ช่วงฤดูฝนนี้ชาวเมืองอาจไม่ชอบแต่ชาวสวน ชาวไร่คงจะชอบใจที่ฝนตก ฝนในเมืองใหญ่นั้นมีอันตรายกว่าฝนต่างจังหวัด ข้อมูลจาก ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประธานฝ่ายกิจกรรมสังคม สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย และผู้อำนวยการคลินิกสยามเดอร์มาติกส์ เปิดเผยว่า เพราะเมืองใหญ่มีฝุ่นละออง สารเคมี เชื้อโรคที่อยู่ในบรรยากาศถูกชะล้าง ละลายมาอยู่ในสายฝน เมื่อมาถูกผิวหนังก็ทำให้เกิดโรคได้ ประกอบกับเมื่อฝนตก อากาศที่อับชื้น พื้นที่เปียกแฉะจะเอื้ออำนวยให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
มารู้จัก 5 ปัญหาโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยในหน้าฝนซึ่งส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือโรคที่มากับความชื้น ได้แก่
1.โรคเกลื้อน โรคนี้จะเป็นวงด่างๆ สีขาว หรือสีเนื้อ ในบางคนอาจขึ้นเป็นวงสีน้ำตาล ร่วมกับมีขุยสีขาวเล็ก ๆ มักเกิดขึ้นบนผิวหนัง บริเวณหน้าอกและลำตัว อาจมีอาการคันร่วมด้วยได้ นอกจากดูไม่สวยงามแล้ว ยังทำให้เสียบุคลิกภาพ โรคเกลื้อนเกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Malassezia furfur สามารถพบได้บนผิวหนังของคนทั่วไป แต่ปกติแล้วไม่ก่อโรค ยกเว้นในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น คนที่ออกกำลังกาย เหงื่อออก หรือตากฝน แล้วไม่ยอมอาบน้ำ ร่างกายชื้นแฉะอยู่เป็นเวลานาน ทำให้เชื้อเพิ่มจำนวนจนทำให้เกิดผื่นลักษณะดังกล่าวขึ้น
2.โรคเชื้อราแคนดิดา สำหรับคนที่ภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี เช่น ผู้ที่เป็นเบาหวาน หรือคนที่มีน้ำหนักมาก อาจเกิดผื่นสีแดงแฉะขึ้นตามบริเวณข้อพับ เช่น รักแร้ ขาหนีบ หรือใต้ราวนม ร่วมกับมีอาการคันมาก สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อยีสต์ในกลุ่มแคนดิดา(Candida) ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ โดยการทายาฆ่าเชื้อราทั่วไปแต่มักเป็นซ้ำได้บ่อย เพราะยีสต์ชนิดนี้พบได้ในร่างกายของคนเราเช่น บริเวณช่องปาก ระบบทางเดินอาหาร และช่องคลอด
3.โรคกลาก เกิดจากเชื้อรากลุ่ม Dermatophytes ซึ่งอยู่ตามสิ่งแวดล้อม เช่น หิน ดิน ทราย รวมทั้งในสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมว จะเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ได้ดีมากในอากาศร้อนชื้น อาจทำให้เกิดการติดเชื้อกลากได้หลายตำแหน่ง ได้แก่
3.1 โรคน้ำกัดเท้าหรือเชื้อราที่เท้า athlete’s foot ช่วงที่ฝนตกมากๆ บางพื้นที่อาจมีน้ำท่วมขัง หรือเวลาฝนตกนานเป็นชั่วโมง ทำให้ต้องเดินย่ำน้ำ ชื้นแฉะ เป็นเวลานานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากยังไม่รีบทำความสะอาดเท้า ผ่านไปสักระยะหนึ่งอาจพบว่าผิวตามซอกนิ้วเท้าลอกเป็นขุยขาวๆ หรือเปียกยุ่ย หรืออาจถึงขั้นเป็นแผล มีน้ำเหลืองแฉะที่ผิว การรักษาโรคราที่เท้า ควรล้างเท้าให้สะอาดด้วยสบู่และเช็ดให้แห้ง ใส่ถุงเท้าที่สะอาดและไม่เปียกชื้นใช้ครีมกันเชื้อราหรือโรยแป้งฝุ่นที่เท้า
3.2 กลากที่ศีรษะ ในฤดูฝนถ้าโดนฝน ผมเปียก นอกจากจะทำให้เป็นหวัดง่าย ยังทำให้ผมหมักหมม ชื้น เป็นเชื้อราที่หนังศีรษะได้ กลากที่หนังศีรษะพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ ส่วนมากเห็นเป็นวงกลม ขอบเขตชัดเจน มีสะเก็ดหรือขุย บริเวณนั้นอาจมีผมร่วงเป็นหย่อมๆ และจะพบผมหักร่วมด้วย บางครั้งพบลักษณะที่เรียกว่าชันนะตุ ซึ่งเป็นกลากชนิดที่มีการอักเสบมาก อาจพบเป็นก้อนใหญ่แล้วแตกออกมีน้ำเหลืองแห้งกรังได้
3.3 โรคติดเชื้อราที่เล็บ ส่วนมากพบในผู้ใหญ่ เล็บของคนแก่ซึ่งยาวช้าจะมีโอกาสติดเชื้อราได้ง่าย อาจพบที่ตรงปลายเล็บหรือด้านข้าง มีสีขาวหรือเหลืองปนน้ำตาล ต่อมาใต้เล็บจะหนาขึ้นและดันเล็บให้ยกขึ้นหรืออาจจะพบที่ผิวบนของเล็บก็ได้ ลักษณะเป็นดวงสีขาว หรือมีขุยขาวๆ อยู่ที่ส่วนบนของเล็บ ส่วนกลากที่โคนเล็บพบน้อย เริ่มแรกจะมีสีขาวหรือขาวปนน้ำตาลเกิดขึ้นที่ส่วนโคนเล็บ ต่อมาจะขยายออกจนเป็นทั้งเล็บ ต้องรักษาด้วยการรับประทานยาฆ่าเชื้อรา
3.4. สังคัง เป็นเชื้อราที่อวัยวะเพศ ก้น ขาหนีบ จากการที่อับชื้น เปียกฝนแล้วไม่ได้เปลี่ยนกางเกง หรือตากผ้าแล้วไม่แห้งทำให้มีผื่นคันตามที่ลับ ลักษณะผื่นจะเป็นวง มีขุย คันมาก บางทีเอายาแก้แพ้ทาเหมือนจะหาย แล้วกลับเป็นใหม่ เรื้อรัง
4. โรคเท้าเหม็น มักพบในผู้ชายที่เหงื่อเยอะหรือใส่ถุงเท้าที่ทำจากใยสังเคราะห์หนาๆ ซึ่งมักจะแห้งยากในหน้าฝน เวลาถอดรองเท้า บางคนอาจมีกลิ่นเหม็นโชยออกมา เวลาถอดถุงเท้าจะรู้สึกว่าถุงเท้าติดกับฝ่าเท้า เมื่อก้มดูที่ฝ่าเท้า จะเห็นเป็นรูพรุนเล็กๆ หรือเป็นแอ่งเว้าแหว่งตื้นๆ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
5.โรคฉี่หนู จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องเป็นหนูอย่างเดียวสัตว์อื่นๆ ก็สามารถมีเชื้อ แบคทีเรีย Leptospirochete ได้ ผู้ป่วยที่มีอาการไข้ขึ้นสูง ปวดกล้ามเนื้อ และเป็นกลุ่มเสี่ยง คือ อยู่ในบริเวณน้ำท่วมขัง เล่นน้ำ หรือย่ำน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อให้ตรวจและวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เนื่องจากผู้ป่วยโรคฉี่หนูส่วนใหญ่ที่เสียชีวิต มักจะไม่ได้รับการรักษาโรคฉี่หนูอย่างทันท่วงที เนื่องจากคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา
การป้องกัน คือ หลีกเลี่ยงการเหยียบย่ำน้ำ หรือตากฝน ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อกลับถึงที่พัก ควรรีบถอดเสื้อผ้า แล้วอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย โดยใช้สบู่หรือสารทำความสะอาดทั่วไป ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อชนิดพิเศษแต่อย่างใด เสร็จแล้วใช้ผ้าซับหรือใช้พัดลมเป่าให้แห้ง การโรยแป้งฝุ่นสามารถช่วยลดความชื้นและการเสียดสีได้ เสื้อผ้าและถุงเท้าที่ใช้ควรทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้ายที่ไม่หนาจนเกินไปเพื่อให้ระบายอากาศได้ดี หน้าฝนผ้ายีนส์ เสื้อผ้าหนังจะแห้งยากทำให้เกิดความอับชื้นได้ง่าย จึงควรระวังเป็นพิเศษ นอกจากนี้แล้วการใส่รองเท้าแตะบ้าง ก็ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อราที่เท้าได้เช่นกัน สิ่งสำคัญคือ เมื่อเกิดความผิดปกติของผิวหนังควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผิวหนังเพื่อทำการวินิจฉัยและให้การรักษาอย่างเหมาะสม
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี