เป็นผู้หญิงรุ่นใหม่ที่กระโดดเข้ามาสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ ภายใต้
แบรนด์ ชนิส (CHANIS) ตาล-ชนิสรา ชำรัมย์ วัย 35 ปี จากเด็กสาวเมืองบุรีรัมย์ที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ด้วยการลงมือทำที่เริ่มจากศูนย์ ค่อยๆ เรียนรู้สั่งสมประสบการณ์เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต
ชนิสรา เป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวเล็กๆที่มีพ่อรับราชการครู ส่วนแม่ทำอาชีพค้าขาย หลังจากเรียนจบมัธยมปลาย เธอตัดสินใจมาศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่กรุงเทพมหานคร เมื่อจบปริญญาตรีก็เข้าสู่ชีวิตวัยทำงานอย่างเต็มตัวด้วยการเป็นลูกจ้าง
“ตำแหน่งที่ทำเป็นเลขานุการผู้บริหาร บริษัทขนาดใหญ่ ด้วยตำแหน่งและเงินเดือนก็ดีในระดับหนึ่ง มันเป็นรายได้ประจำที่แน่นอน ถ้าเราไม่ฟุ้งเฟ้อก็อยู่ได้ แต่ตาลคิดเสมอว่าเราอยากมีอิสระ อยากเป็นนายตัวเอง และชอบอะไรที่ท้าทาย ซึ่งการ
เป็นลูกจ้างมันไม่ตอบโจทย์ ทำงานประจำได้ 2 ปีก็ลาออกเป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่อยากให้กลับไปอยู่บ้านที่บุรีรัมย์พอดี ตาลก็เลยกลับบ้านแล้วชิมลางการทำธุรกิจด้วยการเปิดร้านอาหารเล็กๆ ทำไปได้สักพักก็รู้สึกว่าเราอยากทำธุรกิจส่วนตัวจริงๆ ก็เลยลงเรียนปริญญาโทด้านการตลาด เพื่อนำความรู้มาใช้ในการทำธุรกิจ”
ธุรกิจร้านอาหารกำลังไปได้สวย แต่ก็มีความท้าทายสิ่งใหม่เข้ามาหา เมื่อเพื่อนของเธอชวนไปทำธุรกิจเปิดร้านสปา ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธที่จะลองทำในสิ่งใหม่ๆ
“ชลบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยว ร้านสปาก็ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีทำให้ร้านไปได้สวย แต่ด้วยการที่มีหุ้นส่วน 3 คน ซึ่งแต่ละคนก็มีธุรกิจหลัก มีงานประจำเป็นของตัวเอง ทำให้มีเวลาเข้ามาดูแลร้านไม่เพียงพอ ในที่สุดพวกเราก็ตัดสินใจว่าปิดร้านเพื่อไปโฟกัสเรื่องหลักของแต่ละคนดีกว่า ซึ่งตรงนี้ก็เป็นบทเรียนให้ตาลเหมือนกันว่าถ้าเราจะทำอะไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่เราต้องมีเวลาที่จะทุ่มเทให้กับสิ่งๆ นั้น ในฐานะเจ้าของธุรกิจเราจะมองว่าเรามีลูกจ้างทำงานให้ไม่พอ”
แม้จะต้องเลิกธุรกิจสปาไปในขณะที่สามารถทำกำไรได้อย่างงดงาม แต่ก็ทำให้ ชนิสรา ได้ไอเดียในการทำธุรกิจใหม่
คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ ภายใต้แบรนด์ ชนิส (CHANIS)
“ธุรกิจสปา ลูกค้าคือคนที่รักสวยรักงาม เราก็จะได้เจอลูกค้าที่มีปัญหาบ่นเรื่องรูปร่างบ้าง ผิวพรรณไม่สดใส ตัวตาลเองก็เป็นคนที่ดูแลผิวพรรณและรูปร่างตัวเองมากพอสมควร ก็จะมีลูกค้า คนใกล้ชิดที่มาถามเรื่องเคล็ดลับการดูแลตัวเอง พอไม่ได้ทำธุรกิจสปา ตาลก็มองเห็นว่าเราต่อยอดจากตรงนั้นได้ เพราะทำธุรกิจสปาเราก็ต้องหาผลิตภัณฑ์สปามาให้บริการลูกค้า ทำให้เรารู้ว่าอะไรดี ไม่ดี อะไรที่จะช่วยดูแลลูกค้าอย่างได้ผลดีที่สุดจึงเป็นที่มาของแบรนด์ชนิสค่ะ”
แต่อย่างที่เห็นตามสื่อต่างๆ ว่ามีแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการดูแลรูปร่างและผิวพรรณมีอยู่จนล้นตลาด และยังมีกระแสในแง่ลบเกิดขึ้นมากมาย แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคที่จะไม่ลงมือทำ
“แบรนด์ชนิส ไม่ได้ทำตามกระแส แต่มันเกิดจากตัวเราเองเป็นหลัก ตาลมองว่าถ้าเราทำตามกระแส เราก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้น ตาลจึงสร้างแบรนด์ด้วยการใช้ความซื่อสัตย์จริงใจต่อผู้บริโภคเป็นอันดับหนึ่ง สูตร วัตถุดิบต่างๆที่นำมาใช้ ตาลได้คัดสรรมาอย่างดี โดยเฉพาะโรงงานผลิต เป็นโรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีมาตรฐานการผลิตรับรอง ผลิตภัณฑ์แบรนด์ชนิส มีการขออนุญาตผลิตและจำหน่ายอย่างถูกต้อง ก่อนที่ตาลจะทำตลาด เราทดลองใช้ด้วยตัวเองรวมทั้งให้เพื่อนคนใกล้ชิดได้ทดลองเพื่อพิสูจน์คุณภาพผลิตภัณฑ์ ความพึงพอใจของลูกค้า จนมั่นใจจึงได้วางจำหน่าย และยังมีการสุ่มตรวจผลิตภัณฑ์อยู่เป็นระยะๆ เพื่อความมั่นใจ เพราะปัจจุบันสื่อไปเร็วมาก แม้แต่ตัวแทนจำหน่ายเองไม่ใช่ว่าใครก็ได้ เพราะตาลมีการคัดตัวแทนจำหน่ายที่เข้าใจในแบรนด์อย่างแท้จริง เพื่อที่จะสื่อสารข้อมูลไปยังผู้บริโภคได้อย่างถูกต้อง”
แบรนด์ชนิส เพิ่งเปิดตัวได้ปีกว่า แต่ก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นด้วยแนวโน้มที่ดี แต่หนทางของการทำธุรกิจยังมีอะไรอีกมากให้พบเจอ ซึ่งเธอก็พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า
“ตาลเป็นเด็กอีสานคนหนึ่ง พ่อแม่ไม่มีสมบัติอะไรให้นอกจากการศึกษา และอบรมสั่งสอนให้เราเป็นคนดี สิ่งที่เหลือคือ ต้องขวนขวายด้วยตัวเอง ตาลไม่ใช่คนที่มีความฝันแล้วได้แต่นั่งมองความสำเร็จของคนอื่น แต่ตาลเลือกที่จะลงมือทำเริ่มจากศูนย์เพื่อเดินไปให้ถึงสิบถึงร้อย ตาลรู้ว่ายังจะต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก ในการทำธุรกิจมันอาจจะมีที่เราตัดสินใจถูกและผิดพลาดบ้าง ไม่ว่าจะผิดหรือถูกมันคือบทเรียนให้เราก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง
ตาลไม่ได้หวังว่าทำธุรกิจเพื่อให้กลายเป็นมหาเศรษฐีในอีกสิบปีข้างหน้า แต่ตาลต้องการสร้างความมั่นคงให้กับตนเอง ให้กับคนที่เรารัก บนพื้นฐานของความพอเพียง ความซื่อสัตย์ ความจริงใจ และมีโอกาสที่จะแบ่งปันให้กับสังคม ซึ่งตาลไม่เคยกำหนดว่าการประสบความสำเร็จจะต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง แต่ถ้ามีอะไรที่ท้าทายความสามารถของเราก็พร้อมที่จะเรียนรู้และลงมือทำ เหมือนกับการสร้างแบรนด์ชนิสที่เป็นสิ่งท้าทายความสามารถของตาลตอนนี้ค่ะ”
“ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน” เป็นคำพูดเปรียบเปรยที่ตรงกับเธอคนนี้อย่างแท้จริง นับเป็นตัวอย่างผู้หญิงแกร่งที่มีความคิดบวก หวังว่าเรื่องราวของเธอคงจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี