ยังคงอยู่ในห้วงคำนึงของผู้คนทั่วโลก สำหรับพิธีเสกสมรสครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่ ดยุคแห่งซัสเซกซ์ และ เมแกน มาร์เคิลดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ซึ่งสะกดให้คนทั่วโลกพลอยตื่นเต้นยินดีและเบิกบานไปกับความเรียบง่ายของพิธีเสกสมรสครั้งนี้ โดยเฉพาะชุดเจ้าสาว ถูกกล่าวขานถึงว่าสร้างสรรค์ได้งดงามยิ่ง
House of Givenchy ได้ออกมาเผยว่า ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ชุดเจ้าสาวในพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2561 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
โดย Clare Waight Keller (แคลร์ เวท เคลเลอร์) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของแบรนด์ จีวองชี ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ออกแบบชุดเจ้าสาวในโอกาสที่น่าจดจำครั้งนี้ พวกเราทีมจีวองชี่ ตั้งใจออกแบบชุดที่ดูคลาสสิก แต่ยังคงความทันสมัยด้วยการตัดเย็บอันเฉียบคม ตามแบบฉบับแบรนด์ของฉัน และเมแกนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่าผ้าคลุมศีรษะจะต้องเป็นชิ้นที่มีความงดงามของดอกไม้เข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วยการปักประดับดอกไม้รอบผ้าคลุมศีรษะที่ทำมาจากผ้าไหมทูล (Tulle)
ในนามของดีไซเนอร์ชาวอังกฤษ ภายใต้แบรนด์สัญชาติฝรั่งเศส และทีมจีวองชี รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่เจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน ได้เลือกเราให้เป็นส่วนหนึ่งในพิธีของประวัติศาสตร์นี้ และไม่ใช่เพียงแค่ได้รับเกียรติให้สร้างผลงานเท่านั้น การได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับเมแกน ก็ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าสำหรับฉันเช่นกัน จีวองชีทีมจึงอยากขอร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนในวันสำคัญของทั้งคู่นี้ด้วย”
ชุดเจ้าสาว ชุดแต่งงานของดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ถือได้ว่าเป็นชุดที่แสดงให้เห็นถึงความเรียบง่าย แต่ยังคงความสง่างามเอาไว้ได้อย่างลงตัว แคลร์ ยังคงสานต่อจิตตารมณ์ของแบรนด์ด้วยการโชว์งานฝีมือของช่างเฉพาะทาง รวมไปถึงการตัดเย็บอันประณีตและความเอาใจใส่ในการเลือกสรรวัสดุที่เหมาะสมกับชิ้นงานนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการรักษามาตรฐานและคงความเข้มงวดในการรังสรรค์ชิ้นงานชั้นสูงของ House of Givenchy แบรนด์ โอต์ กูตูร์ สัญชาติฝรั่งเศส ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1952
ในส่วนของชุดเจ้าสาวนั้นเป็นการนำเอกลักษณ์และเทคนิคต่างๆ กลับมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการเย็บตะเข็บแบบ 6 ฝีเข็ม หรือท่อนบนที่ถูกออกแบบให้เป็น Bateau Neckline (บาโต้ เน็คไลน์) หรือที่รู้จักกันในทรงคอปาด และโครงชุดที่เก็บเข้ารูปเผยให้เห็นถึงความเพรียวบางของช่วงเอวได้อย่างสวยงาม รับกับชายกระโปรงทรงกลมที่เสริมด้วยผ้าไหมออร์แกนซ่า 3 ชั้น และอีกหนึ่งความโดดเด่นของชุดนี้ก็คือ ช่วงแขนที่เข้ารูปยาว 3 ส่วน สื่อให้เห็นถึงการนำการความทันสมัย
เข้ามาผสมอยู่ด้วย
ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ได้อธิบายถึงความปรารถนาที่จะมีการปักประดับสัญลักษณ์ของประเทศที่ปกครองตนเองทั้งหมด 53 ประเทศด้วยกัน แคลร์ จึงได้ออกแบบให้ผ้าคลุมนั้นถูกปักประดับด้วยดอกไม้ประจำประเทศ โดยที่ผ้ามีความยาว 5 เมตร ทำมาจากผ้าไหมทูลที่ผ่านการปักตกแต่งด้วยด้ายไหม และด้ายออร์แกนซ่าให้เป็นลวดลายดอกไม้ โดยในแต่ละกลีบนั้นจะเป็นการผสมระหว่างการปักแบบเรียบ และการปักแบบสามมิติเพื่อให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนของชิ้นงาน
ช่างฝีมือใช้เวลากว่า 100 ชั่วโมง ในการปักลวดลาย และจะล้างมือทุกๆ 30 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้า
หมองลง นอกเหนือจากนั้น ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ได้เลือกดอกไม้ที่โปรดปรานมา 2 ชนิด และยอดของต้นข้าวสาลีมาปักผสมไว้ที่ด้านหน้า สื่อให้เห็นถึงความรัก และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
รองเท้าแต่งงาน สำหรับรองเท้านั้นอิงมาจาก Givenchy S/S 2018 Haute Coutureที่ทำจากผ้าไหมดัชเชสซาติน (Duchess Satin)
นอกจากชุดเจ้าสาวแล้ว แคลร์ ยังได้ออกแบบ ชุดเพื่อนเจ้าสาวตัวน้อย ทั้ง 6 อีกด้วย ชุดเดรสถูกออกแบบให้เน้นถึงความบริสุทธิ์เพื่อให้สอดคล้องกับชุดของเจ้าสาว แคลร์ได้เลือกใช้ผ้าไหม Radzimir สีไอโวรี่ (Ivory) และออกแบบให้เป็นเอวสูง ท่อนบนเป็นแขนสั้นรูปทรงพองเล็กน้อย อีกหนึ่งความโดดเด่นก็คือ แคลร์ได้เพิ่มดีเทลของชุดด้วยการนำผ้าไหมทอมือ 2 ชั้น มาผูกให้เป็นโบที่ด้านหลัง รวมไปถึงการเพิ่มกระเป๋าที่ด้านข้างและการจับจีบที่กระโปรงเพื่อทำให้ชุดดูสบาย แต่ยังคงความหรูหราตามแบบฉบับของแบรนด์ไว้ได้อย่างลงตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี