เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 12 สิงหาคม 2561 และ “วันแม่แห่งชาติ” ประจำปีพุทธศักราช 2561 มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ร่วมกับ ศูนย์การค้าสยามพารากอนและ บัตรเครดิต ไทยพาณิชย์ ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและถวายพระพรชัยมงคล ตลอดจนร่วมชมนิทรรศการ “ธ ทรงกอบทรงเกื้อหนุน โอบเอื้ออบอุ่นไผทสยาม” พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของสมาชิกศิลปาชีพจากทั่วทุกภูมิภาค ระหว่างวันที่ 10-16 สิงหาคม 2561 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
นิทรรศการ “ธ ทรงกอบทรงเกื้อหนุน โอบเอื้ออบอุ่นไผทสยาม” ระหว่างวันที่ 10-16สิงหาคม 2561 ณ ฮอลล์ ออฟ เฟม ชั้น M สยามพารากอน ด้วยน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้นของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทั้งแผ่นดิน นิทรรศการ “ธ ทรงกอบทรงเกื้อหนุนโอบเอื้ออบอุ่นไผทสยาม” จึงร้อยเรียงพระราชกรณียกิจ ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และสืบสานงานผ้าไทย ทั้งจากราชสำนักและจากท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยนิทรรศการแบ่งออกเป็นโซนต่างๆดังนี้ โซนพระฉายาลักษณ์และพระราชประวัติ ถ่ายทอดพระราชประวัติ และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และพระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตลอดจนพระราชจริยวัตรที่งดงามและพระเมตตาที่พระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทยทั่วทุกภาคของประเทศ
โซนก่อกำเนิด “ศิลปาชีพ” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจในการส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาชีพและความเป็นอยู่ของบุคคลผู้ยากไร้ และประชาชนในชนบทห่างไกล ได้โดยเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ไปทั่วทุกหนแห่งในแผ่นดินไทย ทรงพบว่าราษฎรไทยหลายท้องถิ่นมีฝีมือเป็นเลิศทางหัตถกรรมหลายชนิดสืบทอดมาแต่บรรพบุรุษ สมควรจะอนุรักษ์ไว้ให้เป็นสมบัติชาติสืบไป พระองค์จึงทรงทุ่มเทพระวิริยะ อุตสาหะ และพระราชทานทรัพย์มาส่งเสริมงานหัตถกรรมแก่ราษฎร โดยโครงการที่มีสาขาขยายกว้างขวางไปทั่วประเทศโครงการหนึ่งก็คือ โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ ซึ่งในภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ก่อตั้งเป็นรูปมูลนิธิ พระราชทานนามว่า “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษในพระบรมราชินูปถัมภ์” เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2519 และเมื่อ พ.ศ.2528 ได้เปลี่ยนชื่อ เป็น “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” อันเป็นการส่งเสริมอาชีพและขณะเดียวกันยังอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพื้นบ้านที่มีความงดงามหลายสาขา เช่น การปั้นการทอ การจักสาน เป็นต้น
โซนสาธิตการทอผ้า คนไทยมีความสามารถในการคิดสร้างสรรค์เครื่องนุ่งห่มให้งดงามเหมาะสมกับวิถีชีวิตและสิ่งแวดล้อมมีภูมิรู้ด้านการทอผ้า ผ้าปัก ด้วยฝีมืออันประณีตละเอียดอ่อนที่สืบทอดกันแต่ปู่ย่าตายาย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงขยายจุดเด่นนี้ให้เป็นที่ประจักษ์ชัด ด้วยการส่งเสริมให้ราษฎรสืบทอดการทอผ้า ปักผ้าที่ยังคงเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ทรงสังเกตเห็นความงดงามจากผ้าซิ่นที่ชาวบ้านสวมใส่ และแม้กระทั่งผ้าถูเรือนที่เคยเป็นผ้านุ่งผืนเก่าขาดวิ่นก็ทรงพบเห็นลวดลายที่สวยงามสามารถนำมาเป็นแบบอย่างเมื่อราษฎรริเริ่มการทอผ้าขึ้นอีกครั้ง ภายในงานนิทรรศการจึงมีการสาธิตการทอผ้าไทยของภาคต่างๆ ของประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ-สาธิตการทอผ้าชาวไทยภูเขา, ภาคกลาง-สาธิตการปักผ้าสำหรับชุดโขน, ภาคใต้-สาธิตการปักผ้าซอยแบบไทย และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-สาธิตการมัดลาย และการกรอไหมสำหรับผ้ามัดหมี่ เป็นต้น
โซนชุดไทยพระราชนิยม สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9ทรงตระหนักว่าการแต่งกายแบบดั้งเดิมของไทยในชีวิตประจำวันถูกอิทธิพลวัฒนธรรมตะวันตกกลืนหายไป จนกลายไปเป็นแบบตะวันตกเกือบทั้งสิ้น ไม่มีเครื่องแต่งกายที่เป็นแบบฉบับประจำชาติ ด้วยเหตุนี้ จึงมีพระราชดำริว่าเครื่องแต่งกายสำหรับพระองค์นั้นควรจะมีแบบแผนที่ชัดเจน และที่สำคัญต้องแสดงถึงความเป็นไทยให้นานาประเทศได้รู้จัก และจะได้ใช้โอกาสนี้นำเสนอคุณค่าทางศิลปะที่อยู่ในผ้าและเครื่องประดับของไทยผ่านฉลองพระองค์ชุดไทยที่ภายหลังเรียกว่า “ชุดไทยพระราชนิยม” โดยประยุกต์จากการแต่งกายของสตรีสมัยโบราณ ได้แก่ ชุดไทยเรือนต้น, ชุดไทยจิตรลดา, ชุดไทยอมรินทร์, ชุดไทยบรมพิมาน, ชุดไทยดุสิต, ชุดไทยจักรี, ชุดไทยศิวาลัย และชุดไทยจักรพรรดิ ทั้งนี้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ถึงการแต่งกายอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ภายในงานจึงจัดแสดงชุดไทยพระราชนิยมที่ตัดเย็บโดย ธีระพันธุ์ วรรณรัตน์ และมีกิจกรรมให้ผู้ร่วมงานได้สนุกสนานและเพลิดเพลินกับเกมแต่งกายชุดไทยพระราชนิยมอีกด้วย
โซนเครื่องแต่งกายโขนพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงตระหนักถึงการอนุรักษ์ศิลปะการแสดงโขน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดสร้างพัสตราภรณ์หรือเครื่องแต่งกายโขนขึ้นสำหรับใช้ในการแสดงโขนพระราชทาน โดยทรงให้ยึดถือรูปแบบเครื่องแต่งกายโขนแบบโบราณ แต่มีความคงทนและสวยงามยิ่งขึ้น นับเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปิน ช่างฝีมือแขนงต่างๆ ทุ่มเทสร้างสรรค์งานศิลป์ ฟื้นฟูเทคนิคต่างๆ แบบโบราณที่เกือบเลือนหายไปนำมาพัฒนาเพื่อให้เหมาะกับการแสดงบนเวทีในปัจจุบันอีกครั้ง ภายในนิทรรศการจึงมีการจัดแสดง เครื่องแต่งกายโขนพระราชทาน ชุดพระ ชุดนาง ชุดยักษ์ ชุดลิงพร้อมทั้งจัดแสดง หัวโขน ศิราภรณ์ และถนิมพิมพาภรณ์ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสถึงความวิจิตรงดงาม และงานประณีตศิลป์ชั้นสูงของคนไทย
โซน Designer Collaboration Showcase เพื่อสนับสนุนการใช้ผ้าชาวเขาเผ่าต่างๆ ในการทำสินค้าแฟชั่น หรือของตกแต่งบ้านรวมถึงเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการนำผ้าไทยไปใช้ในโอกาสต่างๆ ให้ร่วมสมัย เหล่านักออกแบบชั้นนำจึงร่วมออกแบบผลิตภัณฑ์มาสเตอร์พีซ เพื่อจัดแสดงในงานนิทรรศการครั้งนี้ด้วย ซึ่งได้แก่ วรรณศิริ คงมั่น และ เจสซี่ดอร์ซี่ แบรนด์ บอย (BOYY), มลลิกา เรืองกฤตยาและณัฏฐ์ มั่งคั่ง ดีไซเนอร์แบรนด์เสื้อผ้ามีสไตล์ คลอเซ็ท (Kloset), ศรัณย์ เย็นปัญญา นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัยจากแบรนด์ ฟิฟตี้ซิกซ์สตูดิโอ (56th Studio), อัญชนา ทองไพฑูรย์ และ พิพิธ โค้วสุวรรณ สองดีไซเนอร์แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ ซอลท์ แอนด์ เปปเปอร์ (Salt and Pepper)
นอกจากนี้ ในงานยังจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ระหว่างวันที่ 10-14 สิงหาคม 2561 ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน เลือกชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของสมาชิกศิลปาชีพจากทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งแบ่งเป็น 6 โซน ได้แก่ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าชาวเขาผ้าปัก ดอกไม้ประดิษฐ์ และผลิตภัณฑ์ของพิพิธภัณฑ์ผ้า โดยรายได้จากการจำหน่ายทั้งหมดนำเข้ามูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และนำกลับไปช่วยเหลือราษฎรชาวไร่ชาวนาต่อไป
อีกทั้ง ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความจงรักภักดีด้วยการแต่งกายด้วยสีฟ้าซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ และร่วมในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล โดยมีคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยเหล่าศิลปิน นำโดย เจมส์-จิรายุ และคุณแม่โชติกาตั้งศรีสุข มาร่วมพิธี ในวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2561 บริเวณทางเชื่อม Sky Walkสี่แยกปทุมวัน และพาร์คพารากอน สยามพารากอน โดยพิธีจุดเทียนถวายพระพรจะมีขึ้นพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศในเวลา 19.19 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี