บี มาย เกสท์ : ปลุกชีวิตให้ร้าน kanom  ความท้าทายครั้งใหม่ของซีอีโอหน้าเด็ก  พอลล่า-ภรวรรณ อภิธนาคุณ

บี มาย เกสท์ : ปลุกชีวิตให้ร้าน kanom ความท้าทายครั้งใหม่ของซีอีโอหน้าเด็ก พอลล่า-ภรวรรณ อภิธนาคุณ

วันจันทร์ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.
Tag :

ปลุกชีวิตให้ร้าน kanom

ความท้าทายครั้งใหม่ของซีอีโอหน้าเด็ก

พอลล่า-ภรวรรณ อภิธนาคุณ

เห็นหน้าใสๆ เหมือนหญิงสาววัย 30 ต้นๆ แต่ พอลล่า-ภรวรรณ อภิธนาคุณ ไม่ใช่นักธุรกิจหน้าใหม่ เพราะในอดีตเธอคือ “เจ้าแม่วงการเกม” ผู้มีส่วนสำคัญที่ทำให้วงการเกมดิจิทัลเมืองไทยคึกคัก อันเป็นธุรกิจของตระกูล “อภิธนาคุณ” ภายหลังเมื่อสามารถนำธุรกิจของครอบครัวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ เธอจึงตัดสินใจขอลาออกจากธุรกิจครอบครัว เพื่อมาเดินบนเส้นทางชีวิตที่เลือกด้วยตัวเอง และเมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งเปิดตัวในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ขนมแฟคตอรี่ (1999) จำกัด เจ้าของแบรนด์ขนมชื่อดังอย่าง “kanom” ที่มีซิกเนเจอร์ยอดนิยมคือ“ทาร์ตไข่” นั่นเอง

“เมื่อก่อนก็เป็นลูกค้าคนหนึ่งของร้าน การได้มาเป็นเจ้าของแบรนด์เรียกว่าเป็นโอกาสที่ดี มีการวางแผนเป็น Road map 5 ปี เริ่มจากRe-Branding ตั้งแต่กลางปีก็มีการรีโนเวทบางสาขาไปแล้วให้แตะกลุ่มวัยรุ่น ให้มีความสดใสเข้าถึงง่าย ส่วนเมนูขนมก็มีการเพิ่มความหลากหลายอย่างเมนูซิกเนเจอร์ทาร์ตไข่ นอกจากสูตรปกติ ก็จะมีทาร์ตไข่ที่เป็น seasonal มากขึ้น เช่น ออเร้นจ์ทาร์ต บลูทาร์ต ทาร์ตไข่ขาวเอาใจคนรักสุขภาพแต่ชอบทานขนม ยังมีขนมอีกหลายเมนูที่ไม่ได้รับการโปรโมทจากนี้ไปก็จะเริ่มเห็นเมนูต่างๆ มาขึ้น อีกจุดหนึ่งคือ packaging ที่เหมาะสำหรับการซื้อเป็นของขวัญของฝาก อะไรที่เป็นจุดแข็ง เป็นจุดเด่นของแบรนด์ก็ยังคงไว้อยู่ ส่วนไหนที่มองเห็นว่ามันยังไปได้เราก็ไปพัฒนาตรงนั้น ปีหน้าตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายสาขาเพิ่มให้ได้ 25 สาขาและต่อด้วยการขยายสาขาไปยังต่างประเทศด้วย”


แม้จะไม่เคยอยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารมาก่อน แต่ด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่เคยทำให้ธุรกิจกงสีและธุรกิจของคนอื่นประสบความสำเร็จมาแล้ว อีกทั้ง โอกาสมาถึง เธอจึงไม่รอช้าที่จะคว้าไว้

“ที่ออกจากธุรกิจกงสีของที่บ้าน เพราะอยากมีเส้นทางชีวิตของตัวเอง อยากทำอะไรที่ท้าท้ายที่เป็นตัวของตัวเอง การตัดสินในซื้อแบรนด์ kanom มาทำ พี่ไม่ได้มาเล่นๆ แน่นอนอีกอย่างพี่คิดว่าเจ้าของเดิมเขาก็ต้องศึกษาตัวเราเหมือนกันว่าจะไม่ทำแบรนด์ของเขาเสีย เขาถึงยอมขาย และจากประสบการณ์ที่เคยทำธุรกิจกงสี เป็นผู้บริหารองค์กรใหญ่ๆ ผ่านงานมาทั้งหน้าบ้าน หลังบ้าน เรารู้งานทุกส่วนของการสร้างธุรกิจเป็นอย่างดี ที่สำคัญคือเรามีแผนธุรกิจที่ชัดเจน จุดเด่นของแบรนด์คือเป็นธุรกิจของคนไทย 100% มองว่าเราจะทำมันให้มันน่ารัก ให้คงอยู่กับคนไทยแล้วก็ขยายไปต่างประเทศ ในรูปแบบที่มันลงตัวได้อย่างไร นี่คือสิ่งท้าทายตัวเองในการหาโซลูชั่นที่จะทำให้ธุรกิจเป็นไปตามที่ตั้งไว้”

ตั้งแต่มาเป็น ซีอีโอ คนใหม่ของแบรนด์ kanom ทำให้เธอต้องตระเวนชิมอาหารและขนมเป็นว่าเล่น รวมถึงมีส่วน
ในการพัฒนาสูตรของแบรนด์เอง ซึ่งน่าจะทำให้น้ำหนักขึ้นหลายกิโลกรัม แต่เมื่อได้เจอตัวจริงต้องขอบอกว่า ฟิตแอนด์เฟิร์ม มากๆ

“เป็นคนชอบทาน แต่ไม่อ้วนมาแต่ไหนแต่ไร แล้วก็เป็นคนทำงานหนัก ใช้ร่างกายและสมองเยอะ จนวันหนึ่งรู้สึกว่า
ไม่ไหว มันผอมก็จริง แต่ไม่โอเค จนมาเริ่มออกกำลังกายเมื่อไม่กี่ปีนี่เอง แล้วก็ติดกลายเป็นนิสัยว่าต้องออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 4-5 วัน หลักๆ คาร์ดิโอ บอดี้เวท ต่อยมวย ว่ายน้ำ พอมาทำธุรกิจอาหารกลายเป็นว่า ยิ่งกินยิ่งผอม เพราะเลือกกินอาหารที่มี Nutrition ที่ดี แล้วก็มีระเบียบวินัยเรื่องการกินมากขึ้น บวกกับการออกกำลังกาย แม้จะผอมแต่ผอมแบบฟิตแอนด์เฟิร์ม และมีสุขภาพดีขึ้นด้วยค่ะ”

ถ้าบอกว่าซีอีโอสาวเก่งคนนี้อายุจะขึ้นเลข 5 ในอีก 2 ปีข้างหน้า หลายคนคงไม่เชื่อแน่นอน จึงต้องถามเคล็ด(ไม่)ลับ “หน้าเด็ก หน้าใส” ของเธอ

“ตอนที่เป็นวัยรุ่นยี่สิบปลายๆ พี่เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Maturity เป็นหนังสือเกี่ยวกับการบรรลุวุฒิภาวะทางอารมณ์ สิ่งเดียวที่จำได้จากหนังสือเล่มนี้คือ “การกลับไปสู่ความเป็นเด็ก” เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากลับไปสู่ความเป็นเด็ก หน้าตาเราเป็นผู้ใหญ่ก็จริง แต่ความเป็นเด็กจะฉายแววออกทางดวงตา ตั้งแต่นั้นก็สะกดจิตตัวเองไว้เลยว่าเราอายุแค่ 26 เชื่อว่าทุกคนมีความเป็นเด็กในตัวเอง เราต้องดึงออกมา สนุกกับมัน และความเป็นเด็กทำให้เรามีพลังที่จะทำอะไรใหม่ๆ มีความแอ๊กทีฟอยู่เสมอ ทุกอย่างอยู่ที่ Thinking หรือ ความคิดของเรา เวลามีใครทักว่าหน้าเด็ก บางทีก็มีคิดว่าเราจะ 50 แล้วเหรอ ยังคิดว่าตัวเองยัง 26 อยู่เลย สุดท้ายมันอยู่ที่ Maturity ข้างใน ที่มันจะสื่อด้วยสายตา สื่อด้วยบุคลิกท่าทางที่ออกมาจากข้างในมากกว่า การเป็นซีอีโอไม่จำเป็นต้องดูท็อปฟอร์ม ผมเป็นกระบังหรอก แต่เป็นธรรมชาติอย่างที่เราเป็นนี่แหละค่ะ”

ในการดำเนินชีวิต หรือแม้แต่การทำงาน “ธรรมะ” คือสิ่งที่ เวิร์กกิ้งวูเมน คนนี้เลือกใช้ “ทุกอย่างมันมีพื้นฐานจาก
หลักธรรมทั้งหมด ในการทำงานเราต้องเป็นผู้นำ ต้องบริหารคนซึ่งธรรมะมันใช้ได้จริงๆ พี่เป็นคนที่ทำงานเยอะ ทำเร็ว และทำตามแผนที่วางไว้ แต่เวลาที่งานมีปัญหาเราก็ต้องผู้ฟังที่ดี ฟังแล้วช่วยกันหาทางแก้ไขในระยะสั้น กับการใช้ชีวิตก็เช่นกัน คิดดีทำดี ถ้าเราเข้าใจว่าเหตุเกิดตรงไหนก็แก้ตรงนั้น มันมีอยู่แค่นั้นจริงๆ ไม่ใช่คนแก่วัดนะคะ แต่เวลาเดินทางไปไหนถ้ามีวัดก็แวะทำบุญ และจะไปวัดเวลาที่มีความสุขเท่านั้น ถ้ามีทุกข์ มีปัญหาไม่ไปวัดนะ เพราะไปวัดตอนที่ทุกข์มันร้อนรน มันไมใช่ เอาเวลาไปแก้ปัญหาก่อนดีกว่า แต่ถ้าเรามีความสุขการไปวัดคือการไปแบ่งบุญ มันสบายใจมากกว่า มีความสุขมากกว่า”

เธอคนนี้ไม่ได้เป็นเพียง เวิร์กกิ้งวูแมน ที่ประสบความสำเร็จในการทำงานเท่านั้น แต่เธอยังเป็น ซิงเกิ้ลมัมของลูกสาว 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้น จูเน่ NBK48 ไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังแห่งยุค

“เลี้ยงลูกเหมือนเพื่อนเลยค่ะ ให้อิสระกับลูกๆ ไม่มีกรอบอะไรเลย ไม่ใช่แม่ลูกที่ตัวติดกัน ตามรับตามส่งแบบนั้นค่ะ 
แต่เมื่อไหร่ที่ลูกต้องการแม่ ลูกจะรู้ว่าแม่อยู่ตรงนี้เสมอ ซึ่งลูกๆ เขาก็เป็นเด็กดี รู้หน้าที่ของตัวเอง สิ่งที่ปลูกฝังเขาคือให้เขารู้จักที่จะต้องมีเป้าหมายในชีวิตตัวเอง สองคนแรกหายห่วงแล้ว คนโตอยากเป็นหมอ เขาก็ทำได้ คนที่สองจูเน่ เขาอยากเข้าวงการบันเทิง เขาก็ทำได้ ส่วนคนเล็กฝันเขาใหญ่มากอยากเป็นนักบินอวกาศ ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม แต่ถ้าทำได้ แม่ก็ต้องชมตัวเองนะว่าเราก็เก่งเหมือนกันที่เลี้ยงลูกให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างที่เขาต้องการ”

ไม่ว่าจะบทบาทไหน เธอก็ล้วนทำด้วย Passion และทำอย่างมีความสุข เพราะเธอเชื่อว่ามันจะส่งผลสำเร็จได้อย่างงดงาม สำหรับแบรนด์ kanom ก็เช่นกัน ที่เธอหวังไว้ว่าจะเป็นแบรนด์อาหารและขนมอันดับหนึ่งในใจนักชิมทั้งชาวไทยและชาวโลกในเร็ววัน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top