วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
กล้องดิจิทัลสำหรับการไลฟ์ ที่มีโหมด Clean HDMI
การถ่ายทอดสดหรือจะพูดให้ฟังดูคุ้นหูในภาษาวัยรุ่นคือการ “ไลฟ์ (Live)” โดยเฉพาะการไลฟ์ผ่านกล้องดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่ดารา เซเลบฯ บล็อกเกอร์ชื่อดังไปจนถึงชาวโซเชียลธรรมดาอย่างเราๆ เพราะเป็นมากกว่าการสื่อสารทั่วไป เห็นทั้งภาพเคลื่อนไหว เสียง อารมณ์ต่างๆ หลายคนจึงใช้การไลฟ์มาเป็นเครื่องมือในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ แต่จะไลฟ์อย่างไรให้มียอดผู้ชม (Viewer) เข้ามาดูเป็นจำนวนมาก เป็นสิ่งที่นักไลฟ์มือใหม่ต้องรู้ ล่าสุด “หาว-ต่อวงศ์ ซาลวาลา” ช่างภาพระดับท็อปคลาสของเมืองไทยแนะนำ 5 เทคนิคง่ายๆ สำหรับการไลฟ์ให้มีคนติดตามชมในงาน “ดิ แอดวานซ์เซด ออฟ พรีเมียม เอ็กซ์พีเรียนซ์เวิร์กช็อป” กิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จัดขึ้นโดย บิ๊ก คาเมร่า
หาว-ต่อวงศ์ ซาลวาลา เล่าว่า การไลฟ์ถือเป็นศิลปะการสื่อสารอีกแขนงหนึ่ง ที่ต้องอาศัยทักษะ อุปกรณ์ และองค์ประกอบต่างๆ ผสมผสานเข้าด้วยกัน อันดับแรก “กล้องดิจิทัล” เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญเพื่อให้ไฟล์ที่ถ่ายทอดออกไปมีคุณภาพดีซึ่งวิธีการเลือกซื้อกล้องดิจิทัลเพื่อการไลฟ์ต้องเลือกแบบที่มีโหมด Clean HDMI เพราะจะสามารถลบไอคอนเมนูตัวหนังสือต่างๆ ที่ปรากฏบนจอหลังกล้องให้เหลือเพียงแค่ภาพที่ต้องการถ่ายทอดได้ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้ภาพออกมาดูคมชัด คือการตั้งค่าขนาดของไฟล์ เลือกคุณภาพไฟล์ที่ขนาด 720 HD ก็พอ ไม่ต้องตั้งสูงถึง 4K เพราะจะทำให้ภาพกระตุกเนื่องจากประเทศไทยสัญญาณอินเตอร์เนตยังไม่รองรับการไลฟ์ด้วยภาพระดับ 4K เท่าไรนักเลือกใช้โหมดแบบ Manual โดยตั้งความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/50สุดท้ายคือการตั้งค่า White Balance ควรตั้งแบบ Kelvin เลือกสีโทนของภาพตามใจชอบ ห้ามตั้งแบบออโต้ เพราะจะทำให้กล้องจับสีภาพออกมาเพี้ยน การตั้งกล้องเวลาไลฟ์ควรตั้งมุมฉากขนาดกับพื้น ไม่ควรใช้มุมก้มหรือเงย เพราะจะทำให้ภาพออกมาไม่สวย และสำหรับเหล่าบล็อกเกอร์สายเชฟที่ชอบไลฟ์การทำขนมหรืออาหาร จำเป็นอย่างยิ่งต้องใช้กล้องดิจิทัล 2 ตัว กล้องตัวแรกใช้จับภาพใบหน้าของผู้ไลฟ์ พูดคุยให้ข้อมูลต่างๆ กล้องตัวที่สองจับภาพมือขณะปรุงอาหาร หากใช้กล้องตัวเดียวถ่ายภาพสลับไป-มาจะทำให้ผู้ชมเวียนหัวได้ ต่อมาคือเรื่อง “สถานที่” ไม่ควรเปลี่ยนไป-มา จะทำให้ยากต่อการควบคุมเสียงรบกวน การจัดแสงและการตกแต่ง ส่วนขนาดพื้นที่นั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบของการไลฟ์ “เสียง” จัดเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญสำหรับการไลฟ์ แบ่งเสียงออกเป็น 2 แบบคือ เสียงรบกวน เช่น เสียงรถ เสียงแอร์ เสียงพัดลม ซึ่งเป็นเสียงที่ต้องหาวิธีกำจัดออกไปก่อนการไลฟ์ อาจจะเริ่มจากการเลือกห้องไลฟ์ที่ไม่ติดถนน การปรับลมแอร์ให้เบาลง เป็นต้น ต่อมาคือเสียงพูด เพื่อให้เกิดเสียงที่คมชัดในการสื่อสาร จึงต้องใช้ไมโครโฟนเข้ามาเป็นตัวช่วย แนะนำให้เลือกเป็นไมโครโฟนประเภท USB Microphone เพราะจะใช้งานง่าย ให้เสียงดี และลดเสียงรบกวนรอบข้าง ส่วนนักไลฟ์ที่สอนเรื่องการแต่งหน้าหรือคนที่ชอบไฟล์ตอนกลางคืน “แสงไฟ” คือผู้ช่วยชั้นเยี่ยม นอกเหนือจากแสงธรรมชาติ จะทำให้ภาพออกมาคมชัดเห็นรายละเอียด สีสัน ที่ชัดเจน ซึ่งแสงไฟที่นิยมใช้กันส่วนใหญ่ คือ แสงหลักสำหรับช่วยเพิ่มความสว่าง อาจใช้เป็น LED Board ที่สามารถปรับเพิ่มลดความเข้มของแสงได้ และแสงรองสำหรับช่วยลดเงาสะท้อนอาจใช้เป็นพื้นหลังที่เป็นสีขาว อย่างผ้าม่านหรือกำแพงทาสีขาว เข้ามารับการสะท้อนจากแสงหลัก แทนแสงไฟก็ได้เช่นกัน
สุดท้ายคือ “ตัวเรา” ไลฟ์จะปังหรือจะแป๊ก ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเราเป็นสำคัญ เคล็ดลับการเตรียมตัวแบบง่ายๆ คือ ต้องเตรียมเนื้อหาให้ดี เลือกนำเสนอจากสิ่งที่รักสนใจ ถนัด และมีประโยชน์ต่อผู้ชม สามารถเล่าเป็นเรื่องราวได้ ส่วนการพูดต้องมีความต่อเนื่อง พูดได้เรื่อยๆ ไม่ให้มีภาวะเงียบ (Dead Air) และต้องมีการพูดโต้ตอบกับผู้ชมเสมอ และความถี่ของการไลฟ์ ถ้าเริ่มต้นควรไลฟ์ทุกวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อเป็นการฝึกฝนตนเอง นอกจากการสอนภาคทฤษฎีแล้ว กิจกรรมเวิร์กช็อปในครั้งนี้ยังให้นักไลฟ์มือใหม่ได้ลงมือปฏิบัติกับการไลฟ์สดมินิคอนเสิร์ตสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก ฮาร์ท-สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล ที่มาร่วมมอบบทเพลงอันไพเราะพร้อมเสียงกีตาร์นุ่มๆ ให้นักไลฟ์ได้โชว์ฝีมือการไลฟ์กันอย่างเต็มที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี