ศาสตราจารย์ นายแพทย์จตุพล ศรีสมบูรณ์, นายแพทย์ณัฐวุฒิ กันตถาวร พร้อมด้วยแพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ และ บูม-สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง
วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับโรงเรียนนักอัลตราซาวนด์ทางการแพทย์ และสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย บูรณาการความร่วมมือสร้างเสริมสุขภาพให้สตรีไทยได้ตระหนักรู้ถึงการป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสเอชพีวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูกที่คร่าชีวิตสตรีไทยเฉลี่ยถึงวันละ 14 คน ทั้งๆ ที่มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่ป้องกันได้ ภายใต้แคมเปญรณรงค์ “Wake up สตรีไทย ปลอดภัยไร้มะเร็งปากมดลูกรู้ไว้ป้องกัน HPV” ซึ่งภายในงานได้มีการจัดเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับเชื้อไวรัสเอชพีวีและวิธีป้องกันสตรีไทยให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์จตุพล ศรีสมบูรณ์ นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย และ นายแพทย์ณัฐวุฒิ กันตถาวร อาจารย์คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์และหัวหน้าศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์พร้อมด้วย แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ และ บูม-สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง ที่ได้มาร่วมแบ่งปันเรื่องราว และเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมรณรงค์ให้ประเทศไทยปลอดภัยไร้มะเร็งปากมดลูกในโครงการดังกล่าว นอกจากนี้ ยังให้บริการตรวจเช็คสุขภาพ และให้คำปรึกษาด้านโรคทางนรีเวชแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อเร็วๆ นี้ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
พลอากาศตรี นายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค เป็นประธานเปิดงาน
พลอากาศตรี นายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภครักษาการรองอธิการบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ฝ่ายสนับสนุนและพัฒนาโครงการใหม่ ประธานในพิธีเปิดโครงการรณรงค์ กล่าวว่า “โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ในฐานะที่เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางชำนาญการด้านโรคมะเร็งที่ได้สืบสานการดำเนินงานตามรอยพระปณิธานอันแน่วแน่ใน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ทรงมุ่งหวังให้โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นศูนย์ชำนาญการด้านการศึกษา การวิจัย และการรักษาโรคมะเร็งของประเทศไทย ด้วยบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญ พร้อมเทคโนโลยี และเครื่องมือที่ทันสมัย ยกระดับการรักษาให้ทัดเทียมนานาประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทยที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็ง รวมถึงผู้ป่วยยากไร้ให้ได้รับการดูแลบำบัดรักษาอย่างมีคุณภาพได้มาตรฐาน และในโอกาสที่เดือนมกราคมเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งปากมดลูกสากล วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับโรงเรียนนักอัลตราซาวนด์ทางการแพทย์ และสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย จึงได้จัดโครงการบริการทางการแพทย์ด้านโรคทางนรีเวชพร้อมกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกภายใต้แนวคิด “Wake up สตรีไทย ปลอดภัยไร้มะเร็งปากมดลูก รู้ไว้ป้องกัน HPV” เพื่อรณรงค์สร้างเสริมสุขภาพ และให้สตรีไทยได้ตระหนักและป้องกันภัยจากโรคมะเร็งปากมดลูก อีกทั้งในปีพ.ศ. 2562 นี้เป็นปีที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ของการเปิดดำเนินงาน ศูนย์สุขภาพสตรี จึงได้จัดกิจกรรมบริการตรวจเช็คสุขภาพและให้คำปรึกษาด้านโรคทางนรีเวช อาทิ ตรวจอัลตราซาวนด์เชิงกรานสตรี ตรวจมวลกระดูกพร้อมปรึกษาอาการวัยทอง แก่ประชาชนตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรมทั้ง 2 วัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย”
ศาสตราจารย์ นายแพทย์จตุพล ศรีสมบูรณ์ นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่า “จากสถิติทั่วโลกนั้นมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งในสตรีที่พบเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ซึ่งรวมทั้งในประเทศไทย โดยในปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมาพบผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกรายใหม่มีมากถึง 8,600 รายต่อปี หรือในทุกๆวันจะมีผู้ป่วยรายใหม่ถึง 24 คน และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม โดยปัจจุบันโรคมะเร็งปากมดลูกคร่าชีวิตสตรีไทยเฉลี่ยถึงวันละ 14 คน ทั้งๆ ที่มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งเพียงไม่กี่ชนิดที่ป้องกันได้เพราะเรารู้สาเหตุแน่ชัดแล้วว่ามะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งมีวิธีการป้องกันเชื้อไวรัสดังกล่าวที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสเอชพีวี ดีเอ็นเอ และวัคซีนป้องกัน โดยช่วงเดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมาดร.เท็ดรอส แอดานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ได้กล่าวถ้อยแถลงซึ่งถือเป็นเป้าหมายระดับนานาชาติที่ตอบสนองต่อข้อผูกพันด้านนโยบายสุขภาพโลกในที่ประชุมขององค์การสหประชาชาติว่า “A world free of cervical cancer” หรือ “มะเร็งปากมดลูกควรจะต้องหมดไปจากโลกใบนี้” โดยมีมาตรการขจัดโรคมะเร็งปากมดลูกที่สำคัญ ได้แก่ การรับวัคซีน การตรวจคัดกรอง การรักษา และการดูแลแบบประคับประคอง โดยรัฐบาลไทยได้เป็นหนึ่งในประเทศที่เข้าร่วมสนับสนุนในการประชุมดังกล่าว ด้วยเหตุนี้สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย จึงได้ผนึกกำลังกับทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สานต่อนโยบายระดับชาติเพื่อรณรงค์สร้างเสริมสุขภาพให้สตรีไทยได้ตระหนักรู้ถึงการป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสเอชพีวี เพื่อลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกให้กับสตรีไทย”
ด้าน นายแพทย์ณัฐวุฒิ กันตถาวร แพทย์เฉพาะทางมะเร็งวิทยานรีเวช อาจารย์คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์และหัวหน้าศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า เพื่อให้สอดรับการตอบสนองต่อการสนับสนุนนโยบายสุขภาพโลกของทางองค์การอนามัยโลกศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จึงได้จัดทำโครงการรณรงค์ภายใต้แนวคิด “Wake up สตรีไทย ปลอดภัยไร้มะเร็งปากมดลูก รู้ไว้ป้องกัน HPV” ซึ่งในโครงการได้มีการจัดทำภาพยนตร์รณรงค์ให้ความรู้โดยทีมแพทย์เฉพาะทางมะเร็งวิทยานรีเวช และสูตินรีแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ที่ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ชุดดังกล่าว โดยมีสาระสำคัญที่เน้นย้ำให้สตรีไทย รู้จัก-ป้องกัน -ใส่ใจ-คัดกรอง เชื้อไวรัสเอชพีวีสาเหตุหลักของโรคมะเร็งปากมดลูก
“ปัจจุบัน วิทยาการทางการแพทย์ได้เจริญก้าวหน้า โดยมีวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจากการตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA) เพื่อจะบอกให้แพทย์ทราบว่าผู้ตรวจเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ ซึ่งการตรวจคัดกรองด้วยวิธีแปปสเมียร์จะสามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงในเซลล์ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 10 ปี ถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น และบางครั้งกว่าจะตรวจพบก็เข้าสู่มะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว ดังนั้น จึงมีการแนะนำให้สตรีในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือในกลุ่มสตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งสามารถตรวจได้ถึง 14 สายพันธุ์ และสามารถระบุได้ว่าเป็นการติดเชื้อเอชพีวี สายพันธุ์ 16 และ 18 ที่มีความเสี่ยงสูงในการพัฒนารอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากการติดเชื้อเอชพีวี มักไม่แสดงอาการ การตรวจหารอยโรคก่อนมะเร็งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้แพทย์ควบคุมความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูก และตัดสินใจเลือกวิธีรักษาโดยมีข้อมูลที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม สตรีที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ก็ยังต้องเข้ารับบริการตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอทุกปี เพื่อปกป้องตนเองจากเชื้อไวรัสเอชพีวี และโรคมะเร็งปากมดลูก นอกจากนี้ เรายังเน้นการสร้างเกราะป้องกัน ด้วยการลดพฤติกรรมเสี่ยง และแนะนำการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวีที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในต่างประเทศทั่วโลก จากงานวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนเอชพีวีล่าสุดพบว่า วัคซีนสามารถลดการติดเชื้อเอชพีวีซึ่งมีประสิทธิภาพป้องกันได้ถึงมากกว่าร้อยละ 90 ของเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 และ 18 ที่เป็นสาเหตุหลักในการก่อมะเร็งปากมดลูก และลดการเกิดรอยโรคก่อนมะเร็งได้ถึงร้อยละ 85 ดังนั้น การเผยแพร่ความรู้และทำความเข้าใจที่ถูกต้อง และการได้รับการป้องกันจากวัคซีนจึงเป็นเรื่องสำคัญในการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก โดยวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวีสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี ซึ่งเป็นวัยที่องค์การอนามัยโลกระบุว่าเหมาะสมที่สุดในการป้องกัน โดยถ้าได้รับวัคซีนตั้งแต่ในช่วงอายุนี้ ต่อไปเมื่อเติบโตขึ้นเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ จะได้มีภูมิคุ้มกันเตรียมพร้อมแล้ว”
และเพื่อร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ผสานทุกความเชี่ยวชาญ ปกป้องเคียงข้างสตรีไทยด้วยชุดโปรแกรมสุขภาพดีสตรีไทย ปลอดภัยไร้มะเร็ง
ปากมดลูก Wake up สตรีไทย รู้จัก ป้องกันใส่ใจ คัดกรองสุขภาพสตรีในอัตราพิเศษตลอดปี 2562 อาทิ ตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA) 14 สายพันธุ์ ราคา 990 บาท, ตรวจภายในและอัลตราซาวนด์อุ้งเชิงกราน ราคา 990 บาท, ตรวจภายในเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ราคา 790 บาท, ตรวจภายในเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกพร้อมตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวี ราคา 1,590 บาท และวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวีชนิด 4 สายพันธุ์ ราคาเข็มละ1,990 บาท ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์สุขภาพสตรี ชั้น 9 อาคารศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สอบถามรายละเอียดหรือนัดหมายเข้ารับบริการได้ที่ โทร.02-5766565/02-5766594
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี