ในขณะที่ความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ ความต้องการใช้พลังงานก็มีมากขึ้นเท่านั้น แต่พลังงานที่เรานำมาใช้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นพลังงานที่ได้จากธรรมชาติ ซึ่งหลายๆ ชนิดก็เหลือน้อยลงทุกที “พลังงานทดแทนที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนกำลังโหยหารศ.ดร.สุนีรัตน์ ฟูกุดะ นับว่าเป็นหนึ่งบุคลากรคนสำคัญของประเทศที่คลุกคลีอยู่กับงานด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมมาเกือบ 20 ปี ก็เป็นนักวิชาการ นักวิจัยอีกท่านหนึ่งที่มุ่งมั่นทุ่มเทในการค้นหาพลังงานทดแทนมาสู่คนไทย
รศ.ดร.สุนีรัตน์ ฟูกุดะ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เล่าถึงบทบาทหน้าที่ของสถาบันแห่งนี้ให้ฟังว่า บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งมาแล้ว 20 ปี และได้ดำเนินการเกี่ยวกับพลังงานและสิ่งแวดล้อมมาตลอด เป็นหน่วยงานที่ผลิตบัณฑิตปริญญาโทและปริญญาเอกเป็นหลักสูตรนานาชาติ มีนักศึกษาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ผ่านมา มีบัณฑิตต่างชาติจบแล้วนำความรู้เกี่ยวกับพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ได้เรียนมากลับไปทำงานยังประเทศของตัวเอง หรือนักศึกษาไทยที่จบไปแล้วก็เข้าไปทำงานกับเอกชน และภาครัฐที่เกี่ยวกับพลังงานและสิ่งแวดล้อมเป็นจำนวนมาก
“อีกหนึ่งพันธกิจสำคัญนอกเหนือจากการผลิตบุคลากรด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมแล้ว สถาบันแห่งนี้ยังมีบทบาทในการทำงานวิจัยและบริการวิชาการ ทางด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม และดูในเชิงนโยบาย เพราะต่อให้มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพียงใดก็ตาม แต่นโยบายไม่เอื้อต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและสังคมก็คงจะไปต่อไม่ได้ ดังนั้น การนำองค์ความรู้ทั้งหมดที่มีออกไปต่อยอดให้กับสังคมและผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เขาตระหนักถึงการใช้พลังงานทดแทนอย่างมีประสิทธิภาพ”
สำหรับสถานการณ์พลังงานในประเทศไทย รศ.ดร.สุนีรัตน์ บอกว่า “ภาพรวมการใช้พลังงานทดแทนของประเทศไทยอยู่ในระดับดีมาก ประเทศไทยถือเป็นผู้นำของภูมิภาคอาเซียนในการนำพลังงานทดแทนมาใช้ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งหลายๆ ประเทศก็ได้ยึดเอาประเทศไทยเป็นตัวอย่าง เพราะเรามีนโยบายในการสนับสนุนพลังงานทดแทนที่ดีมาก ทำให้เรามีพลังงานทดแทนในรูปของไฟฟ้า ความร้อน แล้วก็เชื้อเพลิงเหลวในภาคขนส่งเอสธานอล กับ ไบโอดีเซล”
ในฐานะที่เป็นผู้ทำงานด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมมานานกว่า 15 ปี ในบรรดาพลังงานทดแทนที่สามารถหาได้ในบ้านเรา
ไม่ว่าจะพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ อีกหนึ่งพลังงานทดแทนที่ดูมีอนาคตสดใสสำหรับบ้านเรานั่นคือ “พลังงานชีวมวล” เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการทำการเกษตร สิ่งเหลือใช้หรือขยะจากภาคเกษตรจึงเป็นวัตถุดิบชั้นดีในการผลิตพลังงานชีวะมวล
“แก๊สชีวมวล เป็นของเหลือจากกระบวนการเพาะปลูก โดยชีวะมวลเหล่านั้นจะมีการแปรผันตามฤดูกาล แต่ถ้าสามารถนำชีวมวลมาใช้ได้อย่างต่อเนื่องก็จะเป็นการดีแต่การรอจากภาคการเกษตรยังไม่เพียงพอ จึงมีการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่ต้องการพลังแก๊สชีวมวล ให้ปลูกไม้โตเร็วในพื้นที่ต่างๆ หรือภายในโรงงานของตัวเอง เพื่อนำมาเสริมในการสร้างพลังงานชีวมวล แทนการรอพืชผลที่เหลือจากกระบวนการเพาะปลูกของเกษตรกรอีกทางหนึ่ง”
อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ไม่ได้มีบทบาทหน้าที่เพียงแค่ผลิตบุคลากรด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในการนำองค์ความรู้จากงานศึกษาวิจัยต่างๆ ของสถาบันไปสู่สังคมและภาคอุตสาหกรรมด้วย สถาบันจึงได้ร่วมกับ บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด จัดสัมมนาระดับนานาชาติ “International Conference The Future of ASEAN’S Energy Journey E-mobility-Smart Grid-Smart City” (Former Renewable Energy Asia) ที่จะจัดขึ้นภายใน ASEAN Sustainable Energy Week 2018 ระหว่างวันที่ 6-9 มิถุนายนนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา
“งานครั้งนี้เรามุ่งหวังให้เกิดเครือข่าย และการพัฒนาพลังงานทดแทนอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน เพราะเป็นเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และมีศักยภาพทางด้านพลังงานทดแทนสูง แต่ยังขาดเทคโนโลยีและความสามารถในการนำมาใช้ นอกจากการสัมมนาแล้วเรายังมีการพูดถึงการออกแบบเมืองอย่างยั่งยืนเป็นอย่างไร พลังงานในอนาคต พลังงานลมและเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ หรือแม้แต่ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ และไบโอเอนเนจี้และมีการอัพเดทเทรนด์พลังงานทดแทนโลกโดยผู้เข้าร่วมสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจได้อีกด้วย”
รศ.ดร.สุนีรัตน์ ทิ้งท้ายว่า เรื่องการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า ไม่ใช่เรื่องภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น เพราะเราทุกคนมีส่วนในการใช้พลังงานและทำลายสิ่งแวดล้อมด้วยกันทั้งสิ้น วันนี้จึงยังไม่สายที่เราจะลุกขึ้นมาให้ความสำคัญกับขุมพลังงานที่มีอยู่เดิม และเปิดใจรับการใช้พลังงานทดแทนใหม่ๆ ที่สามารถผลิตได้ในประเทศ อันจะนำไปสู่ความมั่นคงด้านพลังงานและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี