ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี และอำเภอวังม่วงร่วมมอบบ้านและที่ดินแก่ ราตรี พันธมัง คนพิการที่ยากไร้และทำตัวเป็นแบบอย่างของจังหวัด เพื่อร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนด้อยโอกาสในสังคม และสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พร้อมกันนี้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟได้ร่วมมอบเครื่องบริโภคและอุปโภคเป็นกำลังใจแก่คนพิการด้วย
บัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวในพิธีมอบบ้านว่า จังหวัดสระบุรี และเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี พร้อมกับซีพีเอฟร่วมกันมอบบ้านและที่ดิน แก่ ราตรี พันธมัง คนพิการพนักงานของซีพีเอฟอาศัยอยู่ในตำบลคำพราน อ.วังม่วง จ.สระบุรี ภายใต้ “โครงการเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี ซ่อมแซม ปรับปรุงและสร้างบ้านผู้ยากไร้” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เพื่อร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนฐานะยากจนและด้อยโอกาสในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ร่วมสร้างความมั่นคงในชีวิตของประชาชน
“การที่ ราตรี พันธมัง ได้รับคัดเลือกจากเหล่ากาชาดจังหวัดรับการสนับสนุนให้มีบ้านและที่ดินเป็นของตนเองในครั้งนี้ จากการเป็นแบบอย่างคนพิการที่มีฐานะยากไร้ ไม่มีที่อยู่อาศัย แต่ ใฝ่ดี
ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค มีความตั้งใจขยันหมั่นเพียร และเป็นคนดี รวมทั้งเป็นที่รักจากคณะครู และนักเรียนโรงเรียนวัดคำพราน รวมถึงเพื่อนบ้านในชุมชน”
เหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี มอบบ้านชั้นเดียวพร้อมที่ดิน มีมูลค่าก่อสร้าง 155,000 บาท แก่ ราตรีและครอบครัว 3 คนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองอย่างมั่นคง โดย ราตรีจะต้องรับผิดชอบผ่อนค่าที่ดินขนาด 50 ตารางวา เป็นเดือนละ 2,000 บาท ซึ่งนำรายได้ที่ราตรีได้รับเป็นประจำทุกเดือนจากการเป็นพนักงานของซีพีเอฟ ในกลุ่มธุรกิจสุกร ในโครงการจัดจ้างคนพิการทำงานสาธารณประโยชน์ในชุมชนของซีพีเอฟ โดยปฏิบัติงานช่วยครูทำความสะอาดอาคารเรียน และเป็นผู้ช่วยพี่เลี้ยงนักเรียนเวลารับประทานอาหารกลางวัน ของโรงเรียนวัดคำพราน ต.คำพรานอ.วังม่วง จ.สระบุรี
ด้าน ราตรี กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาตัวเอง สามี และลูกไม่มีบ้านเป็นของตนเอง ต้องอาศัยบนที่ดินของคนอื่น การได้รับความช่วยเหลือจากจังหวัดสระบุรีในครั้งนี้ เป็นผลจากการที่ได้เป็นพนักงานของซีพีเอฟ ซึ่งทำให้ตนเองได้รับโอกาสในการมีบ้านและที่ดินเป็นของตนเอง และมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือให้ตนเองและครอบครัวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่นคง มีเงินเหลือเก็บไว้สำหรับลูกและการทำอาชีพเสริมรายได้ในอนาคต
สมพร เจิมพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจสุกร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ราตรี เป็นคนพิการที่ธุรกิจสุกร ซีพีเอฟร่วมกับอำเภอวังม่วง คัดเลือกเป็นพนักงานของซีพีเอฟให้ทำงานช่วยงานในชุมชนตนเอง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 เป็นต้นมาเพื่อร่วมเพิ่มโอกาสให้แก่คนพิการที่มีฐานะยากจน มีงานมีรายได้ที่มั่นคง สามารถพึ่งพาและเลี้ยงดูครอบครัว ไม่เป็นภาระของคนอื่น นับเป็นหนึ่งของความร่วมมือของซีพีเอฟกับองค์กรภาครัฐ มีส่วนในการขับเคลื่อนให้คนพิการสามารถมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรีมีความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และซีพีเอฟยังให้ความสำคัญกับการดำเนินการสนับสนุนและส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนด้อยโอกาสในสังคมอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน ซีพีเอฟ จัดจ้างคนพิการเป็นพนักงานบริษัท โดยตรง แทนการจ่ายเงินสมทบกองทุนส่งเสริมพัฒนาคนพิการ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550
รวมทั้งหมด 734 คน แบ่งออกเป็น จ้างคนพิการทำงานในสถานประกอบการของบริษัททั่วประเทศ รวม 186 คน และจัดจ้างคนพิการที่ด้อยโอกาส ฐานะยากจน และมีอุปสรรคในการเดินทาง ให้ทำงานสาธารณประโยชน์หรือช่วยเหลืองานในชุมชนของคนพิการเอง อาทิ โรงเรียน วัด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รวมถึงองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เป็นต้นรวม 422 คน นอกจากนี้ ส่งเสริมอาชีพให้สัมปทานพิการจัดสถานที่ให้จัดจำหน่ายสินค้าในโรงงานและสถานประกอบการของบริษัท อีก 126 คน ทั้งนี้ ซีพีเอฟได้ร่วมกับอำเภอวังม่วงจัดจ้างคนพิการที่มีอุปสรรคในการเคลื่อนไหวทำงานในชุมชน วัด โรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เป็นจำนวน 6 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี