แถลงข่าวยกระดับการเป็นพันธมิตรของแสนสิริกับองค์การยูนิเซฟ นำโดย อานันท์ ปันยารชุน, โธมัส ดาวิน, โกวิทย์ โปษยานนท์ และ อภิชาต จูตระกูล
องค์การยูนิเซฟ ประกาศยกระดับ แสนสิริ เป็นพันธมิตรแรกขององค์การยูนิเซฟในประเทศไทย ที่มีรายชื่ออยู่บนเว็บไซต์สากลของยูนิเซฟ เทียบ 20 องค์กรชั้นนำระดับโลกพร้อมเดินหน้าประกาศพันธกิจมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการให้ความสำคัญด้านการคุ้มครองสิทธิเด็ก และเชิญชวนสังคมไทยร่วมผนึกกำลังผลักดันความสำคัญเด็กสู่นโยบายระดับประเทศ
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)พร้อม องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวยกระดับการเป็นพันธมิตรของ แสนสิริ กับ องค์การยูนิเซฟสู่อีกขั้นกับ ยูนิเซฟส์ เฟิร์ส เซเล็คเต็ด พาร์ทเนอร์ (UNICEF’s First Selected Partner) นำโดย นายโกวิทย์ โปษยานนท์ประธานกรรมการ บริษัทแสนสิริจำกัด (มหาชน), นายอภิชาต จูตระกูล ประธานอำนวยการบริษัท แสนสิริจำกัด (มหาชน) นางสิรินทรา มงคลนาวินผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวางแผนองค์กรและพัฒนาความยั่งยืน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย, นายอานันท์ ปันยารชุนทูตสันถวไมตรี องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทยรวมทั้ง แสนสิริ โซเชียลเชนจ์แอมบาสซาเดอร์ กวิตา จินดาวัฒน์ และ พิตต้า ณ พัทลุง ร่วมงาน
สิรินทรา มงคลนาวิน
นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า แสนสิริ ลงนามเป็นพันธมิตรกับองค์การยูนิเซฟต่อเนื่องมาแล้วถึง 8 ปี โดยร่วมกันผลักดันโครงการต่างๆ เพื่อคุ้มครองปกป้องสิทธิและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กมามากกว่า 14 โครงการ ทั้งการพัฒนาความเป็นอยู่ สร้างความตระหนักด้านสิทธิเด็กและเยาวชนในประเทศไทย มุ่งเน้น เรื่องสุขภาพการศึกษา การกีฬา รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือไร้พรมแดน
“การที่เราจะคงจุดยืนองค์กรที่เป็นมิตรกับเด็กได้นั้น ต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งพันธมิตร องค์กรคู่ค้า และพนักงานทุกคนขององค์กร ที่ตระหนักและมีความรู้ความเข้าใจเรื่องสิทธิด้าน ต่างๆ ของเด็ก และเห็นร่วมกันว่าเป็นเรื่องจำเป็นของเราทุกคน ในการมอบโอกาสให้เด็กได้มีพื้นฐาน คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”
ทั้งนี้ ประเทศไทย ได้ลงนามร่วมกับภาคีนานาประเทศ ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กของสหประชาชาติ ตั้งแต่ปี 2553 เด็กจะมีสิทธิพื้นฐานอยู่4 ประการก็คือ สิทธิการมีชีวิตอยู่รอด (Right of Survival) สิทธิในการพัฒนา (Right of Development) สิทธิในการได้รับการคุ้มครอง (Right of Protection)และสิทธิในการมีส่วนร่วม (Right of Participation) โดยรัฐบาลไทยได้ขับเคลื่อนด้านสิทธิของเด็กอย่างเต็มที่ ด้วยการร่างแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561-2564ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี
นางสิรินทรา มงคลนาวินผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวางแผนองค์กรและพัฒนาความยั่งยืนบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าถ้ามองในแง่ตัวบทกฎหมาย การคุ้มครองสิทธิของเด็ก ในประเทศไทยก้าวหน้าเทียบเท่ากับสากล แต่ในทางปฏิบัตินั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอีกมากจึงเป็นเรื่องที่ดีหากองค์กรและภาคสังคมจะหันมาร่วมมือกันผลักดันให้เกิดผลสัมฤทธิ์ อย่างแท้จริง
“จะยังเห็นว่าเด็กที่ขาดโอกาส เด็กชายขอบ เด็กไร้สัญชาติ และชาติพันธุ์ทั้งหลายยังเข้าไม่ถึงสิทธิ พื้นฐานและยังไม่มีความเท่าเทียมกันมากเท่าที่ควร เช่น เด็กในสถานที่ก่อสร้างกว่า 60,000 คน เป็นกรณีที่เราเห็นได้ชัดเจนมากของการขาดพื้นที่ปลอดภัยในการดำรงชีวิต ขาดการศึกษา และ การบริการสาธารณสุขพื้นฐาน เราจึงทำพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กในสถานที่ก่อสร้าง หรือ The Good Space ร่วมกับองค์การยูนิเซฟ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งเราก็ได้รับความร่วมมือที่ดีมากจากองค์กรคู่สัญญาของเรา”
ในฐานะผู้ปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสังคม หรือ Social Change ของแสนสิริ นางสิรินทรา กล่าวถึงปัญหาการขาดโอกาสด้านการศึกษาของเด็กในชุมชนห่างไกลว่า “จากการลงพื้นที่ศึกษา ในเชิงลึกร่วมกับองค์การยูนิเซฟ ในเขตเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และ อุดรธานี พบปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของเด็กๆชนกลุ่มน้อยที่ไม่ได้แจ้งเกิดที่โรงเรียนมักจะไม่ยอมให้เข้าเรียน แสนสิริจึงร่วมกับองค์การยูนิเซฟดำเนินโครงการ EDUCATION FOR ALL การศึกษาเพื่อปวงชน ที่มีเป้าหมายพัฒนาร่างนโยบายการทำงานเพื่อบรรเทาปัญหา และความยากลำบาก ในการเข้าถึง การศึกษา และเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กจะมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน”
ด้าน นายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า แสนสิริ เป็นองค์กรแรกในประเทศไทย ที่ได้รับเลือกให้เป็น Selected Partner (เซเล็คเต็ด พาร์ทเนอร์) ของยูนิเซฟ ประเทศไทย ที่มีรายชื่ออยู่บนเว็บไซต์สากลของยูนิเซฟ จากการที่แสนสิริเป็นองค์กรที่มุ่งมั่นต่อการดำเนินนโยบายเป็นมิตรต่อเด็ก เราหวังว่าแสนสิริจะเป็นแรงบันดาลใจให้องค์กรธุรกิจอื่นๆ ดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรต่อเด็ก ผ่านการขับเคลื่อนทางกระบวนการธุรกิจเพื่อนำไปสู่การพัฒนาตัวเด็ก และธุรกิจที่ยั่งยืน ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้สังคมในระยะยาว อย่างไร้พรมแดน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี