชั่นได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าแต่ละชุดที่ขึ้นโชว์บนรันเวย์ปีนี้ล้วนมาจากความคิดสร้างสรรค์ หลายคอลเลคชั่นนักศึกษาได้เรียนรู้ทางวัฒนธรรมและความสวยงามของศิลปะก่อนผลิตชิ้นงานจริง สมกับความเป็นมืออาชีพกันจริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี