“ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย” พิธีกรดำเนินรายการ พร้อมด้วยแขกรับเชิญ กัปตันโยธิน ภมรมนตรี

นับเป็นบุคลากรที่ทำงานอยู่ใน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินแห่งชาติของประเทศไทย มาอย่างยาวนานถึง 35 ปีตั้งแต่ยุคบุกเบิก สำหรับ กัปตันโยธิน ภมรมนตรี อดีตกัปตันและอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่เรียกได้ว่าผ่านร้อนผ่านหนาวคลุกคลีอยู่คู่การบินไทยมาอย่างต่อเนื่อง แม้วันนี้จะใช้ชีวิตเกษียณอายุจากการทำงานมาถึง 22 ปี แต่ชื่อ “กัปตันโยธิน”ยังคงถูกจารึกไว้ว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญของการบินไทย ล่าสุดรายการ “แนวหน้าวาไรตี้” ซึ่งออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 ดำเนินรายการโดย “ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย” ได้รับเกียรติจาก กัปตันโยธิน ภมรมนตรี ร่วมพูดคุยย้อนวันวานครั้งสมัยเป็นนักบิน และวิธีดูและรักษาสุขภาพในวัย 82 ปี

กัปตันโยธิน ภมรมนตรี เล่าให้ฟังว่า “ปัจจุบันผมอายุ 82 ปี ปลดเกษียณจากการทำงานมา 22 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงทำงานเพื่อสังคม
อยู่เรื่อยๆ ย้อนกลับไปในอดีต ผมเริ่มทำงานที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่แรกเริ่มเลยก็ว่าได้ สมัยนั้นผมมีรหัสประจำตัวคือ 00361 ซึ่งมีพนักงานอยู่แค่ 300 กว่าคน ซึ่งปัจจุบันมีเกือบ 24,000 คน ก็เรียกได้ว่าอยู่คู่บริษัทมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก การทำงานของผมเริ่มแรกบินด้วยเครื่องบินใบพัด HS-TGZ Thai International DC-8-63 ซึ่งตอนนั้นมีทั้งหมด 3 ลำเท่านั้นยุคก่อนบินไปประเทศฮ่องกงต้องใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนผมจะมาขับเครื่องบิน Jet เรียกได้ว่าตอนนั้นเป็นสายการบินแรกในโลกที่ใช้ French Jet Plane caravelle (12-17 ที่นั่ง) จากนั้นการบินไทยก็เจริญเติบโตมาด้วยความเหมาะสม บุคลากรต่างๆ ก็ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องจนสายการบินไทยกลายเป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศไทย

ปัจจุบัน (มิถุนายน พ.ศ.2561) การบินไทยมีเที่ยวบิน 64 สนามบินรวมต่างประเทศและในประเทศ แบ่งเป็นต่างประเทศ 60 สนามบิน ในประเทศไทย 4 สนามบิน ไม่รวมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้งหมด 3 ทวีป 32 ประเทศทั่วโลกไม่รวมประเทศไทย จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยฝูงบินกว่า 84 ลำ การบินไทยเป็นสายการบินลำดับต้นในเอเชีย ที่ทำการบินในเส้นทางกรุงเทพ-ลอนดอน (ท่าอากาศยานฮีทโธรว์) นอกจากนี้ การบินไทยยังได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากองค์การอนามัยโลกว่าด้วยสุขอนามัยบนเครื่องบินอีกด้วย

ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาการบินไทยเจอวิกฤติอยู่หลายครั้ง ผมมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ที่การพัฒนาทรัพยากรบุคคล ที่ไม่ได้ถูกพัฒนาตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ในองค์กรยังขาดการพัฒนาบุคลากรตำแหน่งต่างๆ อย่างเหมาะสม สังเกตได้จากตอนนี้ตำแหน่งต่างๆ ยังคงใช้รักษาการแทนกันหมด เพราะหาบุคคลที่เหมาะสมไม่ได้ ถึงแม้รายได้การบินไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ปัญหาหลักน่าจะมาจากหนี้สะสม และการบริหารจัดการที่ยังไม่โอเค ไม่ว่าจะเป็นในส่วนขององค์กร หรือภาครัฐเองก็ดี ดูได้เครื่องบินที่จอดทิ้งไว้ มีแล้วไม่ใช้ เลยกลายเป็นเพียงแค่เศษเหล็ก ถ้าจะให้ผมชี้แนะก็ขอนำเสนอให้เลือกใช้คนที่มีศักยภาพปรับเปลี่ยนระบบต่างๆ ในองค์กร หากในอนาคตถ้าการบินไทยจะเปลี่ยนเครื่องบิน เป็นทางออกที่รัฐบาลควรหาแนวทางในการจัดการเรื่องนี้ว่าเครื่องบินที่จอดทิ้งร้างไว้ ควรถูกทดแทนหรือไม่อย่างไร”

นอกจากนี้ กัปตันโยธิน ยังเล่าถึงชีวิตส่วนตัวในการดูแลสุขภาพให้ฟังว่า “เรามีชีวิตเป็นนักบิน เราจะต้องดูแลสุขภาพตัวเองตั้งแต่อายุ 19 ปีขึ้นมาเรื่อยๆ ก็รักษาสุขภาพทุกอย่างตามที่ควรจะเป็นตั้งแต่เล่นกีฬา เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม เมื่อก่อนก็เล่นเทนนิส แต่พออายุมากขึ้นก็หันมาตีกอล์ฟ และเข้ายิม ออกกำลังกาย บริหารกล้ามเนื้อสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แล้วก็พบหมอทุก 6 เดือนงานบ้านผมก็ทำเองเกือบทุกอย่าง เพราะภรรยาบอกเสมอว่าไม่อยากให้ผมเป็นคนหงอย ตื่นเช้ามาผมก็ทำอาหารเช้าเอง ล้างถ้วยล้างจาน ไปตัดหญ้าที่บ้านลูกชายบ้าง รถยนต์ผมก็ขับเอง วันว่างก็เดินเที่ยวกันกับภรรยา หรือไม่ก็ไปเยี่ยมลูกสาวที่ต่างประเทศ ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่ละเดือนผมกับภรรยาใช้เงินเดือนกันแค่ 12,000 บาทเท่านั้นเอง”

ติดตามเรื่องราวดีๆ ที่ครบครันได้ในรายการ “แนวหน้าวาไรตี้” ออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 16.00-16.25 น. ทางTNN2 (และช่อง 784ทางดิจิทัลทีวี) หรือTrue Visions 8 ชมรายการย้อนหลังได้ที่youtubeผู้หญิงแนวหน้าbyคุณแหน