ปัจจุบันชีวิตคนเมืองใหญ่ทั้งหลายทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีการดำเนินชีวิตที่คล้ายกันคือต้องเผชิญกับการแข่งขัน เร่งรีบอดนอน ภาวะกดดันต่างๆ ที่ก่อให้เกิดความเครียดรวมทั้งสภาพมลพิษที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่บั่นทอนสุขภาพทั้งสิ้น
จึงพบว่าอาการยอดฮิตของคนทำงานในเมือง คือ “ปวดหัว”ไม่ว่าจะปวดแบบตุ๊บตุ๊บ ปวดจี๊ด หรือปวดจนหัวแทบระเบิด ล้วนแล้วแต่เป็นความทุกข์ทรมานจากอาการปวดหัวซึ่งมีสาเหตุแตกต่างกันไป แต่ล้วนส่งผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจจนบางครั้งส่งผลต่อการดำเนินชีวิตและการทำงานเลยก็ว่าได้
ยิ่งเจออากาศที่ร้อนอบอ้าวและร้อนระอุด้วยแล้ว ไม่ใช่แค่สร้างความไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวให้กับคนเราเท่านั้น หากยังทำให้หลายต่อหลายคนปวดหัว ประกอบกับภาระหน้าที่การงานที่อัดแน่นในแต่ละวันก็ยิ่งเพิ่มดีกรีของอาการปวดหัวให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่เป็นไมเกรน ซึ่งนับวันจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยแล้ว อุณหภูมิความร้อนที่พุ่งสูงขึ้นและชีวิตที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดต่างเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ไมเกรนกำเริบได้ง่ายและมีอาการรุนแรงขึ้น ฉะนั้นใครที่เป็นไมเกรนจึงไม่ควรออกไปผจญอยู่ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนแรง หรือสถานที่ที่มีอากาศอุดอู้ เช่น ห้องที่คับแคบไม่มีอากาศถ่ายเทเป็นดีที่สุด
เมื่อพูดถึงอาการปวดหัว “ไมเกรน” เชื่อว่าหลายๆ คนอาจยังสงสัยและไม่แน่ใจว่าอาการปวดศีรษะที่กำลังประสบอยู่นั้นจะใช่ไมเกรนหรือเป็นแค่อาการปวดประเภทอื่นกันแน่
ข้อมูลจาก นพ.เอกวีร์ศรีปริวุฒิ ภาควิชาอายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยว่า ไมเกรน(migraine) เป็นอาการปวดหัวที่ทุกข์ทรมานซึ่งเกิดจากความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง ทำให้หลอดเลือดแดงในสมองเกิดการบีบและคลายตัวมากกว่าปกติจนเกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง และไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดธรรมดาๆ ส่วนสาเหตุและกลไกของอาการปวดไมเกรนจะยังไม่ทราบชัดเจน แต่สันนิษฐานได้ว่าสมองของคนที่เป็นไมเกรนมีความไวต่อการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมที่คุณทำ สิ่งที่คุณรับประทาน หรือแม้แต่สิ่งแวดล้อมรอบตัว ฯลฯ ซึ่งในแต่ละคนจะมีความไวต่อปัจจัยกระตุ้นที่แตกต่างกันไป
โดยทั่วไปการปวดศีรษะไมเกรนจะมีลักษณะอาการที่สำคัญคือ ปวดตุ๊บๆ ที่บริเวณขมับข้างเดียว หรือสองข้างพร้อมๆ กันก็ได้ บางคนอาจเริ่มจากปวดแบบตื้อๆ จี๊ดๆ แล้วจึงค่อยมีอาการปวดปานกลางจนถึงขั้นรุนแรง ขณะปวดไมเกรนอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร รวมถึงรู้สึกไวมากต่อเสียงและแสง
นอกจากนี้บางคนก่อนจะมีอาการปวดไมเกรนอาจมีสัญญาณเตือนให้รู้ล่วงหน้า เช่น เห็นแสงวูบวาบคล้ายแสงแฟลช ตาพร่ามัวมองไม่เห็นชั่วขณะ หรือหัวหมุนจนทรงตัวไม่อยู่ มีเสียงกังวานหรือหูอื้อ หรืออาการปวดตานำมาก่อนที่จะเริ่มปวดศีรษะ ฯลฯ
สำหรับตัวการสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรน ได้แก่
l อาหารบางชนิด เช่น อาหารกระป๋อง เครื่องเทศ ช็อกโกแลต เป็นต้น
l เครื่องดื่มบางชนิด เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ เป็นต้น
l พฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น การอดอาหาร การอดนอน ทำงานหนัก ความเครียด
l สิ่งแวดล้อมที่อาจเป็นตัวกระตุ้นเช่น อากาศร้อน การอยู่ท่ามกลางแสงแดด กลิ่นหอมจัด ฉุนจัด อยู่ในสถานที่แออัด มีควันบุหรี่ นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ เป็นต้น
l การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนของผู้หญิง เช่น การมีประจำเดือน หรือการใช้ยาคุมกำเนิดก็มีส่วนด้วยเช่นกัน
ผู้ที่เป็นไมเกรนบ่อยๆ จึงควรหมั่นสังเกตว่า มีอะไรเป็นสิ่งที่กระตุ้น เพื่อจะได้หาทางหลีกเลี่ยงและป้องกันไว้ล่วงหน้า ขณะเดียวกันหากกำลังปวดศีรษะจนแทบจะระเบิดอยู่นั้น สามารถที่จะลดความถี่และความรุนแรงลงได้ด้วยการใช้ยา แต่ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อรับคำแนะนำในการใช้ยาที่เหมาะสมและปลอดภัย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าอาการปวดหัวไมเกรนจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สำหรับคนที่กำลังปวดศีรษะไมเกรน ควรปลีกตัวไปหาที่เงียบสงบ ไม่มีแสงจ้า หาน้ำแข็งมาประคบที่ศีรษะ จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้มาก หรือรับประทานยาแก้ปวดไมเกรนแล้วนอนพักสักครู่ ขณะเดียวกันควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันอาการกำเริบได้ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่กระตุ้นอาการไมเกรน เช่น ช็อกโกแลต ชีส ไวน์ อาหารปรุงแต่งต่างๆ อาทิ อาหารที่มีไนเตรท หรือผงชูรสมากๆ รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนและแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ควรดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใส ไม่เครียดและพักผ่อนให้เพียงพอก็จะช่วยให้โอกาสเกิดไมเกรนหรือระดับความรุนแรงที่เกิดลดลงได้
หากเตรียมตัวตั้งรับด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ พร้อมกับพยายามดูแลสุขภาพให้ดีควบคู่กันไป คุณก็จะสามารถตั้งรับและบรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรนที่เข้ามาจู่โจมได้ไม่ยาก
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี