ผมไปประเทศจีน ตั้งแต่สมัยยังเป็นคอมมิวนิสต์จ๋า พอผ่านไป สิบยี่สิบปีไปอีกหนเห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศจีนทางด้านวัตถุเกลื่อนรุงรังไปหมด พออีกห้าปีไปใหม่ คราวนี้จำสภาพเก่าหน้าเทียนอันเหมินไม่ได้เลย
ยิ่งพอมาวันนี้ได้ดูคลิปจาก สื่อออนไลน์ต่างๆ (ไม่ได้ไปเอง) พบว่า นี่เป็นประเทศจีนที่เราเคยพบเห็นหรือ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแบบหน้าเป็นหลัง ทั้งในเรื่องของ เทคโนโลยี สภาพความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
ทั้งๆ ที่ ความทรงจำของผม ยังจดจำคำพูดของผู้ใหญ่ในบ้านเรา เคยบอกว่า นิสัย หาเงินใต้โต๊ะ หรือที่คนจีนเรียกว่า เก๋าเจี๊ยะ เป็น อุปนิสัยคนจีนสมัยก่อนนำเข้ามาปลูกฝังให้กับคนไทย จนถึงทุกวันนี้ประเทศไทยยังติดอยู่กับวงจรอุบาทว์ นำพาประเทศชาติไปไหนไม่ได้เลย แต่ทำไม วันนี้ ผู้นำจีนลบล้างอุปนิสัยดั้งเดิมออกไปได้อย่างสิ้นเชิง แล้วนำพาประเทศชาติสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้เช่นนี้
ทำให้ผมอยากรู้จัก ตัวผู้นำประเทศ คือ “สีจิ้นผิง” ว่าเขามีจิตวิญญาณที่แตกต่างกับผู้นำประเทศของไทยอย่างไร เขาจึงทำได้อย่างนี้
“สีจิ้นผิง ยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ”เป็นหนังสือที่รวบรวมวาทะสำคัญของ “สีจิ้นผิง”ทั้งสุนทรพจน์ ปาฐกถา ถ้อยแถลงบทสัมภาษณ์ โอวาท นโยบาย จดหมายอวยพร และอื่นๆรวม 79 บทความ โดยมุ่งหมายในประเด็นหลักที่สังคมโลกให้ความสนใจเกี่ยวกับประเทศจีนในปัจจุบัน ทัศนะในการบริหารประเทศและนโยบายการปกครองของผู้นำ เพื่อตอบสนองความสนใจของสังคมโลก และสร้างการรับรู้ต่อสังคมโลกให้เกิดความเข้าใจในทัศนคติและแนวทางการพัฒนาประเทศ ตลอดจนนโยบายทั้งในและต่างประเทศของจีน ภายในเล่มมีการจัดเรียงเนื้อหาในแต่ละหัวข้อตามลำดับเวลา ที่ทำให้เพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสังคม ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของจีน ได้อย่างเป็นรูปธรรม และภายหนังเล่มยังรวบรวมภาพของสีจิ้นผิงในแต่ละสมัย ไว้ให้ดูอีกด้วย
จากภาพทั้งในอดีตและปัจจุบัน พบว่า เขาเป็นเด็กหนุ่มที่น่าตาหล่อเหลา เป็นที่ติดตาตรึงใจต่อผู้พบเห็น ซึ่งคุณสมบัติแบบนี้ คนไทยเราก็มี ผู้นำรูปหล่อ ผู้นำสมองโต ปัญญาเป็นเลิศแต่ทำไม จิตวิญญาณไม่เหมือนกัน
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนไทยทั้งประเทศควรอ่านเพราะอีกไม่กี่วัน เราก็จะมีการเลือกผู้นำคนใหม่กันแล้ว จะได้เลือกพวกที่มีจิตวิญญาณเป็นนักพัฒนา ไม่ใช่นักโกงกิน บ้านเมืองจะได้เจริญเสียที
ตีแผ่ชีวิตของนางโลมราชวงศ์ถังอย่างละเอียด นวนิยายยอดนิยมขายดี และคนจีนชอบอ่าน
“หงส์กรีดปีก”เป็น นิยายชีวิตในชุดบุปผาแห่งรัก เขียนโดย อู่เซี่ยน แปลเป็นไทยโดย เกาเฟย เป็นเหตุการณ์ในสมัยราชวงศ์ถังนางเอก ชิงเถียน เป็นนางคณิกา ที่สวยงามและโด่งดังและมีอิทธิพลมากในสมัยนั้น เนื้อเรื่องมีการตีแผ่ชีวิตของนางโลมอย่างละเอียดมีการช่วงชิงอำนาจ ของขั้วอำนาจสองฝ่ายในวัง มีคนอยากล้มอำนาจพระเอกซึ่งเป็นพระปิตุลาฮ่องเต้ และหลังจากผิดหวังจากคนรักนางเอกก็รักกับพระเอกซึ่งเขาก็หลงรักคณิกาคนนี้หมดใจ เรื่องเดินต่อไปอย่างเข้มข้น หลอกใช้กันไปหลอกใช้กันมา ระหว่างพระเอก อดีตคนรักนางเอก และแม่ฮ่องเต้ที่หลงรักพระเอก จนเกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ แล้วทุกคนก็ได้รับกรรมไปพร้อมเพรียงกัน เนื้อหาอ่านแล้วได้ความสนุกสนานแปลกใหม่ บรรยากาศก็สุขๆ เศร้าๆ ทั้งเรื่อง แต่ก็ชวนติดตาม อ่านแล้วรู้สึกจุใจเต็มอิ่ม สมกับเป็นนวนิยายยอดนิยมของจีน ราคาเล่มละ 300 บาท มีทั้งหมด 7 เล่ม
นวนิยายแฟนตาซี ที่มีเนื้อหาสาระเข้มข้น แฝงเนื้อหาการค้าขายและเศรษฐกิจยุคกลาง
“สาวหมาป่ากับนายเครื่องเทศ Spice & Wolf”บทประพันธ์ของ Isuna Hasekura เป็นนิยายแฟนตาซี ที่มีทั้งหมด 17 เล่มด้วยกัน ฉากเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นในยุคศตวรรษที่ 11-12 ตัวเอกได้แก่ “คารฟ ลอเรนส์” พ่อค้าเร่ ซึ่งได้พบกับเด็กสาวผู้มีใบหูและหางเป็นหมาป่า ชื่อ โฮโระ ซึ่งเธอขอเดินทางไปกับลอเรนส์ด้วย ทำให้การเดินทางของทั้งสองเกิดเรื่องราวขึ้น นิยายเรื่องนี้ถ้าให้เทียบกับหนังก็คงต้องบอกว่าเป็นแนว Road trip ที่เน้นเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ แม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นแนวแฟนตาซี แต่ก็ไม่มีอะไรแฟนตาซียกเว้นนางเอก เนื้อหาเรื่องราวเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการค้าขายในยุคกลางที่ค่อนข้างลึก ชวนติดตาม สนุกและยังเป็นแนวนวนิยายยุคก่อนที่ไม่ใช่ light novel สมัยใหม่ ราคาเล่มละ 250 บาท
สนุกสนานเพลิดเพลินตามแบบแฟนตาซีผจญภัย แฝงข้อคิดเรื่องมุมมองการตัดสินคนในสังคม
“กล้องส่องทางไกลเยือกแข็ง”เป็นเล่ม 1 ใน 3 ของ วรรณกรรมเยาวชน ผลงานเขียนของ Jennifer Bell นักเขียนชาวลอนดอน อังกฤษ เป็นการผจญภัยของพี่น้อง ไอวีกับเซบ และจูดี ที่เดินทางถึงเมืองของชาวไม่ธรรมดาที่ซ่อนอยู่ใต้นครนิวยอร์ก เพื่อช่วยวาเลียนค้นหาน้องสาวโรซี แต่กลับพบว่ามีคนต้องการตัวโรซี ที่เป็นกลุ่มคนชั่วร้าย เด็กๆ ต้องใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหาและปกป้องเมืองใต้ดินทั่วโลก ซึ่งหากมีการทำลายล้างก็จะส่งผลกระทบต่อชาวโลกและชาวบ้านธรรมดาอีกด้วย เป็นวรรณกรรมที่อ่านแล้วได้ความเพลิดเพลิน ส่งเสริมจินตนาการ และแฝงข้อคิดว่าไม่ควรตัดสินคนจากภายนอก เหมาะสำหรับเด็กอายุ 9 ปีขึ้นไป ราคาเล่มละ 225 บาท
งานประดิษฐ์สำหรับเด็ก พัฒนาทักษะสมอง EF กระบวนการ STEAM การแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล
หนังสือเสริมความรู้สำหรับเด็ก ชุด “ทำของเล่นเองหนูทำได้” มีทั้งหมด 4 เล่ม ได้แก่ หนังยางเด้งดึ๋ง หลอดจอมดูด ไม้หนีบผ้าทรงพลัง และไฟฉายสร้างเงา เป็นการสอนให้เด็ก4 ขวบ หาของเล่นจากสิ่งใกล้ตัว หาง่าย ประหยัด การทำของเล่นเองจะช่วยพัฒนาสมอง EF อาทิ ด้านริเริ่มลงมือทำ รู้จักวางแผน จัดระบบ ดำเนินการ ใจจดจ่อ ใส่ใจ การยั้งคิด ไตร่ตรอง การยืดหยุ่นทางความคิด และฝึกกระบวนการ STEAM โดยบูรณาการวิทยาศาสตร์และศิลปะเข้าด้วยกัน ทั้งยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ในกลุ่มเพื่อน ระหว่างทำของเล่นอีกด้วย ในเล่มมีวิธีทำและอธิบายค่อนข้างดี ทำตามได้ง่าย ภาพประกอบก็น่าสนใจ ดึงดูดความสนใจเด็กได้ดี ราคาเล่มละ 125 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี