ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ได้นำมาถ่ายทอดผ่านผลงานการประกวดภาพวาด ภาพยนตร์สั้น และโมเดลศาสตร์พระราชา ใน “โครงการปลุกจิตสำนึก รู้คุณแผ่นดิน ปีที่ 7” ที่จัดขึ้นโดยกรมกิจการพลเรือน ทหารบก ประจำปี 2561 เพื่อเข้าถึงความหมายของ “ศาสตร์และศิลป์แห่งการพึ่งพาตนเอง”เป็นการ “สุขอย่างพอเพียงและยั่งยืน” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรได้พระราชทานไว้เป็นมรดกชาติ และของปวงชนชาวไทย
มอบรางวัลการประกวดภาพวาด ภาพยนตร์สั้น และโมเดลศาสตร์พระราชา
การประกวดผลงานภาพวาด ภาพยนตร์สั้นและโมเดลศาสตร์พระราชา ตามโครงการปลุกจิตสำนึกปีที่ 7 ภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ในปีนี้ มีผู้ร่วมส่งผลงานเข้าชิงชัยจากเยาวชน คนรุ่นใหม่ และประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสิ้น2,705 ชิ้นงาน จัดประกวดรวม 5 ระดับ คือ ประถมศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย อุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป ผลงานการประกวดภาพยนตร์สั้น 90 วินาที รวม 159 ชิ้นงาน แบ่งเป็นระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป และผลงานโมเดลศาสตร์พระราชาทั้งหมด 93 โครงงาน แบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษา อุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป และได้นำมาจัดแสดงในงานนิทรรศการ “รู้คุณแผ่นดิน” ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมา
ด.ญ.อัยย์ลาณี แลงกาสแคนส์ นักวาดภาพรุ่นจิ๋ว นักเรียนชั้นประถมปีที่ 3 จากสถาบันเกษตร อาร์ต สตูดิโอ ผู้ชนะเลิศภาพวาดในระดับประถมศึกษา กล่าวว่า“หนูใช้เทคนิคสีไม้ สีน้ำและจุดสีผสมกัน วาดภาพบ้าน ต้นไม้ ที่นา ปลา และธรรมชาติในชนบทที่เรียบง่ายมีการเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงปลา และปลูกข้าวไว้กินเองตามเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ดีใจที่ได้วาดภาพเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ค่ะ”
ผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้น
ส่วนภาพวาดชนะเลิศระดับประชาชน บอกเล่ารายละเอียดวิถีชีวิตชนบทไทย ผ่านการใช้เทคนิคงานพิมพ์แกะไม้ (woodcut) ก่อนพิมพ์ลงผืนผ้าที่รองพื้นด้วยดินสอพองผสมซึ่งเป็นเทคนิคส่วนตัว เจ้าของผลงาน มานะชัย วงษ์ประชา ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยศิลปากร เล่าว่า “ผมได้เห็นในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงานหนักในการพัฒนาและผลักดันโครงการมากมายไปสู่ประชาชนที่อยู่ห่างไกลเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะโครงการในพระราชดำริฯ ที่พระองค์ท่านทรงริเริ่มและทำเพื่อพัฒนาภาคอีสานมากมาย ในฐานะลูกอีสานคนหนึ่งจึงอยากสะท้อนให้เห็นภาพผู้คนในชนบทที่ดำรงชีวิตอย่างมั่นคง และยั่งยืน เพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ตลอดจนความสุขที่เกิดจากการน้อมนำหลักของการพึ่งพาตัวเองที่ได้ทรงชี้ทางไว้มาเป็นแนวในการดำเนินชีวิต”
เยาวชนผู้ชนะรางวัลโมเดลศาสตร์พระราชา
ด้านรางวัลชนะเลิศภาพยนตร์ 90 วินาทีในระดับอุดมศึกษา เป็นของทีมแก้วตาดวงใจ จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพทรงเปียโนของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง “ซิมโฟนี ออน ดิวตี้(Symphony on Duty)” คุณาวุธ กุณานัย ตัวแทนจากทีมแก้วตาดวงใจ กล่าวว่า “ต้องการสื่อ “ให้คนไทยทุกคนรู้จักและทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้อง” เปรียบคนไทยหนึ่งคนเสมือนโน้ตดนตรีหนึ่งตัว ถ้าโน้ตแต่ละตัวต่างทำหน้าที่ให้ดีที่สุดด้วยการบรรเลงให้ถูกต้องตรงตามจังหวะ ก็จะสามารถสร้างสรรค์บทเพลงที่มีความไพเราะได้ คนไทยทุกคนก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นใคร ประกอบอาชีพอะไร หรืออยู่ที่ไหนในประเทศไทย ขอเพียงให้เราต่างคนต่างรู้จักหน้าที่ของตัวเอง และทำหน้าที่นั้นอย่างถูกต้อง อย่างเต็มความสามารถ ย่อมมีส่วนช่วยพัฒนาประเทศของเราให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างงดงาม ในการถ่ายทำเราใช้ภาพแต่ละภาพในการบอกเล่าการทำหน้าที่ของผู้คนแต่ละอาชีพ นำมาร้อยเรียงต่อกันจนกลายเป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์ และด้วยเพลงประกอบภาพยนตร์ “ซิมโฟนี ออน ดิวตี้” ที่แต่งขึ้นเอง”
เยาวชนร่วมงานนิทรรศการรู้คุณแผ่นดิน กับนักร้อง เก่ง-ธชย ประทุมวรรณ
สำหรับ “โมเดลศาสตร์พระราชา” ซึ่งจัดประกวดขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นการประกวดรูปแบบใหม่ที่เน้นการนำหลักวิชาของพระองค์ท่าน ไปสู่ “การคิดค้นโครงงานที่ปฏิบัติได้จริง” และ “เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม” หนึ่งในโครงงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษา เป็นผลงานสร้างสรรค์จากน้องๆ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 จากโรงเรียนบางประกอกวิทยาคม ในชื่อโครงงาน “วอล์กเกอร์ แชร์ (Walker Chair)” หรือ เก้าอี้พยุงเดินสำหรับผู้สูงอายุ ธนากร ทวีปัญญานุกูล อธิบายถึงโครงงาน“วอล์กเกอร์ แชร์” ว่า “มองว่าแนวโน้มของประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะประสบปัญหาการเดินที่ค่อนข้างลำบาก ไม่คล่องตัว วอล์กเกอร์ แชร์ ที่ขายในท้องตลาดมีราคาสูง จึงร่วมกันกับเพื่อนๆ อีก 9 คน คิดโครงงานประดิษฐ์ วอล์กเกอร์ แชร์ จากไม้ไผ่ ซึ่งเป็นวัสดุเบา หาได้ในท้องถิ่น และมีราคาไม่แพง เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้สูงอายุที่พอมีกำลังทรัพย์หาซื้อไว้ใช้ได้เอง รวมทั้งเป็นการแบ่งเบางบประมาณรัฐในการจัดหาอุปกรณ์ดังกล่าวให้กับผู้สูงอายุที่ขาดทุนทรัพย์ หรือมีฐานะยากจน”
ผลงานข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลงานที่ร่วมกันถ่ายทอด“ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ที่เน้นการลงมือทำ จากมุ่มมองของเยาวชนและคนรุ่นใหม่ ที่พร้อมใจกันถ่ายทอดและน้อมนำศาสตร์พระราชามาเป็นแนวทางปฏิบัติในการดำรงชีวิตเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ อีกทั้งยังซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี