กุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า, ศ.ดร.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา ผช.รมว.กระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยคณะทูตานุทูต จาก 11 ประเทศ ให้เกียรติร่วมงาน

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดทำโครงการ “อาหารไทยต้อง Thai SELECT” เพื่อสร้างมาตรฐานให้ร้านอาหารไทยในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคอาหารไทย ยกระดับร้านอาหารไทยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหารไทยเอาใจผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยและต้องการรับประทานอาหารไทยแท้ๆ สามารถมองหาตราสัญลักษณ์ Thai SELECTก่อนเลือกร้านอาหารได้ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้จัดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณและตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป็นครั้งแรกให้กับสุดยอดร้านอาหารในประเทศที่ผ่านเกณฑ์ โดยตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ Thai SELECT PREMIUM ร้านอาหารคุณภาพยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาวขึ้นไป มีการตกแต่งร้านสวยงามและบริการที่เป็นเลิศ, Thai SELECT ร้านอาหารคุณภาพระดับ 3-4 ดาว มีเมนูอาหารไทยต้นตำรับคุณภาพดีและ Thai SELECT UNIQUE ร้านอาหารไทยที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐาน Thai SELECT และมีรายการอาหารที่เป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่นหรืออาหารประจำถิ่นรวมอยู่ด้วย

ธนฤกษ์ เหล่าเราวิโรจน์, เชฟ กรณ์ฐนัธ ทองนำ” ตัวแทนจากร้าน “ส้มตำเด้อ” และ “สุพรรณิการ์”

กุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มองเห็นโอกาสในการสร้างความเป็นไทยให้สามารถต่อยอดออกมาเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ยกระดับธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยให้มีมาตรฐาน แต่ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ไทยภายใต้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ซึ่งจะช่วยสร้างการรับรู้และจดจำอาหารไทยให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สร้างประสบการณ์ด้านการกินอยู่ในวิถีไทย ตลอดจนเชื่อมโยงการค้าให้เข้าถึงฐานรากกระจายรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น นำไปสู่การขยายโอกาสทางการตลาดของธุรกิจร้านอาหารไทยในประเทศมากยิ่งขึ้น

ศราณี ถิ่นเกาะแก้ว เจ้าของร้านอาหาร “บ้านฉลอง” ร้านอาหารใต้แบบต้นตำรับดั้งเดิมของภาคใต้ ตั้งอยู่ที่ตอม่อ 49 บนถนนเกษตร-นวมินทร์ ได้รับป้ายตราสัญลักษณ์ Thai SELECT UNIQUE การันตีคุณภาพเล่าว่า ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอาหารและมีความสุขที่ได้ทำอาหารดี มีคุณภาพ เหมือนกับทำให้ลูกหลานรับประทาน จุดเด่นของร้าน คือการปรุงอาหารภาคใต้แบบพื้นเมือง เป็นแหล่งรวมอาหารใต้จากทุกจังหวัด ทุกเมนูไม่ใส่ผงชูรส คงรสชาติดั้งเดิม การใช้วัตถุดิบกว่า 80% จากภาคใต้โดยตรง เพราะได้ทั้งความสด ใหม่ คุณภาพ เช่น ใช้ส้มแขกแทนมะนาว ได้รสชาติกลมกล่อม ใบเหลียง ผักกูด ต้นออดิบกะปิใต้ ปลากระบอกร้าจากอำเภอปากพนัง ปลาดุกร้าจากทะเลน้อย ปลากุดสลาด และแกงคั่วเห็ดแครง เป็นต้น

ศราณี ถิ่นเกาะแก้ว เจ้าของร้านอาหาร “บ้านฉลอง” ร้านอาหารใต้แบบต้นตำรับดั้งเดิมของภาคใต้

ทางด้าน “ธนฤกษ์ เหล่าเราวิโรจน์-กรณ์ฐนัธ ทองนำ” ตัวแทนจากร้าน “ส้มตำเด้อ” และ “สุพรรณิการ์” ซึ่งเป็นร้านอาหารในเครือเดียวกัน บอกเล่าเรื่องราวให้ฟังว่า ร้าน “ส้มตำเด้อ”ได้รับป้ายตราสัญลักษณ์ Thai SELECT UNIQUE ปัจจุบันมีสาขาทั้งในกรุงเทพฯ 2 แห่ง คือซอยศาลาแดง และทองหล่อ และยังมีสาขาที่นิวยอร์ก โฮจิมินห์ และโตเกียว ขณะที่ “สุพรรณิการ์” ได้รับตรา Thai SELECT มีสาขาอยู่ที่ซอยทองหล่อ สาทรท่าเตียน และอยู่ในรูปแบบเรือสำราญดินเนอร์ครูซล่องแม่น้ำเจ้าพระยา อาหารเป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่มีเรื่องราว มีรากเหง้า เพราะนอกจากความอร่อยแล้วยังมีวิถีชีวิตที่น่าสนใจซ่อนอยู่ อย่างแบรนด์ส้มตำเด้อเป็นการนำคำที่เป็นซิกเนเจอร์ของคนอีสานระหว่างคำว่า “ส้มตำ” หมายถึง ยำมะละกอที่ผ่านการตำด้วยครก ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของภาคอีสาน มารวมกับคำว่า “เด้อ” ซึ่งเป็นคำลงท้ายในภาษาอีสาน ที่ให้ความรู้สึกถึงการเชื้อเชิญที่หนักแน่น อบอุ่น และเป็นกันเอง โดยมี เชฟกรณ์ฐนัธ ชาวสกลนครเป็นเอ็กซ์คลูซีฟเชฟทำอาหารอีสานสูตรท้องถิ่นแท้ๆ ขณะที่ตัวผมเองเป็นคนขอนแก่นที่มีความมุ่งมั่นนำเสนออาหารที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของคนอีสานให้แพร่หลายออกไป อาหารพื้นบ้านดั้งเดิมที่ร้านสุพรรณิการ์มีต้นกำเนิดมาจากจังหวัดจันทบุรีและตราดซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณยาย การได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในครั้งนี้รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Thai SELECT และเป็นตัวแทนของอาหารไทย ที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวประเทศของเราครับ”

เมนูอาหารจากร้าน “ส้มตำเด้อ” และ “สุพรรณิการ์”

มองหาร้านอาหารไทยต้อง “Thai SELECT” ตราสัญลักษณ์ซึ่งจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างการรับรู้และจดจำให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศสร้างประสบการณ์ด้านการกินอยู่แบบวิถีไทย ตลอดจนเชื่อมโยงการค้าให้เข้าถึงฐานราก กระจายรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น อันจะนำไปสู่การขยายโอกาสทางการตลาดของธุรกิจร้านอาหารไทยในประเทศมากยิ่งขึ้น     

เมนูอาหารจากร้าน “ส้มตำเด้อ” และ “สุพรรณิการ์”