วันศุกร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
กรมวิทย์บริการเปิดแอพพลิเคชั่นผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติยกระดับผ้าไทยก้าวไกลตลาดโลก

กรมวิทย์บริการเปิดแอพพลิเคชั่นผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติยกระดับผ้าไทยก้าวไกลตลาดโลก

วันพุธ ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2561, 16.33 น.
Tag : กรมวิทย์ แอพพลิเคชั่นผ้าทอมือ
  •  

2 ก.ย.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรมวิทยาศาสตร์บริการได้จัดทำโครงการยกระดับผ้าไทยให้ก้าวไกลไปอีกขั้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติ ด้วยการเปิดตัว ‘คัลเลอร์ ไอดี เลเบลลิ่ง’ (Color ID Labeling) แอพพลิเคชั่นสำหรับคนรักผ้าไทยที่เปรียบเสมือนแคตตาล็อกรวบรวมความงดงามของผ้าไทยทอมือย้อมสีธรรมชาติอันปราณีตบรรจงมาให้คนไทยได้สัมผัสความงดงามของผ้าไทยกันได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ยังได้มีการจัดนิทรรศการผ้าไทยที่คัดสรรฝีมือจากเหล่าช่างชั้นครู พร้อมชมเสื้อผ้าดีไซน์พิเศษในคอลเลกชั่น ‘กลีบใบ เฮือไฟ (เรือไฟ) สายน้ำ’ (Blue voyage and Passage of Petals) ที่นำความงดงามทางธรรมชาติมาผสมผสานกับอัตลักษณ์ของผ้าไทยได้อย่างงดงาม ในค่ำคืนที่ผ่านมา ที่ร้าน QUAINT ซอยสุขุมวิท 61


โดยงานครั้งนี้ได้รับเกียรติจากเหล่าดีไซน์เนอร์และเซเลบริตี้ชื่อดังตบเท้าเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ พัทธรัตน์ อาจวงษ์, พิมสิริ นาคสวัสดิ์, อริสา อัศวณิชย์ชากร, อมตา-ภัสรา จิตตะเสนีย์, ยุวเรต ศรุตานนท์, ดร.ฐิติพร สงวนปิยะพันธ์, ณัฏฐกรม์-ณัฏฐิ์ประภา ชุณหะวัณ, ชนินธิดา-ชนาทิพย์ จันทรุเบกษา, กรุณา วัจนะพุกกะ, ปวีญลักษณ์ ลิมปิชาติ, ศิริภา อินทวิเชียร, วันชนะ เอี่ยมพิกุล, ภัทรพร-ภัทรพรรณ สาลีรัฐวิภาค, พิพัชรา-จิตริณี แก้วจินดา, ชนบดี ชินวรรโณ, กิตตินันท์ ตั้งสิริมานะกุล, วิชาดา พูลผล และอีกมากมาย

                สำหรับ‘คัลเลอร์ ไอดี เลเบลลิ่ง’ (Color ID Labeling) คือแอพพลิเคชั่นที่รวบรวมความงดงามของผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติของคนไทยจากแหล่งที่ดีที่สุดจำนวน 20 แห่ง จาก 6 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่เทคนิคการวิเคราะห์ค่าสีที่ทางกรมวิทยาศาสตร์บริการได้นำมาใช้จำแนกเอกลักษณ์ของกลุ่มทอผ้า จากเฉดสีของผ้าที่มีความแตกต่างกันตามวัตถุดิบทางธรรมชาติที่ช่างแต่ละกลุ่มได้เลือกใช้ในการย้อม ประกอบกับเทคโนโลยี QR Code และ AR Code ที่สามารถแสดงถึงกระบวนการผลิตทั้งในรูปแบบของภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เผื่อให้เหล่าคนรักผ้าไทยได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตการทอผ้าไทยได้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังตอบโจทย์การทำงานของเหล่านักดีไซน์ยุคใหม่ที่ต้องการแหล่งผลิตผ้าไทยย้อมสีธรรมชาติคุณภาพดี

                อุมาพร สุขม่วง อธิบดีกรมวิทยาษสตร์บริการ กล่าวถึงจุดเด่นของแอพพลิเคชั่นและแนวคิดหลักในการจัดงานครั้งนี้ว่า “เราต้องการยกระดับผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนที่ชื่นชอบผ้าไทยมากขึ้น รวมถึงกลุ่มดีไซน์เนอร์ที่ต้องการใช้ผ้าไทยในการออกแบบเสื้อผ้า ก็เลยเป็นที่มาของโครงการนี้ที่ได้รวบรวมแหล่งผลิตผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติที่ดีที่สุดเอาไว้ด้วยกันบนแอพพลิเคชั่นคัลเลอร์ ไอดี เลเบลลิ่ง ซึ่งแหล่งผลิตผ้าแต่ละแห่งจะมีจุดเด่นการทอผ้าและย้อมสีที่แตกต่างกัน เราจึงได้ใช้เทคนิคทางวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์ค่าสีเพื่อกำหนดเฉดสีออกมาในรูปแบบรหัสตัวเลขที่เป็นสากล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการอ่านค่าสีให้กับผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติ เพื่อให้ผู้ใช้แอพฯ สามารถเลือกเฉดสีผ้าที่ต้องการได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น และยังสามารถสั่งผลิตกับทีมช่างได้โดยตรงจากข้อมูลแหล่งผลิตภายในแอพฯ โดยเราหวังว่าแอพพลิเคชั่นนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ชื่นชอบผ้าไทย และสามารถเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการผ้าทอในประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลได้

                สำหรับแหล่งผลิตผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติที่ถูกนำมาจัดเป็นนิทรรศการภายในงานนั้นมีทั้งหมดจาก 6 จังหวัดด้วยกัน ประกอบไปด้วยจังหวัดสกลนคร โดยมี กลุ่มทอผ้าภูไทรุณณี, กลุ่มทอผ้าบ้านเหล่าใหญ่, กลุ่มแม่บ้านวิสาหกิจชุมชนหมู่ 8, กลุ่มวิสาหกิจชุมชนย้อมครามบ้านเชิงดอย, กลุ่มสตรีทอผ้าชุมชนที่ 2 แม่ทองสิริ, กลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านหนองครอง, กลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านนาขาม, กลุ่มทอผ้าสีธรรมชาติบ้านพันนา และกลุ่มทอผ้ากี่กระตุกบ้านนางัว จากจังหวัดนครพนม ประกอบไปด้วย ศูนย์เรียนรู้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านนาคอย และกลุ่มสตรีทอผ้าฝ้ายบ้านโคกสะอาด จังหวัดมุกดาหาร ประกอบไปด้วย กลุ่มแม่เวียงบ้านคำอาฮวน, กลุ่มทอผ้าทอมือบ้านคุณย่า และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าไหมบ้านภู จังหวัดต่อมาสุรินทร์ ประกอบไปด้วย กลุ่มมัดหมี่โฮลโบราณย้อมสีธรรมชาติ, กลุ่มทอผ้าไหมสีธรรมชาติบ้านดู่ และกลุ่มสตรีทอผ้าไหมบ้านระงอล จังหวัดชัยภูมิ ที่ประกอบไปด้วย วิสาหกิจชุมชนทอผ้าย้อมสีธรรมชาติหนองบัวแดง และกลุ่มเลี้ยงไหมตำบลบ้านเขว้า ปิดท้ายที่ศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านอำเภอนาโพธิ์ จากจังหวัดบุรีรัมย์

                อีกหนึ่งไฮไลท์ภายในงานนั่นก็คือแฟชั่นโชว์เสื้อผ้าที่ออกแบบขึ้นโดยดีไซน์เนอร์ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้ผ้าไทย ณัฏฐิญาณ์ สุขสถาน ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แห่งแบรนด์ ‘นาดีน เจดีน’ (Nadyn Jadyn) ในเสื้อผ้าคอลเลกชั่นที่ชื่อว่า ‘กลีบใบ เฮือไฟ (เรือไฟ) สายน้ำ’ (Blue voyage and Passage of Petals) ที่ได้รับแรงบันดาลใจหลักมาจากความงดงามของสายน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์ ซึ่งเปรียบเสมือนวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่นที่ทุกคนต่างช่วยกันอนุรักษ์ความงดงามของสายน้ำเอาไว้ ประกอบกับประเพณีเรือไฟอันมีชื่อเสียงในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงกลีบของดอกไม้ ใบไม้ และแก่นไม้นานาพรรณ ที่เป็นวัตถุดิบธรรมชาติในการย้อมสีผ้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ถูกนำมาร้อยเรียงให้เกิดเป็นเสื้อผ้าดีไซน์พิเศษที่นำเสนอถึงอัตลักษณ์ความงดงามของผ้าไทยได้อย่างวิจิตรบรรจง โดยใช้ไอเดียการออกแบบชุดที่ผสมผสานรูปทรงเรขาคณิตและการจับจีบซ้อนของเนื้อผ้า ที่แสดงถึงความสวยงามของกลีบดอกไม้และการไหลของสายน้ำ พร้อมเพิ่มเท็กซ์เจอร์ให้กับชุดด้วยการใช้ผ้าลินินซึ่งเป็นเส้นใยธรรมชาติมาช่วยเสริมคาแรคเตอร์ให้เสื้อผ้าสามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการใช้ผ้าพลิ้วอย่างผ้าสไบที่เป็นเหมือนเอกลักษณ์ของชุดไทยเข้ามาช่วยเสริมความโดดเด่นของคอลเลคชั่นนี้

                ด้านเหล่าเซเลบริตี้คนรักผ้าไทยที่มาร่วมงานต่างร่วมเผยถึงช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจที่เคยสวมใส่ผ้าไทย และเคล็ดลับการแต่งตัวด้วยผ้าไทยในชีวิตประจำวัน เริ่มจากสาวแฟชั่นนิสต้า แพรี่พาย-อมตา จิตตะเสนีย์ กล่าวว่า ‘มีโอกาสได้ไปสัมผัสวิถีการใช้ชีวิตของชาวภาคอีสานอยู่ช่วงหนึ่ง ทำให้ได้รู้จักกับอาชีพทอผ้าอย่างจริงจัง ทำให้ได้เห็นความรักและความตั้งใจในการทอผ้าของชาวบ้านที่เขาต้องการถ่ายทอดออกมาให้ผู้คนได้เห็นถึงภูมิปัญญาและความปราณีต เลยเกิดความรู้สึกว่าอยากถ่ายทอดสิ่งที่เราได้สัมผัสนี้ออกมาในรูปแบบสไตล์ของเรา โดยทำให้ผ้าไทยมีความโมเดิร์นมากขึ้น ซึ่งอาจจะเลือกจากผ้าที่ชอบนำมาตัดเป็นชุดที่เหมาะกับรูปร่าง แต่จะเน้นการแต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อยที่สุด เพื่อเป็นการให้เกียรติคนที่ทอผ้าให้เราใส่ และแมทช์กับเครื่องประดับที่ดีไซน์มีความทันสมัยหรือกำลังอยู่ในกระแส เพื่อให้การแต่งตัวดูสนุกขึ้น อย่างตอนไปอินเดียเราเลือกใส่ผ้ามัดหมี่สีชมพูไปเที่ยว ก็มีคนมาต่อแถวขอถ่ายรูปด้วยเยอะมากทั้งๆ ที่เขาก็ไม่รู้จักเรา แต่เพราะเขาบอกว่าชุดของเราสวย’

                ด้านหมูแดง-ชนินธิดา จันทรุเบกษา เล่าว่า “เริ่มศึกษาเกี่ยวกับผ้าไทยและเริ่มใส่อย่างจริงจังมาสักพักแล้ว ซึ่งจากที่ลองสวมใส่มาจะชอบผ้าหมักโคลนที่สุด เพราะใส่แล้วให้ความรู้สึกสบาย ส่วนใหญ่ก็จะนำผ้ามาตัดเป็นกางเกงหรือกระโปรงใส่แมทช์กับเสื้อปกติ หรือไม่ก็นำมาทำเป็นแอคเซสเซอรี่อย่างผ้าผูกหัว ผ้าคลุมไหล่ หรือนำมาตัดเป็นสูทเท่ๆ ซึ่งจะเลือกผ้าจากลวดลายการทอที่แปลกตา และถ้ามีโอกาสพิเศษไม่ว่าจะเป็นงานบุญ หรืองานที่ต้องพบปะผู้ใหญ่ เราก็จะเลือกใส่ผ้าไทยเสมอ และรู้สึกดีทุกครั้งที่มีคนมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องผ้าไทย แล้วเราก็ชอบที่จะสวมใส่ชุดที่ทำจากผ้าไทยตามสไตล์ของตนเอง’

                ยุวเรต ศรุตานนท์ เผยว่า ‘เสน่ห์อย่างหนึ่งของผ้าไทยในความคิดส่วนตัวก็คือความสุภาพเรียบร้อย อย่างเมื่อไม่นานมานี้เรามีโอกาสได้ไปเข้าเฝ้าพระสังฆราชมา ก็เลือกใส่ชุดที่ตัดจากผ้าไทยไป เพราะค่อนข้างมีเอกลักษณ์และสง่างาม โดยผ้าที่ชอบที่สุดคือผ้าไหมมัดหมี่ เพราะมีลวดลายที่หลากหลายที่เลือกสรร ซึ่งจะชอบนำมาผ้าไทยมาตัดเป็นชุดต่างๆ และอาจตกแต่งด้วยผ้าลูกไม้ที่ชอบเข้าไปด้วย ส่วนในชีวิตประจำวันก็จะแต่งให้ดูแฟชั่นขึ้น อาจจะเป็นกระโปรงทรงสอบที่ตัดด้วยผ้าไทยแมทช์กับเสื้อเชิ้ตเท่ๆ แล้วถือกับกระเป๋าลายผ้าไทยสักใบ’

                ทางด้านปวีญลักษณ์ ลิมปิชาติ เปิดเผยว่า  “ได้รับแรงบันดาลใจในการใส่ผ้าไทยมาจากคุณแม่ (พิมพวรรณ ลิมปิชาติ) เพราะท่านจะชอบผ้าไทยมาก จึงได้เห็นและสัมผัสมาตั้งแต่เด็กๆ พอโตขึ้นก็เริ่มแต่งตัวด้วยผ้าไทยเองด้วยการนำมาประยุกต์ให้มีความแคชชวลขึ้น ใส่ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะชอบผ้าทอย้อมสีธรรมชาติที่มีลวดลายไม่มาก และมักจะนำมาตัดเป็นกางเกงใส่กับเสื้อแขนกุด แล้วแมทช์ด้วยเครื่องประดับไทยโบราณอย่างพวกเครื่องเงินสวยๆ ให้ดูเข้ากัน ซึ่งเคยแต่งสไตล์แบบนี้ไปดูแฟชั่นโชว์ที่อังกฤษก็มีชาวต่างชาติเข้ามาพูดคุยด้วยเยอะมากเกี่ยวกับผ้าไทยของเรา”

                พบกับมิติใหม่ที่ช่วยยกระดับผ้าไทยให้ก้าวไกลไปอีกขึ้นบนแอพพลิเคชั่น ‘คัลเลอร์ ไอดี เลเบลลิ่ง’ (Color ID Labeling) ที่สามารถดาวน์โหลดได้บน APP STORE และ PLAY STORE พร้อมกันได้แล้ววันนี้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กรมวิทย์ เพิ่มยาสมุนไพรใหม่ในตำรามาตรฐานยาสมุนไพรไทย กรมวิทย์ เพิ่มยาสมุนไพรใหม่ในตำรามาตรฐานยาสมุนไพรไทย
  •  

Breaking News

‘พยาบาล’รพ.พระนั่งเกล้า เล่านาทีโดนผู้ป่วยหนุ่มคลั่งพุ่งทำร้าย

‘จริยธรรม’อยู่สูงกว่ากฎหมาย ทุกคนต้องยึดมั่น ไม่ใช่เฉพาะแพทย์

โชเฟอร์ไม่รู้! รถพ่วงล้อหลุด หมุนพุ่งข้ามเลน ชนรถคุณหมอยับ

ปาฏิหาริย์! ชายอังกฤษรอดชีวิตจากเครื่องบินแอร์อินเดียตก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved