(ซ้าย) ท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวิน, รศ.ดร.พสุเดชะรินทร์ และ ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์

รำลึก 80 ปี แห่งการสถาปนา คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ คณบดี จัดงานละครเพลงการกุศลจากรุ่นสู่รุ่น “บทเพลงแห่งกาลเวลา 80 ปี พาณิชย์-บัญชี จุฬาฯ” ขับขานโดย นิสิตเก่า อาทิจิตติมา เจือใจ SHI 31, จิตสุภา วัชรพล SHI 65, อรรัมภา จินตกานนท์ SHI 75 ร่วมด้วยนิสิตปัจจุบันบรรเลงดนตรีไทยโดยวงเภตราผสานกับดนตรีสากลวง BANdSHI ของคณะณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รายได้มอบให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนา

บรรยากาศภายในงานเสมือนการคืนสู่เหย้า คลาคล่ำด้วยนิสิตเก่าทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นเล็ก และนิสิตปัจจุบันที่พรั่งพร้อมมาชมละครเพลงการกุศลในครั้งนี้ เพื่อรำลึกถึงวันวานอันแสนอบอุ่นประทับใจโดย รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนิสิตเก่าคณะฯ SHI 47 ที่เรียกขานชื่อรุ่นว่า “SHI” (ชี่) แผลงมาจากคำว่า “บัญชี” เผยว่า “เมื่อครั้งยังเป็นนิสิตคณะบัญชีฯ จุฬาฯ ผมเป็นหัวหน้านิสิตของภาคพาณิชย์ ทำกิจกรรมระดับภาควิชาหลายๆ งาน และยังเป็นประธานก่อตั้งชมรม AIESEC ในไทย เป็นชมรมระดับนานาชาติที่มีอยู่หลายประเทศทั่วโลก เป็นชมรมที่สนับสนุนการแลกเปลี่ยนนิสิตฝึกงานในต่างประเทศ ปัจจุบันชมรมนี้ยังดำเนินงานอยู่ จากเดิมเป็นชมรมในคณะ ที่เวลานี้ได้กลายเป็นชมรมของทางมหาวิทยาลัย นับเป็นความภูมิใจและประทับใจที่ครั้งหนึ่งเราเคยเป็นคนก่อตั้งชมรมนี้ขึ้นมา แม้ว่าเวลานี้จะเป็นอาจารย์ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของคณะที่ยังคงพัฒนาองค์ความรู้และผลิตบุคลากรเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความเจริญมั่นคงของประเทศ โดยแต่ละรุ่นที่ผ่านมาและจบออกไป ผมยังคงมองว่านิสิตบัญชีฯ จุฬาฯ น่ารักเหมือนเดิมมีวินัย และเชื่อฟัง แต่สิ่งที่เพิ่มเติมคือความกล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น”

รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ และนักร้องกิตติมศักดิ์ กวี ตันจรารักษ์,ธนา ลวสุต, จิตติมา เจือใจ, จิตสุภา วัชรพล, อรรัมภา จินตกานนท์ และ จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล

ท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวิน นิสิตเก่าคณะบัญชีฯ จุฬาฯ SHI 27 เผยว่า“สมัยที่ดิฉันยังเป็นนิสิต ดิฉันได้รับเลือกให้เป็นดาวประจำคณะและเป็นดาวจุฬาฯ สิ่งที่ประทับใจและภาคภูมิใจเป็นที่สุด คือการได้รับคัดเลือกให้เดินถือป้ายประเทศไทยเปิดตัวนักกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 5 ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้แก่คณะ และมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นนักกิจกรรมตัวยง แต่เรื่องการเรียนดิฉันก็ไม่ได้ละเลย จบการศึกษาด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับ 2 แม้จะจบมาเป็นเวลานาน แต่ดิฉันยังติดตามข่าวสารของคณะอยู่เสมอ ได้เห็นข่าวนิสิตในคณะไปชนะการแข่งขันต่างๆ ทั้งระดับประเทศและนานาชาติ สร้างชื่อเสียงให้แก่คณะและมหาวิทยาลัย รู้สึกชื่นใจและภูมิใจมาก และดิฉันเชื่อมั่นในศักยภาพของอาจารย์และนิสิต ที่จะไม่หยุดยั้งเพียงเท่านี้ ยังคงพัฒนาความรู้และผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพให้แก่วงการธุรกิจไทยต่อไป”

ขนิษฐา นาคบุตร และ รักชริน ศิริกิจ

ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ นิสิตเก่าคณะบัญชีฯ จุฬาฯ SHI 31 นักบริหารมืออาชีพที่บริหารงานระดับสูงหลายองค์กร เผยว่า “ครอบครัวผมจบจากคณะบัญชีฯ จุฬาฯ ผม SHI 31 ภรรยา SHI 32 และลูกสาว SHI 67 นับได้ว่าเป็นพรหมลิขิตที่ถูกขีดเส้นเอาไว้ ซึ่งสิ่งที่ผมประทับใจเมื่อครั้งยังเป็นนิสิตในคณะ คือการได้เรียนกับเหล่าคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ที่ในยุคนั้นนับว่าทันสมัยมาก แม้กระทั่งทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าคณะบัญชีฯ จุฬาฯ ยังเป็นคณะที่ทันยุคทันสมัยปรับเปลี่ยนตัวเองได้เร็วตามกระแสเศรษฐกิจ ผมมองว่าสิ่งที่จะช่วยเหลือให้คณะพัฒนาต่อไปได้ ต้องอาศัยพวกเราที่เป็นรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์มาช่วยกันพัฒนาน้องๆ เป็นบทเรียนที่มีคุณค่านอกเหนือจากตำราในห้องเรียน”

จิตสุภา วัชรพล นิสิตเก่าคณะบัญชีฯ จุฬาฯ SHI 65 รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เทรนด์ วีจี3 จำกัด เผยว่า “ตอนเรียนสนุกมาก ทั้งการเรียน กิจกรรมต่างๆ และเพื่อนๆ และได้มีโอกาสเป็นนักร้องของ CU Band ตั้งแต่ปี 1 พอปี 2 คณะของเราได้มีการตั้งวง BANdSHI ก็ได้เข้ามาเป็นนักร้องของวงตั้งแต่เริ่มต้น จึงมีกิจกรรมกับคณะมาโดยตลอด ดีใจที่ได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย ได้เพื่อนใหม่ในภาคต่างๆ ของคณะมากขึ้น มองกลับมาก็ดีใจที่ได้เห็นคณะพัฒนาไปเยอะมากมีการปรับตัว ปรับการเรียนการสอนให้ทันต่อความต้องการของตลาด เพื่อให้น้องๆ พร้อมก้าวออกไปสู่ชีวิตการทำงาน”

การแสดงละครเพลงการกุศล “บทเพลงแห่งกาลเวลา 80 ปี พาณิชย์-บัญชี จุฬาฯ”

ขนิษฐา นาคบุตร รองประธานชมรมดนตรีไทยวงเภตรา นิสิตคณะบัญชีฯ จุฬาฯ ปี3 SHI 77 เผยว่า “เรียนภาควิชาการธนาคารและการเงิน ชอบด้านนี้ รู้สึกสนใจ จึงเลือกเรียนในคณะนี้
สิ่งที่ได้รับการพัฒนา จากคนที่ขี้อาย แต่ได้รับเลือกให้เป็นรองประธานชมรมดนตรีไทยเภตรา ทำให้ต้องทำงานร่วมกับคนมากมายต้องคิด ต้องวางแผน ต้องประสานงาน เพื่อให้งานสำเร็จ ไม่ใช่แค่ความรู้ แต่ยังต้องใช้ศิลปะในการทำงานด้วย จึงเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่ในขณะนี้”