นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบศิลปะ เมื่อไปถึงเมืองหลวงของประเทศต่างๆ ย่อมต้องอยากเยี่ยมเยือนมิวเซียม มิวเซียมหนึ่งที่พลาดไม่ได้ของลิสบอนเมืองหลวงของโปรตุเกสก็คือ มิวเซียมกระเบื้อง ทั้งนี้เพราะโปรตุเกสเป็นจักรวรรดิเก่าที่มีความรุ่งเรืองในช่วงที่ศิลปะบนกระเบื้องกำลังเฟื่องฟูที่สุดในประวัติศาสตร์ มิวเซียมกระเบื้องแห่งชาติหรือ National Azulejo Museum ที่ตั้งอยู่ใน Madre de Deus คอนแวนต์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระนาง D.Leonorในปี 1509 นี้เป็นมิวเซียมที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากใจกลางเมือง นักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการเดินมากคงต้องอาศัยแท็กซี่ในการเข้าถึง แต่รับรองได้ว่านักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาชมจะรู้สึกคุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในมิวเซียมที่ดีที่สุดในโลก
Azulejo มาจากคำอาหรับ Azzelijที่แปลว่าหินขัดเล็กๆ เพราะกระเบื้องดั้งเดิมนั้นมักมีขนาดเล็ก คนส่วนใหญ่คิดว่ากระเบื้องในยุโรปเอามาจากชาว Moors แท้ที่จริงแล้วชาวโปรตุเกสเอากระเบื้องมาใช้ตามแบบจีนต่างหาก แต่การใช้กระเบื้องอย่างแพร่หลายเพื่อการตกแต่งเป็นผลมาจากการที่พระเจ้า Manuel ที่ 1 แห่งสเปนเห็นกระเบื้องตกแต่งใน Granada พระองค์จึงนำมาตกแต่งพระราชวังใน Sintra เนื่องจากกระเบื้องในยุคแรกๆ นำมาจากจีนซึ่งการทำสียังไม่พัฒนา กระเบื้องส่วนใหญ่จึงมีแค่สีฟ้าบนพื้นขาว แต่ก็มีความสวยงามในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับความสามารถของศิลปิน แต่หลังจากที่ชาวโปรตุเกสเริ่มผลิตกระเบื้องมากขึ้น พวกเขาก็พัฒนากระเบื้องให้มีสีสันและลวดลายเพิ่มขึ้นโดยเพิ่มสัตว์ คนและต้นไม้เข้าไป งานกระเบื้องในยุคแรกมักถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในกิจกรรมทางศาสนา และตามความต้องการของเศรษฐี เช่น เรื่องราวเกี่ยวกับนักบุญ พระแม่มารี และนิยายปรัมปราตอนต่างๆ อาทิ ตอนล่าสัตว์ เพื่อใช้ตกแต่งโบสถ์ หรือบ้านของคหบดี
มิวเซียมที่เริ่มจัดตั้งครั้งแรกในปี 1965 และเพิ่งปรับปรุงส่วนจัดแสดงใหม่ที่เรียกว่าห้อง Satos Simoes เพื่อจัดแสดงผลงานกระเบื้องระหว่างปี 1690-1730 นี้จัดแสดงผลงานโดยเรียงตามลำดับเวลา มิวเซียมแห่งนี้ผ่านการปรับเปลี่ยนหลายส่วนหลายครั้ง เช่น ส่วนทางเดิน กระเบื้องตกแต่งภายใน กรอบงานจิตรกรรม รวมทั้งห้องสวดมนต์ Saint Anthony ที่ภายในตกแต่งด้วยศิลปะยุคบาโรค และงานจิตรกรรมของ Andre Gonvalves ผลงานที่จัดแสดงเด่นๆ เป็นของ Gabriel del Barco, Oliveira Bernardes และ Willem van der Kloet ศิลปินชาวดัทช์ที่สร้างสรรค์งานเพื่อโปรตุเกสโดยเฉพาะในปี 1707
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักคิดว่ากระเบื้องเป็นงานศิลปะที่ใช้สำหรับตกแต่งภายใน แต่แท้ที่จริงแล้วระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 18-19ซึ่งเป็นช่วงสูงสุดของงานกระเบื้องนั้น คนทั่วไปเริ่มนำกระเบื้องมาใช้ในการตกแต่งอาคารภายนอกแล้ว ทั้งนี้เพราะพวกเขาทราบดีว่ากระเบื้องไม่เพียงปกป้องอาคารได้ดี ยังทำความสะอาดง่าย และทำให้อากาศภายในอาคารเย็นลงในฤดูร้อน อีกทั้งยังกรองเสียงจากภายนอกได้ดีด้วย แต่เมื่อประชาชนทั่วไปใช้กระเบื้องมากขึ้น ความเป็นสินค้าของชนชั้นสูงก็หมดไป ความนิยมในชนชั้นสูงก็น้อยลงส่งผลให้การผลิตกระเบื้องขาดความเป็นศิลปะไปในที่สุด
นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเยือนมิวเซียมนี้จะได้ประสบการณ์ของการพัฒนาการใช้กระเบื้องในกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเพื่อตกแต่งหรือในชีวิตประจำวันจากอดีตถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังได้ดื่มด่ำกับงานเด่นที่สุดนั่นคือ กระเบื้องโบสถ์ที่หรูเลิศอลังการที่สามารถรอดพ้นแผ่นดินไหวใหญ่ในปี 1738 กระเบื้องที่ชุดนี้สามารถรอดผ่านแผ่นดินไหวในปี 1738 มาได้โดยยังคงอยู่ในสภาพเดิมซึ่งมีความยาวมากถึง 53 เมตรหลังจากที่นักท่องเที่ยวชื่นชมกระเบื้องต่างๆ จนจุใจจากมิวเซียม 2 ชั้นที่มีค่าเข้าชมเพียง 5 ยูโรแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะจิบกาแฟและช็อปปิ้งของที่ระลึกที่ทางออกเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำให้สมกับการมาเยือนหนึ่งในมรดกโลกของลิสบอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี