Antonio Soares dos Reis นักประติมากรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 19 ชาวโปรตุเกสนี้ เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 1847ณ Cristovao de Mafamunde, Vila Nova de Gaia เขาเป็นบุตรของ Manuel Soares Junior เจ้าของร้านขายของชำที่ค่อนข้างจะเจ้าระเบียบ เขาเป็นผู้มีความสามารถทางด้านศิลปะตั้งแต่เด็กโดยเริ่มสร้างสรรค์งานศิลปะจากดินตากแห้งภายในสวนหลังบ้าน Diago de Macedo และ Resende จิตรกรเพื่อนบ้านเห็นผลงานของเขาจึงหว่านล้อมบิดาให้ส่งเขาไปเรียนศิลปะเมื่ออายุได้เพียงแค่ 14 ปี เขาสามารถเข้าเรียนศิลปะและได้รับรางวัลและคำชมเชยมากมายตั้งแต่เรียนจวบจนจบการศึกษาโดยได้รับรางวัลที่หนึ่งทั้งในด้านภาพร่าง สถาปัตยกรรมและประติมากรรม เมื่อจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยด้วยผลงานยอดเยี่ยม เขาจึงได้รับทุนการศึกษาให้ไปเรียนต่อที่ปารีสและได้เข้าฝึกอบรมปฏิบัติการกับ M.Jouffroy ที่ Ecole Imperiale et Speciale des Beaux Arts และสามารถชนะรางวัลในการแข่งขันได้อีก แต่เมื่อเกิดสงคราม Franco-Prussia เขาตัดสินใจกลับโปรตุเกส แต่ทางมหาวิทยาลัยบังคับเขาไปเรียนต่อที่โรมจนจบ ที่โรมนี่เองที่เขาได้สร้างงานmasterpiece อันเลื่องชื่อให้ตัวเองที่ชื่อว่า The Exile
ห้องแสดงประติมากรรม
เมื่อเขากลับมาโปรตุเกสในปี 1872 เขาได้รับความชื่นชมอย่างมากจากมหาวิทยาลัยและได้รับแต่งตั้งให้ทำงานใน Porto Academy of Fine Arts จนถึงปี 1880 เขากลายเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งArtistic Center ในปอร์โต และได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยที่ทำงานอยู่อันเป็นผลมาจากการที่เขาส่งเสริมงานด้านประติมากรรมให้กับประเทศ ความมีชื่อเสียงของเขาเปิดโอกาสให้เขาได้สร้างสรรค์งานจำพวกอนุสาวรีย์ เช่น AfonsoHenriques และงานประติมากรรมศีรษะของผู้มีชื่อเสียงจำนวนมาก นอกจากนี้เขายังชนะรางวัลที่หนึ่งเหรียญทองในการแข่งขัน General Fine Arts Exhibition ที่แมดริดสเปน และได้รับรางวัลอัศวินจากพระเจ้า Alphonse ที่ 13 แห่งสเปน
Conde de Ferreira by Antonio Soares dos Reis
แม้เขาจะดูประสบความสำเร็จ ได้รับรางวัลและการยกย่อง แต่กลับมีข่าวลือตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่า เขาไม่ได้เป็นคนรังสรรค์ผลงานเองที่ได้รับรางวัลเอง เขาจึงรู้สึกซึมเศร้าและเริ่ม เจ็บป่วยโดยมีอาการผิดปกติทางด้านสมองและหงุดหงิดง่ายจนแยกตัวออกจากสังคม ในปี 1885 เขาตัดสินใจแต่งงานกับ Amelia Aguiar de Macedo และมีบุตรด้วยกันสองคน ความแตกต่างกันทางด้านธรรมชาติ การศึกษา และชีวิตทั่วไป ระหว่างเขาและภรรยาทำให้ทั้งสองทะเลาะกันเป็นประจำ ความเครียดเรื่องงานและเรื่องครอบครัวทำให้เขาตัดสินใจยิงตัวตายในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 1889ในห้องทำงานตัวเองโดยทิ้งจดหมายลาตายไว้ว่าเขาเป็นคริสเตียน แต่เขาทนมีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้ว เขาขอโทษทุกคนที่เขาทะเลาะด้วย แต่เขาไม่สามารถยกโทษคนที่ทำร้ายเขาได้
Exiled by Antonio Soares dos Reis
Antonio Soares dos Reis จากโลกนี้ไปด้วยอายุเพียงแค่ 42 ปี โดยทิ้งผลงานเด่นที่สุดไว้กับมิวเซียมที่ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา นั่นคือ Exiled ผลงาน masterpiece ที่เขารังสรรค์ในโรมในปี 1872 และได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทองในการแข่งขันที่ Madrid World Fair ในปี 1881 นี้เขาได้รับแรงบันดาลใจจากบทกวีชื่อ Exile ของ Alexandre Herculano นักท่องเที่ยวที่มาเยือนมิวเซียมจะเห็นว่า ผลงานแนว Romaticism ที่มีความอ่อนช้อยเหมือนจริงมากตั้งแต่ผม แววตา ผิวพรรณ กล้ามเนื้อ การไขว้กันของมือ และคลื่นในทะเลที่ตัวละครนั่งอยู่ชิ้นนี้คู่ควรกับรางวัลจนส่งผลให้ศิลปินเป็นนักประติมากรรมที่ยิ่งใหญ่แห่งยุคจริงๆ
นอกจากงานเด่นของ Soares dos Reis แล้วมิวเซียมแห่งนี้ยังมีงานประติมากรรมมากถึง 700 กว่าชิ้นโดยเป็นงานตั้งแต่ยุคกลางจนถึงปัจจุบัน งานส่วนหนึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์ของเมืองซึ่งเป็นผลงานจากการเรียนการสอนของภาควิชาประติมากรรมของ Academia Portuense de Belas Artes หรือ Belas Artes da Universidade do Portoที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Antonio Soares dos Reisนั่นเอง
Exiled by Antonio Soares dos Reis
Ismael by Augusto Santo
St. Joseph by Antonio Soares dos Reis
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี