ทุกวันนี้ พวกเราทุกคนเป็นนักบริหารจัดการกันแบบทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ เนื่องจากสังคมทุกวันนี้ซับซ้อนมากขึ้น คนเราต้องบริหารจัดการตัวเองให้เป็นระดับหนึ่งถึงจะอยู่รอด ประกอบกับธรรมชาติของคนที่พยายามดิ้นรนให้ตัวเองรอดพ้นจากปัญหาและอุปสรรคต่างๆมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ ดังนั้นคนเราจึงมีดีเอ็นเอของการเป็นนักบริหารจัดการกันอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะไม่รู้วิธีนำมาใช้

เก่งเรื่องคน เข้มเรื่องงาน บาลานซ์เรื่องชีวิต : The Rules of Management สุดยอด DNA แบบผู้บริหาร สร้างได้ด้วย 107 กฎทอง  ผู้เขียน Richard Templar (ริชาร์ด เทมพลาร์) เจ้าของผลงานเขียนที่มีผู้ติดตามกว่า 1,000,000 คน และเจ้าของหนังสือ International Bestseller หลายเล่ม ผู้แปล สมิทธิ์ เอกโชติ เป็นหนังสือที่ได้รวบรวมกฎการบริหารจัดการคน การงาน และและชีวิตเข้าไว้ด้วยกันโดยแบ่งเป็น 2 ด้านหลักคือ กฎการบริหารจัดการทีมงานที่มีทั้งหมด 37ข้อ เช่น การให้ทีมงานทำงานด้วยใจ การตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ การประชุมต้องสนุก ปั้นทีมงานให้เก่งกว่าเรา กระจายงานออกไปเพื่อท้ายลูกทีม ปล่อยให้ลูกทีมลองผิดลองถูก ปล่อยให้ทำเพื่อการจดจำ  ยืดอกรับคำตำหนิรับผิดแทนลูกน้องในทีม เป็นต้น  

ส่วนที่2 คือกฎการบริหารจัดการตัวเองในฐานะผู้บริหารมีทั้งหมด70ข้อ  อาทิ ทำงานหนักเข้าไว้ การอุทิศตนเพื่องาน การไม่ออมมือ มุ่งมั่น อย่าให้งานกลืนกินชีวิตส่วนตัว อย่าเอาความกังวลเรื่องงานกลับไปบ้าน ต้องรู้ตัวเสมอว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ต้องวางแผนชีวิตทั้งระยะสั้นระยะกลางและแผนระยะยาว ต้องมีความเสมอต้นเสมอปลาย  ใช้เวลาให้คุ้มค่าไม่ให้ใครมารบกวนเวลา ต้องมีแผนสำรองเพื่อพร้อมรับมือกับปัญหาที่จะเกิด  เผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง เป็นต้น

หนังสือเล่มนี้ถือว่าได้รวบรวมกฎทองในการบริหารจัดการทีมงานและตัวเองได้อย่างครบถ้วน กฎดังกล่าวเป็นเหมือนกลยุทธ์เคล็ดลับที่จะช่วยกระตุ้นให้คนเรานำเอาธรรมชาติของการเป็นนักบริหารมาจัดการใช้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด  และช่วยให้มีวิธีสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมงานคุณภาพ และให้เขาได้แสดงฝีมือกันออกมาอย่างจะแจ้ง ถือเป็นเคล็ดลับสำหรับการบริหารจัดการตัวเองและทีมงานอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลมากที่สุดอีกด้วย

กฎการบริหารจัดการของริชาร์ด เทมพลาร์ ก็เหมือนกับหนังสือกฎการดำเนินชีวิตด้านอื่นๆของเขา คือเป็นกฎที่ปฏิบัติได้ไม่ยากและก็ไม่ง่ายจนเกินไป หลายข้ออาจดูเหมือนว่าผลลัพธ์ไม่น่าออกมาดีได้ แต่เมื่อหมั่นฝึกฝนทุกวันก็จะรู้ว่ามีความเป็นไปได้

การบริหารจัดการเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ที่คนเราสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ และเป็นอาวุธสำคัญที่จะทำให้เราทุกคไปถึงเป้าหมายที่มุ่งหวังไว้ได้ ดังนั้นถ้าอยากสำเร็จ อย่ารอช้า มาเริ่มต้นเรียนรู้กฎต่างๆจากในหนังสือเล่มนี้กันได้

หนังสือ เก่งเรื่องคน เข้มเรื่องงาน บาลานซ์เรื่องชีวิต : The Rules of Management ลิขสิทธิ์ของ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) จำหน่ายเล่มละ 235 บาท

Frameworkการทำธุรกิจภาพใหญ่

ให้ประสบผลสำเร็จสูงสุด

“50 Marketing Framework มองการตลาดภาพใหญ่ให้ธุรกิจไปถูกทิศ” ผู้เขียน จิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์  นายกสมาคม MarTech Association Thailand  สมาคมที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและสนับสนุนผู้ประกอบการในการใช้งาน Marketing Technology การคิดเป็นภาพใหญ่ (Big Picture Thinking) คือการคิดที่มองเห็นภาพรวมที่เป็นระบบ และมีส่วนประกอบที่เชื่อมโยงจากภาพใหญ่ที่สุดไปหาส่วนที่ย่อยที่สุด ถือเป็นรูปแบบของการทำธุรกิจที่นำไปสู่ความสำเร็จได้เป็นอย่างดีอีกแนวคิดหนึ่ง  หนังสือเล่มนี้ จะทำให้ผู้อ่านเห็นภาพรวมของการตลาดทุกมิติเป็นภาพใหญ่ เพื่อผู้อ่านที่บริหารองค์กรจะสามารถนำไปเป็นไกด์ไลน์ทำธุรกิจอย่างเป็นระบบ และเพื่อให้รู้ว่าต้องอุดรูรั่วตรงไหน หรือขยายโอกาสเรื่องใดได้บ้าง พร้อมนำเสนอเคสจริงจากแบรนด์ระดับโลก การสร้างจุดขายให้แบรนด์และสินค้า ด้วยวิธีคิดแบบมองภาพกว้าง ฯลฯ นักการตลาด คอนเทนต์ครีเอเตอร์ สามารถใช้หนังสือเล่มนี้เป็นคู่มือในการเลือกกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับธุรกิจของตัวเองได้แบบไม่พลาดเป้า ทำให้ธุรกิจมียอดขาย รายได้ และกำไร เพิ่มมากขึ้นได้ หนังสือราคา 415 บาท

"บริษัทตัวคนเดียว"โมเดลธุรกิจ

ที่งานส่งเสริมอิสรภาพและชีวิตส่วนตัว

“บริษัทตัวคนเดียว : ทำไมการคิดเล็กจึงเป็นโมเดลธุรกิจแห่งอนาคต”  ผู้เขียน Paul Jarvis  ผู้แปลโชติกา โชติสรยุทธ์  "บริษัทตัวคนเดียว" คือชุดความคิดและโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจ ที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้นำองค์กร เพื่อให้องค์กรของตนเองมีคุณสมบัติที่ตลาดในปัจจุบันต้องการทั้งในแง่ของการคิดและการนำไปใช้จริงในธุรกิจ วิธีคิดนี้เป็นแบบแผนของการสร้างธุรกิจแบบลีน (Lean) และแบบแอไจล์ (Agile) ที่สามารถปรับตัวได้ว่องไว รับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้ นำไปสู่ชีวิตที่บริบูรณ์พูนสุขและมีความหมายมากขึ้น  หากผู้อ่านกำลังหาวิธีทำให้อาชีพการงานส่งเสริมอิสรภาพและชีวิตส่วนตัว โดยไม่ต้องการสละอย่างใดอย่างหนึ่งไป โมเดลธุรกิจ "บริษัทตัวคนเดียว" สามารถเปลี่ยนชีวิตให้เป็นไปได้ตามต้องการ โดยที่ยังคงมีพลังชีวิตให้เก็บเกี่ยวช่วงปั้นปลายได้อย่างล้นเหลือ หนังสือแปลแล้วกว่า 16 ภาษาทั่วโลก  ราคาเล่มละ 295 บาท

เทคนิคการพูดเรื่องยากให้เข้าใจง่าย

ตามแบบอย่างของคนเก่งตัวท้อป  

“พูดให้ง่าย ๆ คือไม้ตายของคนเก่ง 45 เทคนิคพูดเรื่องยาก ๆ ให้เห็นภาพและเข้าใจได้ทันที” ผู้เขียน

Park So Yeon (ปาร์คโซยอน) ผู้แปล อาสยา อภิชนางกูร พบกับ 45 วิธีสื่อสารด้วยไหวพริบทางภาษาที่ยอดเยี่ยมของคนเก่งตัวท็อป 0.1% ที่พูดอะไรก็ดูฉลาด เล่าเรื่องยาก ๆ คนก็เห็นภาพ และประทับใจ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของคนเก่งที่โดดเด่นเหนือคนเก่งอีกที ไม่ว่าเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ยากหรือง่ายแค่ไหน พวกเขาเหล่านี้ "พูดจาให้คนฟังง่าย ๆ เข้าใจกระจ่างชัด" ไม่ว่าตอนอธิบาย ตอนรายงาน ตอนสั่งงาน ตอนประชุม ตอนแก้ปัญหา ตอนหว่านล้อมจูงใจ ตอนที่ต้องนำเสนอผลงาน ไปจนถึงตอนเจรจาต่อรองกับอีกฝ่ายที่ดูเหมือนไม่มีทางเอาชนะใจ  ทักษะการสื่อสารดังกล่าวต้องเรียนรู้เหมือนการเรียนภาษาต่างประเทศ  "ปาร์คโซยอน" ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ได้ใช้เวลาตลอดชีวิตการทำงานคลุกคลีอยู่กับคนเก่งแถวหน้าที่มีเพียง 0.1% ของเกาหลีใต้ ตั้งแต่ซีอีโอในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung, LG, Hyundai และอีกมากมาย และได้รวบรวมและถ่ายทอดออกมา มาเป็น 45 เทคนิคการสื่อสารเหนือชั้นดังกล่าว ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้บริหาร หรือทุกคนที่อยากจะสำเร็จด้านการสื่อสาร หนังสือราคา 395 บาท

การคิดบวกไม่ได้แก้ปัญหาเสมอไป

อาจกลายเป็นพิษหากใช้ไม่เหมาะสม

“คิดบวกเป็นพิษ : Toxic Positivity” ผู้เขียน Whitney Goodman ผู้แปล วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ ทุกวันนี้ "คิดบวก" กลายเป็นสูตรสำเร็จบนโลกสมัยใหม่ที่คนยุคนี้ใช้ในการแก้ปัญหา แต่คนเราส่วนใหญ่ก็ยังคงเศร้าซึม ไร้สุข และรู้สึกตายด้านลึก ๆ อยู่ข้างใน  การกระตุ้นให้มองหาแต่แง่ดีของปัญหา ดูเหมือนยิ่งทำให้กังวล และหมกัญหาไปในห้วงความทุกข์หนักกว่าเดิม  สถานการณ์แบบนี้ คือผู้คนกำลังติดกับดักของ "ภาวะคิดบวกเป็นพิษ" โดยไม่รู้ตัว หนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนซึ่งเป็นนักจิตบำบัดชื่อดังได้ค้นพบความจริงที่ว่า การคิดบวกไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องเสมอไป และอาจกลายเป็น "ยาพิษ" เมื่อใช้มันผิดที่ผิดเวลา เธอจึงค้นคว้างานวิจัยมากมายเพื่อตีแผ่มายาคติแห่งการคิดบวกที่ทำร้ายคนทั่วโลก รวมทั้งแนะนำวิธีจัดการความทุกข์ที่ดีกว่าการพึ่งพาคำคมเท่ ๆ หรือการมองโลกในแง่ดี เมื่อเข้าใจและรู้เท่าทันภาวะคิดบวกเป็นพิษ ก็จะมองเห็นความรู้สึกของตัวเองและคนอื่นได้ชัดเจนขึ้น โดยไม่ต้องกดข่มอารมณ์ไว้เพื่อหลอกตัวเองว่ามีความสุขอีกต่อไป และนี่คือจุดเริ่มต้นของการจัดการทุกปัญหาอย่างแท้จริง "มนุษย์" ไม่จำเป็นต้องต้องมีความสุขตลอดเวลา เรามีพื้นที่ให้ทั้งสำหรับด้านดี ด้านร้าย และสิ่งที่อยู่ตรงกลางระหว่างนั้น ความ "สมดุล" เหล่านี้ต่างหากคือคำตอบของชีวิตดี ๆ ที่แท้จริง หนังสือราคา 375 บาท