คนรุ่นใหม่ยุค 4.0 ตัวจริงคงต้องยกให้ ดร.พิมพ์ขวัญ บุญจิตต์พิมล วัย 29 ปี เธอเป็นสาวมั่นสุดแอคทีฟ ที่งานหลัก คือการนั่งเก้าอี้ผู้ช่วยผู้อำนวยการ และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดระหว่างประเทศโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 และเครือโรงพยาบาลนวมินทร์แต่เธอยังมีอีกหลายบทบาทที่ทำด้วยใจรัก เพื่อสร้างประสบการณ์และความสามารถให้กับตัวเอง
ดร.พิมพ์ขวัญ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี ก่อนจะไปคว้าปริญญาโทในสาขา European Law จาก Imperial College London, London, United Kingdom ประเทศอังกฤษ และกลับมาเรียนปริญญาเอก Public Health จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นดอกเตอร์ในวัยเพียง 25 ปี
“ตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ติดแพทยศาสตร์ มศ. แต่ตัวเองเป็นคนกลัวเลือด ซึ่งพิมพ์ก็มองว่าการทำธุรกิจโรงพยาบาลไม่จำเป็นที่เราจะต้องจบหมอหรอก แต่เรื่องการเงินการบัญชีนี่แหละ ที่เป็นหัวใจสำคัญ พิมพ์จึงเลือกเรียนบัญชี กฎหมาย และจบด้วยการบริหารงานด้านสาธารณสุข เรียกว่าครอบคลุมที่จะมาสานต่องานโรงพยาบาล” แม้จะเป็นธุรกิจครอบครัวที่เธอต้องเข้ามาสานต่อและมี นายแพทย์ประจักษ์-วราภรณ์ บุญจิตต์พิมล ผู้เป็นบิดา มารดา และผู้ก่อตั้งได้วางรากฐานไว้แล้ว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในการก้าวมาเป็น
ผู้บริหารเจนเนอร์เรชั่นที่ 2
“ตอนนี้พิมพ์พยายามเรียนรู้งานโรงพยาบาลจากคุณพ่อให้ได้มากที่สุด เพราะพิมพ์อยากจะให้คุณพ่อได้พักผ่อนเสียที ท่านทำงานหนักมานานมากแล้ว แต่ความจริงคือ การบริหารธุรกิจบางอย่างก็สอนกันด้วยคำพูดไม่ได้ ก็ต้องอาศัยเคสที่ทำให้เราได้เรียนรู้เองโดยเฉพาะเรื่องการบริหารคน ซึ่งเราต้องทำงานกับทั้งรุ่นบุกเบิกกับอีกกลุ่มหนึ่งที่อาจจะมีอายุเท่ากัน หรือ
เด็กกว่า แต่ทั้งสองกลุ่มก็จะมองเราเหมือนกันว่าจะมาเป็นผู้นำเขาได้จริงเหรอ ซึ่งพิมพ์ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองจนได้รับการยอมรับ เรื่องความยากของการบริหารคน คือเรื่องความแตกต่างของมุมมอง โดยเฉพาะท่านผู้ใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ มีความชำนาญ แต่อาจจะขาดเรื่องการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม ส่วนคนรุ่นใหม่อาจจะเก่งเทคโนโลยี แต่ไม่มีความเชี่ยวชาญ พิมพ์อยากจะจับข้อดีของคนสองกลุ่มมารวมกันเพื่อสร้างทีมเวิร์กที่เข้มแข็งให้กับธุรกิจ”
แน่นอนว่าการเป็นผู้บริหารยุคใหม่ ก็ต้องมีความทันสมัยและต่อยอดธุรกิจให้ก้าวหน้ากว่าสิ่งที่ผู้บริหาร
รุ่นแรกได้สร้างไว้
“ถ้าคนที่ไปใช้บริการโรงพยาบาลของเราเป็นประจำ ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการบริการด้านการแพทย์ ที่พิมพ์พยายามจะเติมในส่วนที่เราขาด เช่น ศูนย์ผู้มีบุตรยาก ด้านผิวหนังและความงาม การสร้างมาตรฐานสากลสำหรับสถานพยาบาลในระดับโลกการใช้โซเชียลเพื่อรับเรื่องร้องเรียนการใช้บริการจากลูกค้า อีกหนึ่งโปรเจกท์ที่สำคัญและกำลังทำอยู่คือ การเพิ่มทักษะด้านภาษาต่างประเทศให้กับบุคลากรที่ต้องทำงานใกล้ชิดคนไข้ เช่น พยาบาล ที่เราพยายามส่งเสริมให้บุคลากรส่วนนี้ต้องสอบ TOEIC ให้ได้อย่างน้อย 450 ขึ้นไปเพื่อเตรียมตัวในการเป็นโรงพยาบาลระดับอินเตอร์”
Positive Thinking เป็นหลักในการใช้ชีวิตของสวยมากความสามารถคนนี้ ทำให้ทุกครั้งที่ต้องเจอปัญหาหรืออุปสรรค เธอจึงผ่านมาได้และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
“ชีวิตคนเราไม่ได้ยาวอะไรมาก ถ้าเราจมอยู่กับความคิดด้านแย่ๆ ไม่ใช่เสียแค่สุขภาพจิต สุขภาพกายเราก็เสียตามไปด้วย ทุกปัญหามีทางแก้ แต่พิมพ์ไม่คิด ไม่แก้คนเดียว เพราะการที่เราหมกหมุ่นกับมันมากๆ ก็เหมือนเส้นผมบังภูเขา ดังนั้น เวลาที่มีปัญหาหรือเราคิดอะไรไม่ออก เราก็เดินออกมามองห่างๆ ก่อน ถ้ายังหาคำตอบไม่ได้ ก็ให้คนอื่นช่วยคิด แน่นอนว่ามือวางอันดับหนึ่งที่เป็นที่ปรึกษาให้พิมพ์ได้ดีที่สุดคือ คุณพ่อ คุณแม่ และเพื่อนสนิทที่เราไว้ใจ พอแก้ปัญหาได้ก็จบให้เร็วที่สุด ไม่คิดต่อ”
ลำพังแค่งานบริหารโรงพยาบาล กับสารพันโครงการในการพัฒนาการให้บริการและมุ่งสู่ความเป็นอินเตอร์ฯ ก็เรียกว่า “ยุ่ง” มากแล้ว แต่ ดร.พิมพ์ ยังมีเวลาไปทำงานด้านอื่นๆ เช่น เล่นละครโทรทัศน์ อ่านข่าวภาคภาษาอังกฤษให้กับสถานีวิทยุทหารเรือ รายการโทรทัศน์ด้านสุขภาพและความงาม อาจารย์สอนพิเศษ แม้กระทั่งขายเสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์
“ถ้าเราบริหารเวลาได้ ทุกอย่างจะลงตัวค่ะ งานที่ทำอยู่ตอนนี้อย่างการอ่านข่าว หรือรายการทีวี.มีกำหนดตารางเวลาที่ชัดเจนแน่นอนในการบันทึกเทป งานอะไรที่ไม่กระทบกับงานหลักและเป็นสิ่งที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์กับตัวเอง พิมพ์รับหมด เพราะนิสัยพิมพ์ชอบทำงาน อย่างขายเสื้อผ้าออนไลน์ก็เกิดจากความชอบแต่งตัวของเราเอง จากที่ซื้อของคนอื่น เราก็ขายเอง เพราะพิมพ์ไม่ต้องขับรถเอง เรานั่งอยู่เฉยๆ จะเสียเวลาทำไม ก็ตอบแชทลูกค้าไปพลาง เราต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด ถึงจะไม่รับงานอะไร แต่ถ้ามีเวลา พิมพ์ก็ชอบที่จะเรียนหลักสูตรต่างๆ ที่จะเพิ่มเติมความรู้ ความสามารถให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา”
จะว่าไปลำพังแค่ธุรกิจครอบครัวก็ทำให้เธอมีชีวิตที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝัน แต่การที่เธอลุกขึ้นมาทำอะไรที่หลากหลาย ดร.พิมพ์ ให้เหตุผลว่า
“พิมพ์โตมากับการเห็นคุณพ่อทำงานหนัก ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีให้พิมพ์เป็นพิมพ์ได้อย่างทุกวันนี้ พิมพ์เชื่อว่า
การทำงานหนักไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ดังนั้น การที่เรามีโอกาสได้ทำอะไรหลายสิ่งหลายอย่างมากกว่าคนอื่นๆ ทำไม
เราจะไม่คว้าไว้ และเมื่อลงมือทำ เราก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุด และผลของมันคือเราเป็นคนที่เก่งขึ้น เป็นคนที่มีคุณค่ามากขึ้น”
เชื่อว่าโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 และเครือโรงพยาบาลนวมินทร์ จะก้าวสู่ระดับอินเตอร์ได้ไม่ยาก เพราะมีผู้บริหารยุคใหม่ ที่มีครบทั้งความสวยทั้งรูปร่างหน้าตา และทัศนคติ มากความสามารถ สมเป็นผู้หญิงยุค 4.0 จริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี