‘รักษ์ลำน้ำมูล’ ซีพีเอฟ จับมือชาวโคราช  ปลุกพลังรักษ์ป่า ปั้นเยาวชนเป็น ‘นักสืบสายน้ำ’

‘รักษ์ลำน้ำมูล’ ซีพีเอฟ จับมือชาวโคราช ปลุกพลังรักษ์ป่า ปั้นเยาวชนเป็น ‘นักสืบสายน้ำ’

วันพุธ ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

วันนี้อุทยานแห่งชาติทับลาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ไม่ได้มีแค่เสียงนกก้องป่า แต่ยังมีความคึกคักเป็นพิเศษ เมื่อคนทุกวัยที่มีหัวใจรักธรรม ชาติ มารวมพลังทำกิจกรรม “รักษ์ลำน้ำมูล” เพื่อดูแลและฟื้นฟูแม่น้ำสายสำคัญของอีสาน “ลำน้ำมูล” ที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนตั้งแต่นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ จนถึงอุบลราชธานี

เพราะการดูแลแม่น้ำสายนี้ ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่คือภารกิจร่วมกันของทุกคน ที่จะส่งต่อความอุดมสมบูรณ์ให้ลูกหลานได้ใช้ชีวิตอย่างสดชื่นในอนาคต


การปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนเห็นคุณค่าและร่วมกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติ คือรากฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ตลอด 16 ปีที่ผ่านมา ‘โครงการรักษ์ลำน้ำมูล’ ของซีพีเอฟ เป็นตัวอย่างชัดเจนของความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ ภาครัฐ และชุมชน ที่ช่วยฟื้นฟูป่า อนุรักษ์แหล่งน้ำ และปลูกฝังจิตสำนึกการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพราะลำน้ำมูลไม่ใช่เพียงแค่แม่น้ำ แต่คือสายใยชีวิตของพี่น้องชาวโค ราช” พีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี กล่าว

“โครงการรักษ์ลำน้ำมูล” จากความร่วมมือที่ยาวนานกว่า 16 ปี ที่ซีพีเอฟ โดยโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ นครราชสีมา ริเริ่มขึ้น โดยตลอดระยะทางมีภาครัฐ และชุมชน เป็นพลังสำคัญในความสำเร็จตลอดมา กิจกรรมล่าสุด เป็นการปลูกต้นไม้ 2,000 ต้น และปล่อยพันธุ์ปลาพื้นถิ่นกว่า 85,000 ตัว ลงเขื่อนมูลบน ทั้งปลาตะเพียน ยี่สก ปลาหมอ และปลาสร้อยขาว เพื่อฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ

น้องฝ้าย - ด.ญ.อัญชิสา ช่วยชุม รร.จอมทองวิทยา เล่าอย่างภูมิใจพร้อมรอยยิ้มกว้างว่า “หนูชอบมากที่ได้มาปลูกป่ากับเพื่อนๆ บ้านเราจะมีป่าสมบูรณ์ขึ้น แถมยังได้เรียนรู้วิธีปลูกต้นไม้ที่ถูกต้องจากพี่ๆ ซีพีเอฟ แล้วยังได้ปล่อยปลาด้วย อยากชวนทุกคนมาทำกิจกรรมดีๆ แบบนี้ เพราะได้ทั้งความสนุกและใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์ด้วย”

ขณะที่ อภิศักดิ์ สุขประเสริฐ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน บอกว่า “การเข้ามาของซีพีเอฟช่วยเติมเต็มสิ่งที่พื้นที่ยังขาด ไม่ว่าจะเป็นการปลูกและบำรุงรักษาป่า รวมถึงการปล่อยปลาเพื่อเพิ่มแหล่งอาหารให้ชุมชน ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนจากผืนป่าเสื่อมโทรมกว่า 100 ไร่ที่เคยแห้งแล้ง กลับฟื้นคืนเป็นป่าเขียวชอุ่มอีกครั้ง ปริมาณปลาก็เพิ่มขึ้น ทำให้ชาวบ้านมีอาหารบริโภคได้ตลอดทั้งปี”

“รักษ์ลำน้ำมูล” ไม่ได้สร้างแค่ป่าและปลา แต่ยังสร้าง “พลังร่วม” ของรัฐ เอกชนและชุมชนที่จับมือกันดูแลแม่น้ำสายชีวิตให้คงความอุดมสมบูรณ์ หลักปรัชญา "3 ประโยชน์" ของเครือซีพี ประโยชน์ต่อประเทศ ประโยชน์ต่อประชาชน ประโยชน์ต่อบริษัท’ โดยเฉพาะในด้านประโยชน์ต่อประเทศชาติและต่อประชาชนจึงถูกถ่ายทอดผ่านพื้นที่จริงที่วันนี้กลายเป็นทั้ง ผืนป่าอุดมสมบูรณ์ ครัวธรรมชาติ ห้องเรียนกลางแจ้ง และแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ไปพร้อมกัน

ไม่หยุดแค่ปลูกป่า–ปล่อยปลา ซีพีเอฟยังเดินหน้าต่อยอดด้วย “โครงการนักสืบสายน้ำ” ปีที่ 13 ถ่ายทอดความรู้ให้เยาวชนได้เรียนรู้การตรวจสอบคุณภาพน้ำ เข้าใจคุณค่าของป่าต้นน้ำ และปลูกหัวใจสีเขียวให้คนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาช่วยดูแลธรรมชาติด้วยตัวเอง จนถึงปัจจุบันมีน้องๆ เยาวชน ร่วมเป็นนักสืบสายน้ำแล้วกว่า 2,500 คน  

ตลอด 16 ปีแห่งความต่อเนื่อง โครงการนี้ไม่เพียงฟื้นฟูระบบนิเวศ แต่ยังสร้างความสามัคคี ความรู้สึกเป็นเจ้าของ และความภูมิใจของทุกภาคส่วน “รักษ์ลำน้ำมูล” จึงไม่ใช่แค่การดูแลธรรมชาติ แต่คือการ “ปลูกหัวใจ” ให้ผู้คนเติบโตพร้อมความรักและความหวงแหนสิ่งแวดล้อม

ที่สุดแล้ว…นี่คือ “ความดีที่ส่งต่อได้” จากรุ่นสู่รุ่น และตราบใดที่สายน้ำยังไหล ลำน้ำมูลก็จะยังคงเล่าเรื่องราวของความร่วมมือ ความรัก และความดีที่ไม่มีวันสิ้นสุด

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top