วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
การใช้งานนิ้วมือหนักเกินไป ใช้งานนิ้วมือด้วยท่วงท่าเดิมซ้ำๆ หรือใช้นิ้วเกี่ยวของหนัก มักเป็นสาเหตุของการเกิดโรคนิ้วล็อก และด้วยยุคสังคมออนไลน์ทำให้คนทั่วไปติดการเล่นสมาร์ทโฟนและแท็บเลตเป็นเวลานานๆ ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้พบคนเป็นโรคนิ้วล็อกเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันนี้
นายแพทย์เติมพงศ์ พ่อค้า แพทย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ เฉพาะทางด้านมือ ข้อศอก และจุลศัลยศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า โรคนิ้วล็อกเกิดจากปลอกหุ้มเส้นเอ็นบริเวณฐานของนิ้วมือ (A1-Pulley) อักเสบและหนาตัวขึ้น ซึ่งเมื่ออักเสบ จะทำให้เส้นเอ็นเคลื่อนผ่านปลอกหุ้มเส้นเอ็นที่หนาขึ้นด้วยความยากลำบาก จึงมีอาการปวด และขยับนิ้วมือได้ยากขึ้น
อาการที่บ่งชี้โรคนิ้วล็อก ผู้ป่วยมักมีอาการเจ็บที่ฝ่ามือ บริเวณใต้ข้อต่อโคนนิ้วมือ หากเป็นมากขึ้นอาจมีอาการสะดุดเวลากำหรือเหยียดนิ้วมือได้ โดยอาการของโรคมักพบมากหลังจากตื่นนอนตอนเช้า หรือตอนที่ใช้งานมือหนักๆต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ทั้งนี้ ความรุนแรงของโรคนิ้วล็อกแบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้ 1.มีอาการเจ็บบริเวณโคนนิ้วมือ 2.มีอาการสะดุดเวลากำหรือเหยียดนิ้วมือ แต่ยังสามารถเหยียดนิ้วได้เอง3.กำมือแล้วเกิดอาการล็อก ไม่สามารถเหยียดนิ้วได้เอง ต้องใช้มือมาช่วยง้างออก 4.ไม่สามารถกำมือได้สุด และอาจมีข้อนิ้วมืองอผิดรูปร่วมด้วย
โรคนิ้วล็อก รักษาอย่างไรนั้น แนวทางในการรักษาแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน โดยมีรายละเอียดของวิธีรักษาคือ 1. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ และนำมือแช่น้ำอุ่นตอนเช้าหลังตื่นนอน ประมาณ 5 นาที ร่วมกับรับประทานยาลดปวดและอักเสบตามอาการ 2.ฉีดยาลดการอักเสบเฉพาะที่ ตรงตำแหน่งปลอกหุ้มเส้นเอ็นบริเวณฐานของนิ้วมือ (A1-Pulley) ซึ่งยาที่ใช้นั้นเป็นยาในกลุ่มสเตียรอยด์ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ภายใต้ความดูแลของแพทย์ เนื่องจากผลข้างเคียงร้ายแรงที่สุดที่พบได้คือ เส้นเอ็นเปื่อยและอาจจะขาดเองได้ 3.การผ่าตัดเข้าไปตัดปลอกหุ้มเส้นเอ็นบริเวณฐานของนิ้วมือ (A1-Pulley) ร่วมกับเลาะเนื้อเยื่ออักเสบที่หุ้มเส้นเอ็นออก วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายที่ใช้ในการรักษา จะช่วยลดอาการปวดและทำให้เส้นเอ็นขยับได้คล่องขึ้น ไม่มีอาการสะดุดเวลาใช้งาน โดยการผ่าตัดจะฉีดยาชาเฉพาะที่คล้ายกับการถอนฟันไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการหลังจากผ่าตัด เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้วนิ้วมือสามารถขยับได้เลยตั้งแต่หลังผ่าตัดเสร็จ
ทั้งนี้ วิธีและแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและดุลยพินิจของแพทย์ อย่างไรก็ตาม ควรปรับพฤติกรรมการใช้งานนิ้วมือให้เหมาะสม ทั้งหลีกเลี่ยงการใช้นิ้วเกี่ยวของหนัก หรือลดระยะเวลาการเล่นสมาร์ทโฟนลง ก่อนเกิดอาการนิ้วล็อกหรือก่อนที่อาการของโรคจะดำเนินไปมากขึ้นกว่าเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี