ดร.พันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานสถาบันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย-จีน (Thai-Chinese Entrepreneur Development Institute) ผู้อยู่เบื้องหลังส่งเสริมผลักดันผู้ประกอบการไทย ทั้งเป็นที่ปรึกษาให้แก่กลุ่มนักธุรกิจไทยและจีนอันเป็นระยะเวลายาวนาน ดร.พันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่ดีกรีไม่ธรรมดาเพราะประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย และก้าวเข้ามาเป็นประธานสถาบันพัฒนาศักยภาพไทย-จีน
ด้านความคิดมุมมองในด้านการเมืองและวิสัยทัศน์ถือว่าไม่ธรรมดา จึงถูกเป็นที่น่าจับตาไม่แพ้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่) เนื่องจากถูกทาบทามจากหลายพรรคการเมือง ให้มาเป็นสมาชิกพรรค เพราะหากลงสังกัดพรรคใดแล้วล่ะก็ สามารถเปรียบได้กับขงเบ้ง เป็นกุนซือชั้นดีให้เหล่าลูกทัพ
คนส่วนใหญ่มองภาพลักษณ์นักการเมืองไม่ดีคุณคิดอย่างไร?
ผมคิดว่าไม่ผิดและไม่ถูกเสมอไปที่เขาจะมองแบบนั้น ไม่ผิดที่เขาจะมองว่าไม่ดี เพราะนักการเมืองบางคนเข้ามารับตำแหน่งในสภาแต่ไม่ได้รับใช้ประชนอย่างแท้จริงอย่างที่เคยกล่าวไว้ก่อนมานั่งเก้าอี้ ส่วนไม่ถูกเสมอไป คือผมอยากกล่าวว่า สิ่งที่ท่านมองภาพลักษณ์นักการเมืองไม่ดี เนื่องมาจากปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง แต่มันยังมีอยู่ครับคนที่เขาตั้งใจทำงานและอยากช่วยพัฒนาประเทศชาติ ใน100คนไม่มีคนดี100คน ใน100คนก็ไม่มีคนเลว100คนเช่นกัน
แล้วทำไมถึงมาสนใจเล่นการเมือง?
ที่ผมสนใจมาเล่นการเมือง เพราะหากผมอยู่ในฐานะประธานสถาบันพัฒนาศักยภาพไทย-จีน ผมสามารถช่วยให้คนกลุ่มหนึ่งพัฒนาได้ แต่มันแค่กลุ่มบุคคลหนึ่ง แต่หากผมลงเล่นการเมือง แม้ว่าผมจะเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่ผมคือตัวแทนเสียงของประชาชน ผลักดันและทำในสิ่งที่เขาต้องการให้ผมช่วยได้ ผมว่ามันสามารถทำอะไรที่ยิ่งใหญ่และมีประโยชน์ได้มากขึ้น
แล้วมองการเมืองกับอนาคตประเทศไทยอย่างไร?
ผมมองว่ามันถึงเวลาแล้วครับกับการเปลี่ยนแปลง หลายๆคนเบื่อแล้วกับสิ่งเดิมๆ อนาคตทุกสิ่งก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำปัจจุบันว่ามันเต็มที่แล้วหรือยัง ผลลัพธ์มันก็จะออกมาตามการกระทำ นั่นเขาเรียกว่าอนาคต ผมคิดว่าประชาชนเขาตระหนักและรู้ค่าเห็นความสำคัญในคะแนนเสียงมากขึ้น
แม้ว่า ดร.พันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ยังไม่ได้ตัดสินใจเป็นเอกฉันท์ ในการเข้าสังกัดพรรคใดก็ตาม เพราะอยากเป็นสมาชิกพรรคที่มีนโยบายสอดคล้องกับแนวความคิดของเขา คือประเทศไทยยุคใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีและมาพัฒนาประเทศ มุ่งมั่นพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าทันตามนานาอารยประเทศ มากกว่าการมาถกเถียงเรื่องเดิมๆ ที่คาราคาซัง อยากให้คนไทยเป็นคนไทยยุค 4.0 อย่างแท้จริง และมองก้าวไปข้างหน้า มากกว่าที่จะคิดยึดติดกับภาพอดีต เขายังกล่าวว่า เขามีความเข้าใจในหัวอกประชาชนไทยที่ยากจน เทคโนโลยีที่นำมาใช้พัฒนาประเทศ ต้องพัฒนาศักยภาพคน และให้ความสำคัญในเรื่องปากท้องด้วย เพราะกว่าชีวิตจะสุขสบายเป็นที่ยอมรับทุกวันนี้ เขาเคยเป็นคนหนึ่งที่สู้ชีวิตและลำบากมาก่อนจนประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง “แค่ไพร่ธรรมดา แต่จะใช้ปัญญาให้เกิดประโยชน์ “ ส่วนพรรคไหนจะซื้อใจ ขงเบ้ง ติดดิน แต่สติปัญญาล้ำ คนนี้ได้เราคงต้องรอติดตาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี